HYPER X ได้เปิดตัว HYPER X CLOUD II WIRELESS ซึ่งสานต่อจากรุ่นที่ต้องบอกว่ายอดนิยมตัวนึงของค่ายนี้คือตัว HYPER X CLOUD II นั้นเองแต่ครั้งนี้มาพร้อมกับการรองรับการใช้งานแบบไร้สายแล้วทำให้การใช้งานนั้นลงตัวมากขึ้นเพราะว่าในซีรีย์ CLOUD II ถือว่าในเรื่องของเสียง ความเบา การสวมใส่นั้นทำได้ดีมากๆรวมถึงงานออกแบบก็สวยงามมีการตัดด้วยโครง อลูมิเนียมสีแดงสวยงาม และยังคงได้ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 53 มม. รวมถึง วัสดุงานออกแบนั้นเรียกได้ว่าเหมือนกัน และฟองน้ำอะไรนั้นถือว่าเป็นวัสดุหนานุ่มเช่นเดียวกันด้วยเช่นเดียวกันครับ
HYPER X CLOUD II WIRELESS นั้นมาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาด 53 มม. พร้อมกับการรองรับเสียง 7.1 ในการปรับแต่ง Software รวมถึงเป็นรุ่นที่ใช้งานออกแบบทั้งหมดคล้ายกับรุ่นปกติที่ไม่ใช่ไร้สาย และการรองรับการใช้งานนั้นมากถึง 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จ ใช้งาน USB-C ในการชาร์จไฟเข้า รวมถึง ทางด้านวัสดุนั้น ใช้งานเมมโมรี่โฟมลิขสิทธิ์เฉพาะจาก HyperX และวัสดุคล้ายหนังคุณภาพระดับพรีเมี่ยม และ โครงหูฟังแบบ อลูมิเนียมสีแดงสวยงาม ทางด้านการใช้งานไร้สายนั้นจะเป็นการใช้งาน 2.4Ghz และ ไกลถึง 20 เมตร และรุ่นนี้มาพร้อมกับตัวกรองไมค์แบบฟองน้ำทำให้เวลาใช้งานช่วยกรองเสียงได้ดี และ มีโหมด Monitor ให้ใช้งานสำหรับการฟังเสียงตัวเอง
UNBOX
- ตัวหูฟัง HYPER X CLOUD II WIRELESS
- Adaptor ส่งสัญญาณ USB-A
- ไมค์ 3.5มม.
- ตัวกรองเสียงไมค์
- สายชาร์จ USB-C
- คู่มือการใช้งาน
DESIGN
แน่นอนว่างานออกแบบในรุ่นนี้มาพร้อมกับงานออกแบบที่ดึงมาจากรุ่น CLOUD II ทั้งหมดครับแน่นอนว่ามันเป็นรุ่นเดียวกันที่อัพเกรดมาใช้งานแบบไร้สาย ทำให้ไม่ได้มีความแตกต่างกับรุ่นปกติที่เราเคยเห็นหรือรู้จักกันเท่าไรครับ งานออกแบบยังคงโดดเด่นในเรื่องของสีสัน สีแดง สีดำเป็นคู่สีที่สวยและตัดกันได้อย่างดี มาพร้อมกับน้ำหนัก 300 กรัมกำลังดีครับ และเป็นรุ่นที่ใส่สบาย น้ำหนักเบา และงานประกอบเอาจริงๆแบรนด์นี้ยังคงมีความแข็งแรงดีมากๆ
ทางด้านซ้ายและขวาของตัวหูฟังนั้นไม่ได้มีปุ่มควบคุมอะไรบนทั้ง 2 ฝั่งตามภาพครับจะเป็นแค่โลโก้สีแดงเท่านั้น แต่ในฝั่งซ้ายนั้นจะเป็นที่เสียบไมค์ได้ด้วยนั้นเอง ส่วนปุ่มควบคุมจะอยู่ตามขอบหูฟังทั้งหมด ทำให้ด้านข้างนั้นเรียบๆทั้งหมดเลยจะเห็นว่างานออกแบบขอบโครงอลูมิเนียมขึ้นรูปชิ้นเดียวกันสวยงามและดูเบาบางเหมือนกับรุ่นปกติครับ
