realme watch นั้นเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่องในรุ่นก่อนเราจะเห็นหน้าตาการออกแบบดีไซน์แบบหน้าปัดกลมเป็นหลัก และในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบอีกครั้งรวมถึงหน้าตา UI ที่สวยทันสมัยมากขึ้น เปิดตัวจัดเต็มทั้ง realme watch 2 และ realme watch 2 Pro เปิดตัวพร้อมกันในไทยครับ ที่หน้าตาอาจจะคล้ายกัน แต่สเปก ฟีเจอร์ วัสดุความพรีเมี่ยมในการใช้งานนั้นแตกต่างกันชัดเจน และราคาก็แล้วแต่ตัวเลือกของเราเลยนั้นเองครับ เพราะว่าในรุ่น Pro เราจะได้ GPS ในตัว หน้าจอใหญ่ สว่างกว่า และ บอดี้ขอบเงาสวยงาม คุณภาพดีกว่าและงานประกอบเนียนกว่า รวมถึงแบตที่อึดกว่า แต่ถ้ามองไปทาง realme watch 2 นั้น ฟีเจอร์เหมือนกันทั้งหมดกับรุ่น Pro เลยแต่จะเน้นทำราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า หน้าจอเล็กกว่ารวมถึง สเปกหลายๆส่วนจะดรอปลงไปเช่นไม่มี GPS ในตัวนั้นเอง แต่ทั้งนี้ 2 รุ่นถือว่าน่าสนใจทั้งคู่ รองรับการวัด SpO2 รวมถึง ชีพจร และ โหมดออกกำลังจัดเต็มเท่ากันทั้งคู่ อีกทั้งแจ้งเตือนภาษาไทยมาครบ รองรับการทำงานหลากหลายควบคุมเพลงอะไรได้สบายๆทั่ง 2 รุ่นเลยนะ

realme watch 2 กันก่อนเลยตัวนาฬิกานั้นจะมาพร้อมกับ หน้าจอ LCD สีขนาด 1.4 นิ้วที่ใช้กระจก Gorilla Glass 3 และสามารถเลือกเปลี่ยนหน้าปัดได้มากกว่า 100 แบบผ่านแอป realme Link realme Watch 2 มาพร้อมระบบตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจ 24 ชั่วโมงและสามารถวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้ ในปัจจุบันตัวสมาร์ตวอร์ชรองรับโหมดกีฬา 14 โหมด แต่จะเพิ่มเป็น 90 โหมดหลังจากอัปเดตซอฟต์แวร์แล้ว ตัวสมาร์ตวอร์ชสามารถแจ้งเตือนการโทร แจ้งเตือนข้อความเข้า และแจ้งเตือนจากแอป third-party ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมการเล่นเพลงและควบคุมการถ่ายรูปได้ และเจ้า realme Watch 2 กันน้ำมาตรฐาน IP68 และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานติดต่อกันได้สูงสุด 12 วันโดยไม่ต้องชาร์จ มีแค่สีดำเท่านั้น จะมีราคาอยู่ที่ 1,499 บาท 

realme watch 2 Pro นั้นจะเทพขึ้นทั้งวัสดุ หน้าจอ ฟีเจอร์ทุกอย่าง หลักๆเลยมาพร้อมกับ GPS ในตัว และหน้าจอขนาดใหญ่  แบตอึดขึ้น และ Dual-satellite GPS ที่เน้นๆเลยนั้นเอง มาพร้อมกับหน้าจอ ขอบโค้ง 2.5D แบบสีขนาด 1.75 นิ้ว (320×385พิกเซล) ความสว่างสูงสุด 600nits,มาพร้อมกับ  สามารถเลือกเปลี่ยนหน้าปัดได้มากกว่า 100 แบบผ่านแอป realme Link realme Watch 2 มาพร้อมระบบตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจ 24 ชั่วโมงและสามารถวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้ ในปัจจุบันตัวสมาร์ตวอร์ชรองรับโหมดกีฬา 14 โหมด แต่จะเพิ่มเป็น 90 โหมดหลังจากอัปเดตซอฟต์แวร์แล้ว ตัวสมาร์ตวอร์ชวอร์ชสามารถแจ้งเตือนการโทร แจ้งเตือนข้อความเข้า และแจ้งเตือนจากแอป third-party ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมการเล่นเพลงและควบคุมการถ่ายรูปได้ และเจ้า realme Watch 2 Pro กันน้ำมาตรฐาน IP68 และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานติดต่อกันได้สูงสุด 14 วันโดยไม่ต้องชาร์จ จะมีให้เลือก Space Grey / Metallic Silver จะเปิดราคาอยู่ที่ 2,999 บาท 

