Home Smartphone News แนะนำ 3 รุ่นเด่น! เข้าสู่ยุค 5G กับ สมาร์ทโฟน realme 5G เริ่มต้น ไม่ถึงหมื่น...

Smartphone News

แนะนำ 3 รุ่นเด่น! เข้าสู่ยุค 5G กับ สมาร์ทโฟน realme 5G เริ่มต้น ไม่ถึงหมื่น !

January 20, 2021

สมาร์ทโฟนที่ออกมารองรับ การใช้งานเครือข่าย 5G นั้นมีเปิดตัวลุยตลาดกันมาอย่างต่อเนื่องและหลากหลายเรทราคา แน่นอนว่า แบรนด์นึงที่ออกมาครอบคลุมตัวเลือกสำหรับผู้ใช้งานนั้นไม่พ้นค่าย realme ที่มีหลากหลายมือถือหลากหลายเรทราคาออกมาให้เลือกใช้งาน ตั้งแต่ตัวเริ่มต้นไม่ถึง 1หมื่นบาท หรือจะเป็นตัวเทพๆเรือธงก็มีให้เลือกครับ ทางเราเลยมาแนะนำสำหรับใครที่กำลังหา สมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งานของค่าย realme มาแนะนำกันเป็นตัวเลือกทั้งราคาไม่แรง หรือ จะเน้นสเปคแรงๆก็มีให้เลือก รวมถึงทดสอบการใช้งานเครือข่ายและการใช้งานจริงๆของ 5G ในไทยนั้นจะเป็นอย่างไรกัน ทั้งความแรงหรือส่งผลอย่างไรบ้างในการใช้งานบนเครือข่ายในไทย

5G ในประเทศไทยก็เรียกได้ว่ามีค่อนข้างครอบคลุมรองรับการใช้งานหลากหลายเครือข่ายแล้วนั้นเองทำให้การใช้งานมือถือหลากหลายรุ่นนั้นน่าลงทุนในการรองรับถ้าใครที่อยู่ในเมืองหรือกรุงเทพ การใช้งาน 5G นั้นถือว่ามีประโยชน์พอสมควรครับ แน่นอนว่าส่งผลหลักๆนอกเหนือจากการเชื่อมต่อแล้วนั้น การดูหนังทั้ง YOUTUBE NETFLIX หรือแม้จะเป็นการเล่นเกมก็ส่งผลต่อการใช้งาน การเชื่อมต่อมากๆ ในการดูหนังนั้นทำให้เราสามารถกรอหนัง หรือ เปลี่ยนเรื่องดูอะไรได้แบบไม่ต้องรอโหลดเรื่องใหม่เลย รวมถึงการใช้งาน 5G นั้นจะส่งผลทำให้ปิงค่ออนข้างน้อยครับรองรับการใช้งานได้ดีไม่เจออาการหน่วงหรือแลคเท่าไรและจะนิ่งเสถียรมากกว่า 4G ที่เราเคยใช้งานเยอะมาก

การรองรับ 5G ในปี 2021 !

ในปี 2021 แล้วแน่นอนว่าทุกๆเครือข่ายก็รองรับการใช้งาน 5G กันมากขึ้นและ ในกรุงเทพก็เรียบได้ว่าครอบคลุมมากขึ้นแล้ว และในปีนี้น่าจะสามารถใช้งานได้ครบทั้งหมด และต่างจังหวัดก็มีขยายกันไปเรื่อยๆทำให้ในปี 2021 นี้ต้องบอกกันตรงๆว่า ถ้าจะซื้อมือถือใช้งานระยะยาว สมควรที่จะรองรับการใช้งาน 5G ทั้งช่วยในเรื่องของความเร็ว และส่งผลถึงการเชื่อมต่อทั้ง AIOT ต่างๆไม่ว่าจะเป็นระบบที่เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมมากขึ้นในยุคนี้ และสินค้าก็มีหลายๆอย่างใช้งานการพูดคุยกับ ระบบเครือข่ายมากขึ้นและ 5G ก็ออกมาตอบโจทย์ตรงนี้ครับ และทางด้านมือถือ realme 5G เองนั้นก็สามารถเชื่อมต่อ 5G ผ่านซิมการ์ดใดก็ได้เพื่อประสบการณ์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง นอกจากนี้ยังรองรับ 5G-CA (2CC 5G Carrier Aggregation) การนำความถี่หลายย่านมารวมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการรับสัญญาณ และสามารถรองรับ รองรับ 12 คลื่นความถี่ 5G ทั่วโลก (n1, n3, n5, n7, n8, n20, n28, n38, n40, n41, n77, n78) เรียกได้ว่าพร้อมใช้งานทันที และใช้งานได้ทั้ง 2 ซิมครับ ถือว่าค่อนข้างสะดวกพอสมควร และ ในรุ่นที่รองรับแบบนี้ทั้ง 7 5G / X7 Pro 5G บอกเลยว่าสามารถใช้งานได้สบายๆครับ

