vivo ได้เปิดตัวสมาร์ทเรือธง X60 Pro+ รุ่นใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ประเทศจีน ตามที่ได้สัญญาไว้ โดย X60 Pro+ มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว FHD+, ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และความถี่การตอบสนอง 240Hz รวมทั้งรองรับ HDR 10+ และสามารถเปลี่ยนสีได้อย่างแม่นยำด้วย JNCD 0.4 ส่วนกล้องหน้าเป็นแบบเจาะรูที่มีความละเอียด 32MP
ภายในตัวเครื่องใช้ชิบ Snapdragon 888 ที่รองรับ 5G และมาพน้อม RAM LPDDR5 สูงสุด 12GB
ในส่วนของกล้องที่เป็นตัวชูโรงของ vivo X60 Pro+ นั้นมาพร้อมกล้องตัวหลัก 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ ISOCELL GN1 ขนาด 1/1.3 นิ้ว และมาพร้อม OIS แบบธรรมดา รวมทั้งมีขนาดพิกเซล 1.2 µm (2.4 µm เมื่อใช้การรวมภาพ หรือ binning) และขนาดรูรับแสง f/1.57 ทำให้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้คุณภาพดีเยี่ยม
นอกจากนี้กล้องยังมาพร้อมฟีเจอร์ Super Night Mode 2.0 ที่สามรถถ่ายได้แม้ในความเข้มแสง 0.01 lux (เทียบเท่าความเข้มแสงในคืนพระจันทร์เสี้ยว) รวมทั้งมีการตอบสนองต่อแสงดีขึ้น 38.8% และความแม่นยำการโฟกัสเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา
กล้องตัวถัดมาคือกล้องมุมกว้าง ultra wide (114°, 14 mm) ความละเอียด 48MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ IMX598 มาพร้อมระบบกันสั่นแบบ gimbal ที่สามารถแก้ไของศาของการเคลื่อยไหวได้แม่นยำ ±3° ซึ่งถือว่ามากกว่า OIS ทั่วไปถึง 3 เท่า และมีขนาดพิกเซล 0.8 µm (ขนาดเท่ากับกล้องตัวหลักของ vivo X50)
ต่อมาคือกล้อง periscope 8MP ที่สามารถซูมแบบความละเอียดสูง (optical) ได้ 5x และซูมแบบ digital ได้ 60x ส่วนกล้องตัวสุดท้ายคือกล้องเทเลโฟโต้ตัวที่สองที่มีความละเอียด 32MP และขนาดเลนส์ 50mm (ซูมได้ 2x) สำหรับซูมในระยะกลางและถ่าย portrait
ส่วนโลโก้ ZEISS ด้านข้างกล้องตัวหลักนั้นหมายถึงการเคลือบด้วยสาร T* ที่ป้องกันการสะท้อนแสงไว้ที่ทั้งสองด้านของแต่ละเลนส์ และยังมีการใช้โครงสร้างแบบ nano-crystaline ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกของสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว
ตัวเครื่องจะใช้ดีไซน์แบบสองเลเยอร์ที่ใช้วัสดุต่างกันคือ กระจก และโลหะ อีกทั้งตัวเครื่องด้านหลังยังทำมาจากหนังคุณภาพสูงและสีที่แสดงถึงความนุ่มนวลและความอบอุ่น ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุ 4,200mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 55W
รวมทั้งในกล้องยังแถมทั้งหัวชาร์จ, สายชาร์จ, หูฟังแบบ USB-C และตัวแปลงจาก USB-C เป็น 3.5mm (เพื่อใช้ร่วมกับ Cirrus CS4313 DAC) รวมทั้งเคสแบบใส
สเปคของ Vivo X60 Pro+
- หน้าจอ E3 AMOLED โค้งขนาด 6.56 นิ้ว (2376×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 19.8:9, รีเฟรชเรท 120Hz, ความถี่การตอบสนอง 240Hz, HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1300nits
- ชิบประมวลผล Snapdragon 888 5nm
- การ์ดจอ Adreno 660
- RAM LPDDR5 8GB + ความจุ (UFS 3.1) 128GB / RAM LPDDR5 12GB + ความจุ (UFS 3.1) 256GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย OriginOS 1.0
- ซิมคู่
- กล้องหลัง
- กล้องตัวหลัก 50MP (f/1.57) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Samsung GN1 ขนาด 1/1.3 นิ้ว, รองรับ OIS + EIS, เคลือบด้วย Zeiss T*
- กล้อง ultra-wide 114° 48MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598, รองรับกันสั่น gimbal stabilization
- กล้อง portrait ขนาด 50mm 32MP (f/2.08)
- กล้อง periscope 8MP (f/3.4), รองรับ OIS, ซูมแบบ optical ได้ 5x, ซูมแบบ digital ได้ 60x, HDR10+ 4K และถ่ายวิดิโอความละเอียดสูงสุด 8K
- แฟลช LED
- กล้องหน้า 32MP (f/2.45)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- รูหูฟัง USB Type-C, คุณภาพเสียง Hi-Fi
- ขนาดตัวเครื่อง: 158.59×73.35×9.10มม.; น้ำหนัก: 190กรัม
- รองรับเครือข่าย
- 5G SA/ NSA
- Dual 4G VoLTE
- Wi-Fi 802.11 ax
- Bluetooth 5.1
- GPS (L1+L5 Dual Band) + GLONASS
- ใช้พอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4,200mAh ที่รองรับแบตเตอรี่ 55W
เจ้า vivo X60 Pro+ มีให้เลือกในสีน้ำเงิน (Phantom Blue) และสีส้ม (Classic Orange) ที่มาฝาหลังทำจากหนัง โดยมีราคาอยู่ที่ 4,998 หยวน (ประมาณ23,100บาท) ในรุ่น 8GB + 128GB และราคา 5,998 หยวน (ประมาณ27,800บาท) ในรุ่น 12GB + 256GB ซึ่งจะวางขายที่ประเทศในวันที่ 30 มกราคมนี้