UNBOX

ตัวกล่อง realme Watch เองนั้นทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกันอาจะต้องบอกว่าตามระดับเรทราคาของมันในรุ่น Pro จะรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมมากกว่า แต่ทั้งนี้อุปกรณ์ในกล่องอะไรนั้นให้มาเหมือนกันไม่แตกต่างกันเท่าไรนักสำหรับ 2 ตัวนี้นะ

REALME WATCH 2

  • ตัวนาฬิกา realme WATCH 2
  • ที่ชาร์จ แม่เหล็ก
  • คู่มือการใช้งาน

REALME WATCH 2 PRO

  • ตัวนาฬิกา realme WATCH 2 PRO
  • ที่ชาร์จ แม่เหล็ก  แบบเดียวกับรุ่น watch 2
  • คู่มือการใช้งาน

ส่วนตัวค่อนข้างชอบที่การออกแบบที่ชาร์จนั้นสามารถใช้งานร่วมกันกับรุ่น 2 ปกติได้ แต่ไม่น่าจะใช้ร่วมกับรุ่น Watch S Pro ก่อนหน้านี้ได้นะครับเพราะว่างานออกแบบดีไซน์หลักๆได้เปลี่ยนไปทั้งหมดแล้วในตัวเรือน แต่ยังดีที่รุ่นใหม่ 2 ตัวนี้สามารถใช้งานด้วยกันได้และเป็นหัวแบบ USB-A ทั้งคู่ แต่จะไม่มีการแถมหัวชาร์จอะไรใส่มาให้นะ

DESIGN WATCH 2

งานออกแบบในรุ่นน้องตัว 2 นั้นดีไซน์สีดำเท่านั้น และ มีการเปลี่ยนมาเป็นหน้าปัดสี่เหลี่ยมขอบโค้งสวยงามไม่แตกต่างกับรุ่นพี่พร้อมกับบอดี้พลาสติกน้ำหนักเบาจะเน้นไปทางออกกำลังมากกว่าเล็กน้อย พร้อมกับหน้าจอขนาด 1.4 นิ้วตรงกลางที่แอบขัดใจนิดๆเมื่อเปิดหน้าจอแล้วมันไม่เต็มจอครับ พร้อมจอสีแสดงผล ความละเอียดสูงถึง 320×320 พิกเซลหรือ 323 PPI ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 600 nits ปรับระดับความสว่างได้ 5 ระดับ สามารถมองเห็นได้แม้ในที่แสงน้อย หน้าจอสัมผัส TFT-LCD ตอบสนองการสัมผัสอย่างลื่นไหล และใช้กระจก Gorilla Glass 3 ส่วนด้านหลังนั้นเราจะเห็นเซนเซอร์ทั้งหลายจัดเต็ม PPG  กับการวัดชีพจร และ SpO2 ครบๆรวมถึงที่ชาร์จแบบแม่เหล็กครับ ซึ่งบอดี้ด้านหลังจะเป็นพลาสติกสีดำด้านทั่วไปไม่ได้มีการตกแต่ง หรือเล่นดีไซน์อะไรมากนักบอดี้ตามระดับราคา

ด้านข้างจะไม่มีปุ่มอะไรเยอะในด้านซ้ายจะเป็นเรียบๆเราจะเห็นบอดี้พลาสติกสีดำเงาเพราะกับหน้าจอโค้งนิดหน่อยในด้านบน ส่วนด้านขวานั้นจะเป็นปุ่มควบคุมตัวนาฬิกาที่เป็นปุ่มพลาสติกสีด้านวัสดุแบบเดียวกับส่วนหลังเรือนนาฬิกา ขนาดเน้นการใช้งานเบา เล็กไม่เกะกะ ออกมาราคาไม่แรงนั้นเหมาะสำหรับสายออกกำลังระดับเริ่มต้นได้เป็นอย่างดี