โครงทั้งหมดใช้อลูมิเนียมทำให้เรื่องของความแข็งแรงหรือการใช้งานนั้นทำออกมาได้ดีมีความกระชับมากขึ้นและไม่ได้บีบรัดมากเกินไปครับสำหรับหูฟังตัวนี้ ส่วนดูใกล้ๆการลงสีหรือว่าจะเป็นงานออกแบบถือว่าดูดีชัดเจนครับ สามารถปรับระดับความยาวของตัวหูฟังได้หลากหลายล็อกตามภาพเลย แต่น่าเสียดายว่ามันเอียงหรือหมุนซ้ายขวาไม่ได้มาก
ตัวไมค์นั้นเราจะเห็นว่าสามารถถอดออกมาได้ ที่เป็นพอร์ตเฉพาะของหูฟังและมีความโค้งรับกันได้ดีครับ ตัวก้านหูฟังสามารถงอเอียงได้อิสระมากๆและตัวไมค์เราจะเห็นว่ามีตัวฟองน้ำสีดำกรองเสียงมาให้ถือว่าดีกว่ารุ่นอื่นๆเช่นกันครับ และตัวไมค์นั้นมีไฟสถานะสีแดง เวลา Mute ได้ด้วยทำให้เห็นชัดเจนเลยว่าไมค์นั้นไม่ได้ทำงานอยู่ สามารถกดปิดตรงหูฟังได้เลยครับ และระยะของไมค์นั้นยาวกำลังดี และรองรับการใช้งานทั่วไปเวลาพูดคุยได้ดีเช่นเดียวกันครับ
ฟองน้ำทั้งบนก้านหูฟังมีความนุ่มกำลังดี และ ไม่ได้บางมากเกินไปครับแต่อาจจะไม่ได้แน่นมากนักเวลากดลงไปครับเน้นความบางเบาสบายซะมากกว่า ส่วนฟองน้ำตรง Earcup ของรุ่นนี้ยังคงใช้งาน Memmory Foam ที่คุ้นเคยกันวัสดุนั้นจะใช้งานวัสดุหนังเทียมแต่เป็นหนังเทียมที่มีความนุ่ม และ นิ่มมากๆในการใส่ใช้งานถือว่าสบายเอาเรื่องเลย แต่ด้วยความเป็นหนังเทียมนั้นอาจจะทำให้เรื่องของการระบายไม่ได้เทพมากนักเวลา ไม่ได้เล่นในห้องปรับอากาศ
ปุ่มเปิดปิด หรือ ว่าปุ่มควบคุมของตัวหูฟังนั้นจะอยู่ตรงขอบหูฟังทั้งหมด ในด้านซ้ายเราจะเห็นว่ามีปุ่ม เปิดปิดตัวหูฟัง และ จะทำงานเป็นปุ่มเปิดปิด เสียง 7.1 ด้วยเช่นกัน มาพร้อมกับ ปุ่ม Mute ไมค์ และ ไฟสถานะ ส่วนพอร์ตชาร์จ USB-C และ รูไมค์นั้นจะอยู่ฝั่งนี้เช่นเดียวกันครับ ส่วนที่ฝั่งขวานั้นเราจะเห็นแค่ที่ปรับระดับเสียงถือว่าสะดวกและสมูท
SPEC
- เฮดโฟนไดร์เวอร์ 53 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียม
- ประเภท แบบครอบเต็ม ปิดด้านหลัง
- ความถี่ 15Hz–20kHz
- ความต้านทาน 60 Ω
- ระดับแรงดันเสียง 104dBSPL/mW ที่ 1kHz
- T.H.D. ≤ 1%
- น้ำหนัก 300 ก. น้ำหนักพร้อมไมค์ 309 ก.
- ความยาวและประเภทสายต่อ สายชาร์จ USB (0.5 ม.)
