แน่นอนว่าทาง HUAWEI เองนั้น แม้จะเพิ่งก้าวเข้าสู่ธุรกิจ PC ที่กำลังเติบโตและมีการแข่งขันอย่างรุนแรง แต่หัวเว่ยใช้เวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค จนกลายเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ในใจผู้ใช้งาน โดยเฉพาะ “แล็ปท็อป” ซึ่ง China Net Promoter Score (C-NPS) สถาบันจัดอันดับชั้นนำของจีนรายงานว่าปี 2020 ที่ผ่านมา แล็ปท็อปของ HUAWEI ครองอันดับที่ 1 ในประเภทระบบปฏิบัติการ Windows ในประเทศจีน และกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเภทแล็ปท็อปของจีนเช่นกัน ทำให้ในตอนนี้ หัวเว่ยกลายเป็นผู้เล่นสำคัญที่ทุกคนต่างจับตามองถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็วในเวลาเพียงแค่ 5 ปี และนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดขึ้นจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้ำหน้า ที่ใส่เข้ามาในทุกๆรุ่นของค่ายนี้เลยทีเดียวเรามาดูกันว่าใน 5 ปีที่ผ่านมา HUAWEI เองนั้นพัฒนารุ่นอะไรมามากแค่ไหนและแต่ละรุ่นนั้นเองมีการใส่อะไรเข้ามามากแค่ไหนกัน
ยุคบุกเบิกของ HUAWEI MateBook
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 HUAWEI PC TEAM เริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจ PC ด้วยแนวคิดที่ว่า ทำไมถึงไม่สร้างและพัฒนาเทคโนโลยีแล็ปท็อปเช่นเดียวกับที่พัฒนาสมาร์ตโฟนจนกลายเป็นผู้นำตลาดระดับโลก โดยเฉพาะสมาร์ตโฟนเรือธงอย่าง P และ Mate Series หัวเว่ยมีประสบการณ์มากมายจากการพัฒนาสมาร์ตโฟน และตระหนักดีว่ายังมีนวัตกรรมอีกหลายอย่างที่สามารถนำมาปรับใช้กับ PC ของหัวเว่ยเพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้งาน เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หัวเว่ยไม่ได้หยุดอยู่ที่คำว่า “ทำไม” เพราะในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2016 หัวเว่ยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปตัวแรกอย่างเป็นทางการคือ HUAWEI MateBook ซึ่งนำแนวคิดของสมาร์ตโฟนมาปรับใช้ โดยนอกจากจะออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษแล้ว ยังมาพร้อมคุณสมบัติอันโดนเด่น เช่น การปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนลายนิ้วมือผ่านระบบ Fingerprint Power Button และทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของแล็ปท็อปเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีแล็ปท็อปในอดีตเคยทำได้มาก่อน จนได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากสาธารณชน
นอกจากนี้ด้วยความเชี่ยวชาญในสมาร์ตโฟน “FullView Display” หรือจอไร้ขอบจากสมาร์ตโฟน ได้กลายเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นบนแล็ปท็อปจากหัวเว่ย โดยเป็นแล็ปท็อปที่มีขอบจอบางเฉียบ ให้มุมมองกว้าง พร้อมมอบประสบการณ์ภาพเหนือระดับด้วยหน้าจอ FullView Display แต่หัวเว่ยไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ในปี 2020 หัวเว่ยได้เปิดตัว HUAWEI MateBook X ที่อัปเกรดขึ้นและยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยการออกแบบ “Infinite FullView Display” รุ่นแรกขึ้นมา ซึ่งความไร้ที่สิ้นสุดนี้ คือการออกแบบหน้าจอโดยกำจัดขอบโลหะซึ่งล้อมรอบจอแสดงผลทั้งหมดออกไป นำมาซึ่งสัดส่วนหน้าจอที่กว้างถึง 91% ให้ภาพเต็มตาเสมือนจริง ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีของประวัติศาสตร์การพัฒนา PC ที่แล็ปท็อปถูกออกแบบให้มีจอแสดงผลแบบ FullView อย่างแท้จริง
นวัตกรรมที่นำไปสู่ยุคใหม่แห่งการใช้แล็ปท็อป
อีกหนึ่งนวัตกรรมล้ำหน้าที่ทำให้ PC ของหัวเว่ยได้เปรียบในการแข่งขันคือ “OneHop” ซึ่งเป็นหนึ่งกลยุทธ์ชีวิตเอไอ
ไร้รอยต่อ หรือ “Seamless AI Life” ของหัวเว่ยที่ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันไฟล์และโอนถ่ายเอกสาร รูปภาพ วิดีโอ และเนื้อหาบนคลิปบอร์ดได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และประหยัดเวลา เพียงแค่แตะโทรศัพท์กับไอคอน HUAWEI Share บนแล็ปท็อป โดยไม่ต้องมีการใช้สายข้อมูลโอนถ่ายไปมา เป็นการติดต่อสื่อสารผ่านหลายอุปกรณ์ได้อย่างไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพ
HUAWEI PC TEAM อธิบายว่า OneHop เป็นอีโคซิสเต็มอัจฉริยะที่ทำให้การทำงานของผู้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น เพราะถึงแม้ว่าสมาร์ตโฟนจะมีประสิทธิภาพมากเพียงใด แต่ก็ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ และการนำเข้าไฟล์จากสมาร์ตโฟนไปยังคอมพิวเตอร์ก็ยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ดังนั้นทีมจึงพยายามที่จะหาทางแก้ไขปัญหานี้ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิด HUAWEI OneHop ขึ้นมาโดยอาศัยเทคโนโลยีที่ทรงพลังจากสมาร์ตโฟน และ HUAWEI OneHop ยังมีความโดดเด่นในการถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วถึง 80 MB ต่อวินาที แล็ปท็อปจากหัวเว่ยจึงสามารถเชื่อมโยงไปยัง สมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อ
หัวใจของความสำเร็จอยู่ที่การเข้าใจผู้บริโภค
นับตั้งแต่วันแรกที่ HUAWEI MateBook เครื่องแรกเปิดตัวในปี 2016 หัวเว่ยเติบโตขึ้นอย่างมากในอุตสาหกรรมนี้ เวลา 5 ปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกะพริบตา ในปี 2021 ปัจจุบันหัวเว่ยมีแล็ปท็อปที่ครอบคลุมทั้งซีรีส์ MateBook, MateBook D Series และ MateBook X Series ซึ่งมาพร้อมกับ 3 ดีเอ็นเอ อันเป็นเอกลักษณ์ของแล็ปท็อปหัวเว่ย ประการแรกคือการออกแบบที่เรียบหรู ประณีต ซึ่งนำไปสู่รูปลักษณ์ของตัวเครื่องที่บางเบา และมาพร้อมเทคโนโลยีหน้าจอเอกสิทธิ์ของหัวเว่ยแบบ FullView Display กล้องหน้าแบบ Recessed Camera ปกป้องความเป็นส่วนตัว ประการที่สอง คือนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint Power Button พร้อม HUAWEI SuperCharge ทำให้ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วทันใจพร้อมใช้งานทันที ประการสุดท้ายคือ เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้ทำงานแบบ Multi-screen collaboration ได้อย่างง่ายดาย และส่งไฟล์จากสมาร์ตโฟนได้ อย่างไร้รอยต่อผ่าน Huawei Share นั่นเอง
การเติบโตอย่างเข้มแข็งและรวดเร็วด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทำให้หัวเว่ยกลายเป็นแบรนด์ชั้นนำที่เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้ไม่ยาก ซึ่ง HUAWEI PC TEAM มองว่าเป็นเพราะแนวทางการทำงานที่ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับผู้บริโภค มุ่งมั่นออกแบบผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงความต้องการของพวกเขา และใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้งานอย่างแท้จริงผ่านนวัตกรรมของหัวเว่ย คือหัวใจสำคัญที่ทำให้แล็ปท็อปจาก HUAWEI เป็นอันดับ 1 ในใจของผู้บริโภค
HUAWEI MateBook ยังคงเป็นผู้นำเทรนด์ของอุตสาหกรรม ในปี 2010 มีการจำหน่ายแล็ปท็อป 201 ล้านเครื่อง และคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป 157 ล้านเครื่องทั่วโลก โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมามีสัญญาณที่ดีในแง่ยอดขายของแล็ปท็อป เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้ไม่ได้อยู่ในช่วงขาลงอย่างที่หลายคนกังวล แต่สิ่งที่อุตสาหกรรมต้องการคือ “นวัตกรรมล้ำสมัย” เพื่อดึงดูดผู้บริโภค นอกจากนี้แนวโน้มการทำงานจากที่บ้านในปี 2020 ยังส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการแล็ปท็อปเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นวัตกรรมที่มีเอกลักษณ์และสามารถมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้งาน เฉกเช่นที่หัวเว่ยได้ปฏิวัติวงการแล็ปท็อปด้วยเทคโนโลยีตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา “FullView Display” และ “One Hop” เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในนวัตกรรมล้ำสมัยทั้งหมดของหัวเว่ย ที่นำแรงบันดาลใจจากสมาร์ทโฟนไปเชื่อมโยงและพัฒนาแล็ปท็อป
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่หัวเว่ยได้สร้างความสำเร็จที่น่าทึ่งด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยสำหรับกลุ่มสินค้าประเภทแล็ป
ท็อปเพื่อประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการใช้งานของผู้บริโภคอย่างไม่สิ้นสุด โดยคาดว่าหัวเว่ยจะมีการเปิดตัว HUAWEI MateBook series รุ่นใหม่ที่ประเทศไทย เตรียมตัวพบกันเร็วๆ นี้
สามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับ HUAWEI MateBook Familyได้ที่นี่: Link