ตัวสายต้องบอกว่าทั้ง 2 รุ่นนี้มีขนาดเดียวกัน และข้อต่อมาตรฐานเหมือนกันที่ 22 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันที่ใช้กับ realme Watch S และ realme Watch S Pro และเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้งานในตลาด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนสายได้ในสไตล์ของตนเอง ถือว่าทำออกมารองรับได้ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ดีไซน์เรียบๆพร้อมกับเขียน Dare To Leap สโลแกนของแบรนด์นั้นเองครับตัวเรือนสีดำ ก็จะได้สายสีดำเป็นหลักตามบอดี้เลย วัสดุงานสายนั้นเนียนสวยและไม่ระคายเวลาใส่นานๆ รองรับข้อมือได้หลากหลายขนาดเพราะตัวปรับนั้นเยอะมากจริงๆรวมถึงการถอดสายก็ทำได้ง่ายเป็นสลักแบบที่เราเห็นกันในสายยุคใหม่ทั้งหมดแล้ว รวมถึงหาสายนาฬิกาทั่วไปมาเปลี่ยนได้ง่ายๆเลยนะ

DESIGN WATCH 2 PRO

เมื่อมาดูรุ่น Pro เราจะเห็นเลยว่าหน้าจอเต็มตาสวยกว่าเยอะมากๆมาพร้อมกับบอดี้ที่เนียนกว่าและดูพรีเมี่ยมมากกว่า ทางด้าน realme Watch 2 Pro  มีให้เลือกทั้งสี Space Grey / Metallic Silver มาพร้อมกับหน้าจอสีขนาดใหญ่ 1.75 นิ้ว ความละเอียด 320*385 พิกเซล (287 PPI) ความสว่างสูงสุด 600 nits มีอัตราการรีเฟรชสูง 30fps เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไหลลื่นยิ่งขึ้นและการตอบสนองที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆหรือตัว 2 ทำให้เวลาสัมผัสติดนิ้วมากกว่าด้วย พร้อมกับ กระจกหน้าจอโค้ง 2.5D รวมถึงปกป้องรอยขีดข่วน และ เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ ส่วนทางด้านหลัง สวยหรูหว่าด้วยการใช้งานพลาสติกสีดำเงาพร้อมกับเซนเซอร์  PPG  กับการวัดชีพจร และ SpO2 ครบๆรวมถึงที่ชาร์จแบบแม่เหล็กครับ

ด้านข้างจะไม่มีปุ่มอะไรเยอะในด้านซ้ายจะเป็นเรียบๆเราจะเห็นบอดี้พลาสติกสีเงินโครเมี่ยมที่ผิวสัมผัส ความเนียนในการจับหรือคุณภาพรู้สึกดีกว่า watch 2  ทันทีความสวยพรีเมี่ยม และรอยต่อพวกนี้ทำได้ดีกว่า และเก็บซ่อนสายได้เนียนกว่า มาพร้อมกับหน้าจอโค้งนิดหน่อยในด้านบน ส่วนด้านขวานั้นจะเป็นปุ่มควบคุมตัวนาฬิกาที่เป็นปุ่มพลาสติกสีเงินด้านพร้อมขีดสีทองเล็กๆพรีเมี่ยมหรูหรามากๆ  ซึ่งตัวเรือนรุ่น Pro จะสมมาตรมากกว่า พรีเมี่ยมกว่าชัดเจน เน้นใส่ไปงานหรือใส่ใช้งานประจำวันได้ และสีเงินนั้นจะดูคล้ายกับพวกบอดี้สแตนเลสของบางค่ายได้เลยนะ

ตัวสายต้องบอกว่าทั้ง 2 รุ่นนี้มีขนาดเดียวกัน และข้อต่อมาตรฐานเหมือนกันที่ 22 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันที่ใช้กับ realme Watch S และ realme Watch S Pro และเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้งานในตลาด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนสายได้ในสไตล์ของตนเองถือว่าทำออกมารองรับได้ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ดีไซน์เรียบๆพร้อมกับเขียน Dare To Leap สโลแกนของแบรนด์นั้นเองครับตัวเรือนเงิน ก็จะได้สายครีมโทนสว่างเป็นหลักตามบอดี้เลย วัสดุงานสายนั้นเนียนสวยและไม่ระคายเวลาใส่นานๆ รองรับข้อมือได้หลากหลายขนาดเพราะตัวปรับนั้นเยอะมากจริงๆรวมถึงการถอดสายก็ทำได้ง่ายเป็นสลักแบบที่เราเห็นกันในสายยุคใหม่ทั้งหมดแล้ว รวมถึงหาสายนาฬิกาทั่วไปมาเปลี่ยนได้ง่ายๆเลยนะ และทั้ง 2 และ 2 Pro ก็สามารถสลับสายได้ง่ายๆแม้ตัวเรือนจะต่างกันแต่ใช้งานสายแบบเดียวกันเป๊ะๆ