- เวลาใช้งานแบตเตอรี่2.30 ชั่วโมง
- ช่วงสัญญาณไร้สาย3 2.4 GHz. สูงสุด 20 เมตร
- ไมโครโฟน ส่วนประกอบ ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
- รูปแบบขั้ว สองทิศทาง พร้อมระบบตัดสัญญาณรบกวน
- ความถี่ 50Hz–6.8kHz. ความไว -20dBV (1V/Pa ที่ 1kHz)
SOFTWARE
ทางด้าน Software นั้นยังคงใช้งาน HYPER X NGENUITY เช่นเดิมแน่นอนว่ารุ่นนี้อาจจะไม่ได้มีการปรับแต่งอะไรเยอะมากนักรองรับการดูสถานะแบตมุมขวาบน และ ปรับเสียง ปรับระดับเสียงไมค์ และ เปิดปิด 7.1 พร้อมกับ เปิดปิด Monitor ไมค์ แค่นั้นครับ อาจจะปรับแต่งได้ไม่มากนักในรุ่นนี้แต่ก็พอใช้งานทั่วไป หน้าตาแอปจริงๆจะเหลือพื้นที่เยอะมากๆ ทางแอดเลยแคปเอามาขยายส่วนที่สำคัญให้เห็นกันอีกทีนะครับ สำหรับตัวการปรับแต่งหูฟังตัวนี้
SOUND
ทางด้านเสียงต้องบอกว่าในรุ่นนี้รองรับการใช้งาน การส่งเสียงที่ไม่แลค ฟีเจอร์ Lag-Free นั้นเองทำให้ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง หรือจะเป็นการคุยงานทุกอย่างนั้นไม่เจออาการหน่วงแต่อย่างใด และตัวไมค์มาพร้อมกับ 6 มม. เรื่องเสียงจัดว่าดี และ หูฟังไดรเวอร์ขนาดใหญ่มากๆ 53 มม. ทำให้เรื่องของเสียงการสังสัญญาณเสียงไม่ธรรมดาครับ เสียงตัวนี้ถือว่าไดรเวอร์ขนาดใหญ่มากๆตัวนึงและเสียงที่ขับออกมากำลังขับดี มิติเสียงดี และ เสียงมีคุณภาพมากๆ และการที่ใช้งานไมค์ พร้อมกับตัวกรองเสียงแบบนี้ทำให้เสียงเวลาคุยหรือพูดลดเสียงกระแทกจากการพูดได้ดีมาก ถือว่าคุณภาพทั้งเรื่องเสียงไมค์ เสียงที่ได้ยินจากหูฟังคุณภาพแน่นๆตัวนึง และแบตที่ใช้งานก็อึดตอบโจทย์ได้ดี
เสียงของหูฟังนั้นจะรองรับการทำงานแบบ STEREO และ 7.1 แน่นอนว่าการใช้งานก็แตกต่างกันไป สำหรับการฟังเพลงทดสอบโดยเปิด STEREO กันก่อนเสียงเพลงขับออกมาสนุกฟังง่าย เน้นฟังสนุกสนานเบสมาดี แต่ก็ไม่ได้กระแทกเยอะเกินไป เวทีเสียงกว้างพอสมควรได้ยินเสียง รายละเอียดชิ้นดนตรีอะไรชัดเจน เสียงร้อง เสียงคนพูดกลางๆอาจจะไม่ได้เด่นเท่าไรครับ แต่จะเน้นเวทีเสียง และเสียงฟังสนุก เบสมาแบบกำลังดีเพลินๆครับไม่ได้แน่นกระแทกมากไป เพราะด้วยตัวหูฟังจะเน้นเสียงที่เล่นเกมทั่วไปง่ายๆ ขับหลายทิศทางซะมากกว่าเลยทำให้ฟังเพลงก็พอฟังสนุก ฟัง POP ROCK EDM สบายๆครับไม่ติดปัญหาเลย แต่ถ้าเน้นรายละเอียด ความนุ่ม เสียงร้องอาจจะไม่เด่น
ทางด้านเล่นเกม ดูหนังที่รองรับ 7.1 อันนี้เรียกได้ว่าใช้งานได้เต็มที่มากขึ้นเพราะว่าเป็นหูฟังเล่นเกมทำให้เสียงออกมารอบทิศทางแบบชัดมากๆส่วนตัวค่อนข้างชอบการเปิดโหมดนี้ในการเล่นเกมพอสมควรครับ เสียงคนเดินหรือว่าเสียงยิงปืนอันนี้ชัดเลยแหละ และยิ่งเล่นเกมแบบ FPS บอกเลยว่าระบบเสียงทำออกมาได้ประทับใจ เสียงระเบิดอะไรกลางๆไม่ได้แน่นสะใจมากนัก แต่เสียงยิงปืน เสียง BG EFFECT หลายๆอย่างของตัวหูฟังนั้นขับออกมาได้ชัดเจน
FEELING
