หลังจากที่ iPhone 12 ได้วางขายในบางประเทศได้ไม่นาน ในตอนนี้ก็ได้มีผลการทดสอบกล้องหลังของ iPhone 12 Pro ได้เผยออกมาให้เราได้ทราบกันแล้ว โดยผู้ที่ทำการทดสอบดังกล่าวคือเว็ปไซต์ DxOMark เว็ปไซต์ที่ทำการทดสอบและจัดอันดับกล้องสมาร์ทโฟนรุ่นต่าง ๆ

iPhone 12 Pro

ซึ่งผลการทดสอบของเจ้า iPhone 12 Pro บนเว็ปไซต์ DxOMark นั้นมีคะแนนกล้องหลังโดยรวมอยู่ที่ 128 คะแนน แบ่งเป็นคะแนนการถ่ายภาพ 135 คะแนน, คะแนนการถ่ายซูม 66 คะแนน และคะแนนการถ่ายวิดิโอ 112 คะแนน

สเปคกล้องหลังของ iPhone 12 Pro

  • กล้องตัวหลัก: 12MP (1.4 micron photo sites), เทียบเท่าเลนส์ขนาด 26 mm (f/1.6), รองรับ PDAF, รองรับ OIS
  • กล้อง Ultra-wide: 12MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.6 นิ้ว, เทียบเท่าเลนส์ขนาด 13 mm (f/2.4)
  • กล้อง Tele: 12MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.4 นิ้ว, เทียบเท่าเลนส์ขนาด 52 mm (f/2.0), รองรับ PDAF, รองรับ OIS
  • เซ็นเซอร์ตรวจจับความลึก LiDAR
  • แฟลช LED คู่
  • รองรับการถ่ายวิดิโอ Dolby Vision HDR 4K ที่ 24/30/60 fps

 

ส่งผลให้ iPhone 12 Pro ถูกจัดให้อยู่ที่อันดับ 5 ในสมาร์ทโฟนที่มีกล้องหลังดีที่สุด โดยตามหลังทั้ง Huawei Mate 40 Pro ที่ทำได้ถึง 136 คะแนน, Xiaomi Mi 10 Ultra ที่ทำได้ถึง 133 คะแนน, Huawei P40 Pro ที่ทำได้ถึง 132 คะแนน และ iPhone 12 Pro สามารถทำคะแนนได้เท่ากับ Xiaomi Mi 10 Pro อยู่ที่ 128 คะแนน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายจากกล้องหลังของ iPhone 12 Pro

ภาพซ้ายแสดงให้เห็นถึงการเก็บรายละเอียดสีในการถ่าย indoor ได้ค่อนข้างแม่นยำ และภาพขวาแสดงถึงช่วง dynamic range ที่ยอดเยี่ยม

ทดสอบ Exposure และ Contrast

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 11 Pro Max

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G

ทดสอบรายละเอียดสี

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G

ทดสอบ auto fucus

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G

ทดสอบ noise ภายในภาพ

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 11 Pro Max

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 11 Pro Max

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 11 Pro Max

ทดสอบ artifact

จะพบว่ามี artifact ตรงบริเวณท้องฟ้าทางด้านซ้ายบน

ทดสอบการถ่ายภาพกลางคืน

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 11 Pro Max

ทดสอบการถ่ายละลายหลัง (bokeh)

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 11 Pro Max

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 11 Pro Max

ทดสอบเลนส์ telephoto

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 11 Pro Max

ทดสอบเลนส์กว้าง

ภาพซ้ายถ่ายด้วย iPhone 12 Pro , ภาพกลางถ่ายด้วย Huawei P40 Pro, ภาพขวาถ่ายด้วย Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G

ตัวอย่างการซูมในวิดิโอ

ตัวอย่างวิดิโอแบบ outdoor

ตัวอย่างวิดิโอแบบ indoor

สรุปจุดเด่น-จุดด้อยของกล้องหลัง iPhone 12 Pro

จุดเด่น

  • ความแม่นยำสูงในโหมด autofocus ในทุกสภาพแสง
  • exposure มีความแม่นยำสูงทั้งการถ่ายภาพและวิดิโอ
  • แสดงสีได้ดีในการถ่ายแบบ indoor
  • เก็บรายละเอียดภาพได้ดีทั้งการถ่ายแบบ indoor รวมทั้งการถ่ายในแสงจ้า
  • แสดงผลสีและ skin tones ได้ดีในการถ่ายวิดิโอ
  • ระบบกันสั่นในการถ่ายวิดิโอทำได้ค่อนข้างดี

จุดด้อย

  • dynamic range จำกัดในการถ่ายภาพส่งผลให้เกิด highlight และแสดงผลเงาเพี้ยนได้
  • ภาพออกโทนน้ำเงินและเขียนในการถ่ายแบบ outdoor
  • มี noise ในรูปภาพ โดยเฉพาะในการถ่าย indoor และถ่ายในสภาพแสงน้อย
  • มี artifacts ในรูปภาพ, เนื้อสีเพี้ยน (color quantization), ghosting
  • สีภาพเพี้ยนในการถ่ายวิดิโอ
  • เก็บรายละเอียดไม่ดีเท่าที่ควรในการถ่ายวิดิโอแบบ indoor และถ่ายในสภาพแสงน้อย
  • พบเนื้อสีเพี้ยน (Color quantization) แสงแฟลร์ในการถ่ายวิดิโอ

SOURCE