เมื่อเอามาเทียบกันใกล้ๆเราจะเห็นว่า watch 2 Pro สายสีขาวนั้นจะมีขนาดใหญ่ อ้วนกว่าแบบชัดเจนและรูปทรงจะค่อนข้างสวยกว่าสมมาตรมากกว่ารวมถึงหน้าจอนั้นจะเต็มกรอบมากกว่าชัดเจนด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า จาก 1.4 ในรุ่น 2 เป็น 1.75 ในรุ่น 2 PRO นั้นเองครับส่วนการสู้แสงอะไรนั้นเท่ากัน แต่ความลื่นไหล และ สีความสวยนั้นทาง 2 Pro แอบทำได้ดีกว่าด้วยเช่นกัน ส่วนด้านหลังนั้นการวางเซนเซอร์อะไรตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด ใช้งานที่ชาร์จตัวเดียวกันได้ด้วย รวมถึง สายก็ใช้งานร่วมกันได้ถือว่าเป็นการออกแบบที่คิดมาเป็นอย่างดี ใช้งานร่วมกันได้หลายส่วน

REALME WATCH 2 SPEC

  • หน้าจอ IPS LCD สีขนาด 1.4 นิ้ว (320×320พิกเซล), PPI 323 ,ความสว่างสูงสุด 600nits, ใช้กระจก Gorilla Glass 3 แบบ 2.5D
  • accelerometer 3 แกน, เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจ, Rotor Vibration motor
  • Bluetooth 5.0 รองรับอุปกรณ์ Android 5.0 ขึ้นไป
  • สามารถเลือกดีไซน์หน้าปัดได้มากกว่า 100 แบบ
  • เชื่อมต่อผ่านแอป realme Link
  • โหมดกีฬา: เดินแบบ Outdoor, เดินแบบ Indoor, วิ่งแบบ Outdoor, วิ่งแบบ Indoor, ปั่นจักรยาน (Dynamic Cycling), การเดินป่า (hiking), คริกเก็ต, โยคะ, พายเรือบก, การฝึกความแข็งแรง, บาสเก็ตบอล, เครื่องเดินวงรี, Free training (โหมดกีฬาสูงสุด 90 โหมดเมื่ออัพเดทซอร์ฟแวร์)
  • เซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจ, แสดงการเต้นของหัวใจแบบ real-time 24 ชั่วโมง, แจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นหัวใจต่ำ, เซนเซอร์ตรวจจับออกซิเจนในเลือด (SpO2), ตรวจจับการนอน, ตรวจนับจำนวนก้าว, แคลอรี่, ระยะทาง, แจ้งเตือนการดื่มน้ำ, แจ้งเตือนเมื่อไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน, บันทึก Activity ต่าง ๆ
  • ควบคุมการเล่นเพลงได้, ควบคุมการถ่ายรูปได้, พยากรณ์อากาศ, ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ (ทั้งการวิ่ง/การเดิน)
  • แจ้งเตือนการโทร, แจ้งเตือนข้อความเข้า, ตั้งเวลาสำหรับแจ้งเตือนได้
  • กันน้ำมาตรฐาน IP68
  • ขนาดตัวเครื่อง: 257.6×35.7×12.2มม.; น้ำหนัก: 38 กรัม
  • แบตเตอรี่ 315mAh ที่ใช้งานติดต่อกันได้ 12 วัน