การสวมใส่ตัวหูฟังนั้นต้องบอกเลยว่าสิ่งแรกที่รู้สึกเวลาใช้งานหรือจับถือครั้งแรกจุดแรกคือน้ำหนักที่จัดว่าเบา และ จุดที่สองคือ ฟองน้ำนุ่มนิ่มมากๆ จากนั้นเมื่อใส่ใช้งานบอกเลยว่าฟองน้ำใส่สบายและเก็บเสียงภายนอกได้เป็นอย่างดีไม่ต้องมีระบบตัดเสียงอะไรมาก แต่ด้วยการตัดเสียงจากการออกแบบฟองน้ำและครอบหูทั้งหมดแบบนี้ก็เก็บเสียงได้ง่าย และฟองน้ำด้านบนของก้านหูฟังนั้นมีความนุ่มนิ่มกำลังดี ไม่ได้หนาหรือรู้สึกกดหรือบีบหัวแต่อย่างใดครับ จริงๆน่าจะเป็นหูฟังที่เน้นใส่สบาย ใส่ง่าย เบาตัวนึง และมาพร้อมกับคุณภาพเสียงไดรเวอร์ใหญ่พอสมควรในรูปทรงนี้
แน่นอนว่าการใส่ใช้งานระยะยาวในห้องแอร์นั้นไม่ได้มีผลอะไรมากนักต่อการใส่ใช้งาน แต่ถ้าเมื่อไรใช้งานสภาพอากาศเมืองไทยทั่วไปไม่ได้เปิดแอร์อะไร เวลาใส่นานๆจะเริ่มรู้สึกได้เลยว่ามันอาจจะระบายอากาศหรือไม่เย็นเท่ากับหนังแท้ หรือ แบบผ้านั้นเองก็เป็นเรื่องปกติของการใช้งานวัสดุ Earcup แบบหนังเทียมแบบนี้ครับ และการออกแบบครอบหูทั้งหมด เน้นเก็บเสียงเงียบทำให้การระบายอากาศไม่ได้ดีเป็นเรื่องปกติถ้าเล่นในอากาศทั่วไปร้อนชื้นแบบในไทยครับ แต่ถ้าเล่นในห้องแอร์นั้นสบายๆรองรับการใช้งานได้ดี เพราะตัวหูฟังไม่บีบ ไม่รัด ไม่กดหัวและนุ่มสบายครับ และที่ชอบมากๆคือปุ่มควบคุมทุกอย่างให้มาบนหูฟัง ไม่ต้องลงแอปก็ใช้งานได้ครบๆเลย สะดวกต่อการใช้งานมาก
HYPER X CLOUD II WIRELESS
” HyperX Cloud II ที่เทพขึ้น เบา สบาย ลงตัว ไร้สายเต็มรูปแบบ! “
ยังคงเป็นหูฟังที่เน้นเรื่องของน้ำหนักเบาและใส่สบายครับ อีกทั้งมาพร้อมกับไดรเวอร์ 53มม. และ ไมค์ที่เสียงดีชัดเจนพร้อมกับตัวกรองไมค์ใส่เข้ามาให้ และการรองรับการใช้งานไร้สายจะค่อนข้างอิสระต่อการใช้งานมากขึ้นไปอีก ไม่มีความหน่วงต่อการใช้งานเลยแม้แต่น้อย แต่ะระยะก็ได้ 15 เมตรนิ่งๆครับในการใช้งานจริง รวมถึงฟีเจอร์การใช้งานเสียง 7.1 สบายๆและ ควบคุมได้ผ่านตัวหูฟังทำให้เป็นหูฟังที่เน้นการใช้งาน ใส่สบาย เสียงดีระดับนึง ในเรทราคานี้ และไดรเวอร์มีขนาดใหญ่มากๆตัวนึงในตลาดครับ และงานประกอบคุณภาพวัสดุอะไรถือว่าทำออกมาได้ดี ส่วนราคา และ การวางขายนั้นจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนมีนานี้ รอติดตามราคากันได้เลยบอกเลยว่าน่าติดตามครับ
ข้อดี
- วัสดุโครง อลูมิเนียม แข็งแรงสวยงาม
- น้ำหนักภาพรวมเบาใส่สบาย
- ใช้วัสดุ Memmory Foam ใส่สบาย นุ่ม เก็บเสียงดี
- ระบายอากาศได้ดีในการใส่ใช้งานนานๆ
- ปุ่มควบคุม ครบในตัว สั่งงานบนหูฟังได้ทั้งหมด
- แบตใช้งานได้อึดตามสเปคทั้งหมด
- เสียงไมค์จัดว่าดี มีตัวกรองเสียงให้แล้ว
- ไดรเวอร์ถือว่าขนาดใหญ่ 53 มม. ขับเสียงออกมาได้ดี กำลังขับดี
- เสียง 7.1 มีผลในการเล่นเกม ดูหนังมากกว่าเดิม
ข้อสังเกต
- Adaptor มีขนาดใหญ่ และ รองรับแค่ USB-A เท่านั้น ไม่รองรับ USB-C / BT
- หูฟังปรับเอียงซ้ายขวาได้น้อย
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review By Nineztr