5G กับการใช้งานจริง

จากที่ทดสอบใส่ของ AIS หรือ TRUE ก็ขึ้นทันทีในหลายๆรุ่นที่รองรับนะครับ และสามารถเลือกใช้งานได้เลย ทำการทดสอบในใจกลางเมืองเป็นแหล่งที่คนค่อนข้างหนาแน่นก็ถือว่าทำได้ไวกว่า 4G หลายเท่าตัวในแพ็คเกจเดียวกันครับพุ่ง 300+ ได้ตลอด สำหรับการใช้งาน 5G นั้นจะเด่นๆคือ Download เพิ่มขึ้น 300 – 700 Mbps ได้แล้วแต่สถานที่และช่วงเวลานั้นๆ และ Ping น้อยลงอย่างมากครับ และ ความเร็วในบางช่วงหรือบางสถานที่ทำได้ 800+ ได้เลยทำให้การดูหนังหรือว่าโหลดข้อมูล การโอนย้ายไฟล์ต่างๆนั้นส่งผลต่อการใช้งานที่ลื่นไหลมากขึ้น เข้าดู Youtube 4K ได้แบบสบายไม่ต้องรอโหลดเลยนั้นเองหรือจะเป็นการดู Steaming จะลื่นไหล และสามารถโหลดทำงานอย่างอื่นพร้อมกันไปได้ด้วยครับ แน่นอนว่าถ้าทดสอบหลายๆสถานที่ความเร็วอาจจะไม่ได้เหมือนกันครับในแต่ละสถานที่แต่เท่าที่ใช้งานจริงๆแน่นอนว่าการโหลดอะไรใช้งานนั้นมีความแตกต่าง+ความนิ่งของสัญญาณด้วย

แนะนำ Smartphone 5G จากทาง realme

ทางด้าน Smartphone จากค่าย realme จริงๆนั้นเริ่มเข้ามาซักพักแล้วครับเรียกได้ว่าเตรียมตัวมานานสำหรับค่ายนี้เริ่มที่จะมีการรองรับ 5G มานานแล้วตั้งแต่ตัวแรกๆคือ realme X50 5G และ ต่อเนื่องมาก X50 Pro 5G ตัวเทพของค่าย จะใช้งานทางด้าน CPU ค่ายมังกร Snapdragon ทั้งคู่นะครับ ส่วนการรองรับก็ใช้งานได้สบายไม่มีปัญหาแต่อย่างใด รวมถึงในยุคหลังๆหรือปลายปีที่ผ่านมานั้น realme เริ่มลุยตลาด 5G หนักมากขึ้นด้วย รุ่นที่ทำราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาทคือตัว realme 7 5G จะใช้งาน MTK Dimensity 800U ตัวคุ้มค่า และ X7 Pro 5G ที่รองรับ 5G ด้วยการใช้งาน MTK Dimensity 1000+ ตัวเทพของค่าย เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกรุ่น ทุกเรทราคา และ ทุกค่ายทั้ง มังกร Snapdragon และ MediaTek นั้นเองครับ และมีทั้งรุ่น เรือธง Snapdragon 865 5G และ MTK Dimensity 1000+ รวมถึงรุ่นกลาง ราคาดีอย่าง MTK Dimensity 800U และ Snapdragon 765G 5G นั้นเองทำให้ค่ายนี้เป็นค่ายที่ออกมาตอบโจทย์การใช้งานอย่างมากในการใช้งานจริงของระบบ 5G และ เครือข่ายครับ และมีตั้งแต่เรทราคา 9,990 บาทไปจนถึง 28,990 บาทรองรับการใช้งานได้ดี