REALME WATCH 2 PRO SPEC

  • หน้าจอขอบโค้ง IPS LCD 2.5D แบบสีขนาด 1.75 นิ้ว (320×385พิกเซล), PPI 287 ,ความสว่างสูงสุด 600nits, ใช้กระจก Gorilla Glass 3  Refresh Rate สูงสุดที่ 30fps
    (หน้าจอใหญ่  สวยกว่า watch 2 ) 
  • accelerometer 3 แกน, เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจ, Rotor Vibration motor
  • เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอป realme Link
  • Bluetooth 5.0 รองรับอุปกรณ์ Android 5.0 ขึ้นไป
  • สามารถเลือกดีไซน์หน้าปัดได้มากกว่า 100 แบบ
  • โหมดกีฬา: เดินแบบ Outdoor, เดินแบบ Indoor, วิ่งแบบ Outdoor, วิ่งแบบ Indoor, ปั่นจักรยาน (outdoor Cycling), คริกเก็ต, โยคะ, พายเรือบก, Free training (โหมดกีฬาสูงสุด 90 โหมดเมื่ออัปเดตซอฟต์แวร์)
  • เซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจ, แสดงการเต้นของหัวใจแบบ real-time 24 ชั่วโมง, แจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นหัวใจต่ำ, เซนเซอร์ตรวจจับออกซิเจนในเลือด (SpO2), ตรวจจับการนอน, ตรวจนับจำนวนก้าว, แคลอรี่, ระยะทาง, แจ้งเตือนการดื่มน้ำ, แจ้งเตือนเมื่อไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน, บันทึก Activity ต่าง ๆ
  • ควบคุมการเล่นเพลงได้, ควบคุมการถ่ายรูปได้, พยากรณ์อากาศ , ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ (ทั้งการวิ่ง/การเดิน)
  • แจ้งเตือนการโทร, แจ้งเตือนข้อความเข้า, ตั้งเวลาสำหรับแจ้งเตือนได้
  • มาพร้อม Dual-satellite GPS ในตัว !! ( watch 2 ไม่มี )
  • กันน้ำมาตรฐาน IP68
  • ขนาดตัวเครื่อง: 255.2×38.9×12.65มม. (รวมสายรัดข้อมือ); น้ำหนัก: 40 กรัม (รวมสายรัดข้อมือ)
  •  แบตเตอรี่ 390mAh ที่ใช้งานติดต่อกันได้ 14 วัน (มากกว่า watch 2 )

SOFTWARE REALME LINK

หน้าตา Software อะไรนั้นถือว่าใช้งานได้ง่าย สรุปข้อมูลการใช้งานแต่ละวันได้ดี และสามารถดูแบบละเอียดได้และบันทึกข้อมูลได้เยอะมาก รวมถึงการปรับตั้งค่าอะไรต่างๆจะใช้งานแอปเดียวกันกับ realme Link ที่เชื่อมต่อกับตัวอื่นๆไม่ต้องไปหาโหลดแอปนอกครับถือว่าดี แอปเดียวจบครบพร้อมใช้งานทั้ง หูฟัง นาฬิกา รวมถึงกล้องต่างๆครับ

ในหน้าแรกจะเป็นแอป realme link นั้นเองที่จะรวมทุกอย่างของค่ายไว้ทั้งหมด นาฬิกา หูฟัง กล้องต่างๆครับ และ มีหน้าข้อมูลส่วนตัวของเรา และ จะบอกว่าเรามีอุปกรณ์อะไรบ้าง และก็เลือกเข้าไปใช้งานอุปกรณ์นั้นๆได้เลยครับในส่วนของหน้าตาหลักๆนั้นจะสามารถดูข้อมูลจำนวนก้าวได้ ชีพจร รวมถึงระดับออกซิเจนในเลือดได้เลยครับ และในแต่ละส่วนนั้นสามารถเข้าไปดูแบบละเอียดได้ว่า การนอนหลับเท่าไรอย่างไร ตื่นมากน้อยแค่ไหน หรือหลับลึกเท่าไร

การตั้งค่าการแจ้งเตือน รองรับ ภาษาไทย !! นะครับและ สามารถแจ้งเตือนแชทต่างๆได้ครบมากๆถือว่าดีรวมถึงการตั้งค่าอื่นๆตามภาพตรงกลางนั้น หน้าตา นาฬิกา การแจ้งเตือนคนโทนมา และ การตั้งเตือนปลุก และ การเตือนกินน้ำ อีกทั้งตั้งการวัดชีพจรตลอดเวลาได้ด้วย อีกทั้งควบคุมเพลง และ กล้องได้ อีกทั้งกดหน้า นาฬิกา หรือ มือถือได้ครับ ส่วนฟีเจอร์ที่ทาง Pro เสริมเข้ามาจะเป็นในส่วนของการปรับ Apps และ Tiles หน้าแรก แต่ส่วนอื่นๆเหมือนกันหมด

