iPad Pro 2021 รุ่นล่าสุดของ Apple ใช้หน้าจอ LCD แบบ mini-LED backlight แต่รายละเอียดในเชิงลึกเกี่ยวกับหน้าจอดังกล่าวยังไม่ถูกเผยออกมาในช่วงที่มันถูกเปิดตัวออกมา อย่างไรก็ดีในรายละเอียดคู่มือสำหรับผู้ใช้งานฉบับใหม่บนเว็บไซต์ Apple ได้เผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าจอ XDR ดังกล่าวออกมาแล้ว รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับพอร์ต Thunderbolt bolt, การใช้ข้อมูล 5G และ Center Stage ก็ได้ถูกเผยออกมาเช่นกัน

ตัวหน้าจอนั้นถูกสร้างอยู่บน dimming zones ที่ถูกควบคุมแตกต่างกัน และรองรับ HDR โดนไม่สูญเสียความแม่นยำของการแสดงผลสีบนหน้าจอ รวมทั้งความสว่างสูงสุดของหน้าจอ 12.9 นิ้วอยู่ที่ 1,000nits แบบแสดงผลเต็มหน้าจอ และความสว่างเพิ่มสูงได้ถึง 1,600nits เมื่อมีการแสดงผลเพียง 40% และพื้นที่ที่เหลือเป็นสีดำ

Apple details the iPad Pro's XDR Display based on the mini-LED tech

ในส่วนของชิบประมวลผล Apple Silicon M1 ของ Apple ที่ถูกใช้แท็บเล็ตรุ่นใหม่นั้นได้มีการพัฒนาอัลกอริทึ่มที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาประสิทธิภาพการแสดงผลของหน้าจอ โดยทำงานควบคุมหน้าจอในระดับพิกเซลทั้งในชั้น mini-LED และ LCD แบบแยกกัน ทำให้การแสดงผลในภาพที่ปกติจะเกิดการเบลอหรือการเปลี่ยนสีขณะเลื่อนไถหน้าจอนั้นทำได้ดีกว่าเดิม

นอกจากนั้น iPad Pro รุ่นใหม่ยังมาพร้อมพอร์ต Thunderbolt และ USB 4 ในการส่งพลังงานเข้าสู่ตัวเครื่อง โดยทาง Apple ได้ออกมาเผยว่า

“iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (gen3) และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (gen5) ยังรองรับการใช้งานพอร์ต Thunderbolt และ USB4 อีกด้วย เนื่องจากอุปกรณ์เสริมบางอย่างต้องการพลังงานที่สูงจากตัว iPad ทำให้อาจส่งผลต่ออายุของแบตเตอรี่ได้ เพื่อที่จะขยายอายุการใช้งานแบตเตอรี่จึงควรถอดอุปกรณ์เสริมออกจากตัว iPad เมื่อไม่ใช้งาน…”

iPad Pro 2021 ยังเป็น iPad รุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G โดยใน iPadOS ทาง Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์การเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ความเร็วสูงได้ในการตั้งค่า “Allow More Data on 5G” และทาง Apple ได้ออกมาเผยเพิ่มเติมใจความว่า ฟีเจอร์ “Allow More Data on 5G” ทำให้สามารถใช้งานข้อมูลแอพหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตได้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นการวิดิโอคอล การฟังเพลง การเล่นวิดิโอ หรือแม้กระทั้งการอัพเดท iPadOS ผ่าน cellular อีกทั้งฟีเจอร์ดังกล่าวยังอนุญาตให้แอพ third party ใช้เครือข่าย 5G เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน

นอกจากนี้ทาง Apple ยังได้แนะนำผู้ใช้งานเกี่ยวกับฟีเจอร์ Center Stage ที่ทำให้เวลาวิดิโอคอล AI machine learning จะทำให้ผู้สนทนาอยู่ตรงกลางหน้าจอให้ได้มากที่สุดแม้ว่าองศาการจัดวางกล้องไอแพดจะเอียงก็ตาม สามารถดูวิธีเปิดใช้งานได้ที่ลิ้งนี้เลย

SOURCE1, SOURCE2