realme 7 5G ราคา 9,999 บาท

realme X50 5G มาพร้อมกับการใช้งาน Snapdragon 765 5G พร้อมกับ GPU Adreno 620 และมาพร้อมกับ RAM 8GB LPDDR4X พร้อมกับ พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB UFS 2.1 ครับ ทางด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ Ultra Smooth 120Hz แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2400×1080 ในขนาด 6.57 นิ้วอัตราส่วน 20:9 และ สัดส่วนที่ 90.4% ปรับความสว่างได้สูงสุด 480nits พร้อม Corning Gorilla Glass 5 และมีรีเฟรช เรทที่ 120Hz ครับถือว่าหน้าจอก็จัดเต็มเช่นกัน ทางด้านวัสดุฝาหลังก็เป็นกระจกด้วยครับแบบเดียวกับหน้าจอเลย ส่วนในเรื่องของ กล้องหลังนั้นใช้งาน กล้องหลัง 4 ตัว ตัวหลัก 48 MP รูรับแสงขนาด f/1.8, เลนส์ 6P + Ultra-Wide 8MP รูรับแสงขนาด f/2.3, เลนส์ 5P, มุมมองกว้าง 119 องศา + จับระยะ ความละเอียด 2 MP รูรับแสงขนาด f/2.4 + เลนส์มาโคร 2 MP โฟกัส 4ซม., รูรับแสงขนาด f/2.4, เลนส์ 3P และ ใช้กล้องหน้า ความละเอียด 16 MP เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.0 + เลนส์จับระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ส่วนทางด้าน แบตนั้นมาพร้อมกับ แบตเตอรี่ 4,200 mAh DART 30W ชาร์จไว รวมถึงทางด้านระบบเสียง Hires-Audio และรองรับ Dolby Atmos แต่ลำโพงนั้นเป็นลำโพงเดี่ยวนะครับ แอบเสียดายนิดในส่วนนี้แต่ถ้ามองเทียบราคาถือว่าทำได้ดีเลยแหละ

realme X7 Pro 5G 16,990 บาท

realme X7 Pro 5g ตัวนี้มาพร้อมกับการใช้งาน MTK Dimensity 1000+ ตัวแรงล่าสุดของทางค่ายมาพร้อมกับ RAM 8GB STORAGE 128GB การ์ดจอที่มาพร้อมตัวชิปนั้นคือ Mali G77 MP9 และแน่นอนว่า รองรับ 5G Dual Stanby ด้วยเช่นกันครับ ทางด้านหน้าจอนั้นบอกเลยว่าเป็นหน้าจอที่เทพที่สุดของทางค่ายแล้วในตอนนี้ มาพร้อมกับหน้าจอ แบบ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว การใช้งานลื่นไหลด้วยอัตรา Refresh Rate 120 Hz รองรับสแกนนิ้วบนหน้าจอ และ สีสวย และสู้แสงได้ดีรวมถึงเป็นหน้าจอแบบเจาะรูเช่นกันในความ ละเอียด 2400x 1080 FHD+ และ สัดส่วน Screen-to-body ratio 91.6% สัมผัสสูงถึง 240Hz และที่น่าสนใจคือรองรับความสว่างสูงมากๆถึง 1,200 nit และค่าสี 100% DCI-P3, 103% NTSC รวมถึงใช้งาน Corning Gorilla Glass 5 จากสเปกที่บอกมากล้าพูดว่าหน้าจอที่ดีที่สุดของค่ายนี้ในตอนนี้เลยนั้นเอง มาพร้อมกับ ลำโพงคู่ และ รองรับ Dolby Atmos รวมถึง Hi-Res ผ่านทางหูฟัง ทางด้านกล้องนั้นจัดเต็มมาให้ในกล้องหลัง 4 ตัว เลนส์หลัก ความละเอียด 64 MP ด้วยเซนเซอร์ Sony IMX 686 พร้อมกับ F1.8 ส่วนเลนส์มุมกว้าง 119 องศา ที่ 8MP F2.2 และ 2MP เลนส์ขาวดำ สำหรับจับระยะ และ มาโคร 2MP ระยะ 4 เซนติเมตรนั้นเอง ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 32MP F2.4 รองรับการใช้งานได้ดี และแน่นอนว่า แบตให้มาที่ 4,500 mAh รองรับ SuperDart 65W จัดเต็ม