หน้าตาในส่วนของการแสดงข้อมูลพื้นฐานนั้นให้มาครบๆทั้งเรื่องของการวัดชีพจรต่างๆก็จะบอกค่าเป็นกราฟทั้งหมดครับ และบอกว่า สูงสุด ต่ำสุดเท่าไรได้ และสามารถตั้งแจ้งเตือนได้ด้วยนะถ้าสูงเกินไป รวมถึงการวัดการนอนหลับแค่ใส่นอนเท่านั้นก็จะบอกเลยว่า นอนหลับลึกแค่ไหน กี่ชั่วโมง ตื่นตอนไหนบ้าง และ หลับไม่ลึกเท่าไร และค่า REM คือการนอนหลับไม่สนิทหรือฝันและมีอาการร่วมด้วยเป็นต้น เช่นดิ้นหรือ หัวใจเต้นไวขึ้นนั้นเองครับ และ ส่วนสุดท้ายเป็นการวัดการก้าวเดินว่าวันนึงเดินเท่าไร ระยะทางเท่าไรบ้าง และ เผาผลาญไปได้เท่าไรนั้นเองครับสำหรับส่วนนี้

ในรุ่น Watch 2 Pro นั้นจะมีฟีเจอร์ที่แตกต่างคือ รองรับตำแหน่งแบบ dual-satellite (เมื่อเปิด GPS และ Glonass ออนไลน์ในเวลาเดียวกัน) + ฟังก์ชันบันทึกเส้นทางได้อย่างอิสระสำหรับการวิ่ง การจ็อกกิ้ง การขี่จักรยาน และการเดิน ทำให้ในการเดินออกกำลังหรือแม้จะเป็นการออกกำลังจริงจัง วิ่งมาราธอนต่างๆหรือแม้แต่ขี่จักรยาน รทำให้สามารถแทรคได้ทั้งหมด โดยที่เราไม่ต้องพกพามือถือ หรือ ซิงค์ข้อมูลอะไรทั้งนั้นครับแค่ใส่นาฬิกาแล้วออกไปวิ่ง ขี่จักรยานได้เลย เมื่อเรียบร้อยกลับมาที่รถหรือที่บ้านก็จะดูข้อมูลได้ทั้งหมด ระยะทางการวิ่ง เส้นทางบนแผนที่รวมถึงความเร็วเฉลี่ย อัตราการเต้นหัวใจ การเผาผลาญต่างๆครบเลยครับ ถือว่าเป็นข้อดีของการใช้งานที่มี GPS ทำงานร่วมด้วยนั้นเองของ Watch 2 Pro ตัวนี้ครับ แต่ถ้ารุ่น 2 ปกติเชื่อมกับมือถือได้เหมือนกัน เก็บข้อมูลเท่ากัน

FEATURE  

ฟีเจอร์การใช้งานจริงๆถือว่าจัดเต็มเป็นมาตรฐานทั่วไป ทั้งการควบคุมเพลง Spotify ได้ หรือจะเป็นการสั่งถ่ายรูป การจับเวลา การดูสภาพอากาศหรือจะเป็นการแทรคการออกกำลังกาย การวัดการนอนหรือจะเป็น ชีพจร และ SPo2 ก็รองรับได้เลยครับถือว่าสเปกนั้นจัดเต็มมาก รวมถึงการที่ให้ GPS มาในตัว 2 Pro ทำให้รองรับการออกกำลังแบบไม่ต้องพกมือถือไปด้วยครับ เป็น GPS คู่ในตัวเลยทำให้พกแค่นาฬิกาใส่ไปวิ่งก็จะสามารถแทรคข้อมูล เส้นทาง ระยะอะไรได้ครบถ้วนมากๆ แต่ในรุ่น 2 เองนั้นก็ใช้งานได้แต่พกมือถือไปด้วยนั้นเองครับเพราะฟีเจอร์เหมือนกัน

  • รองรับกีฬา 90 ประเภท อาทิ วิ่งกลางแจ้ง วิ่งในร่ม เดินกลางแจ้ง เดินในร่ม ปั่นจักรยานกลางแจ้ง ปั่นจักรยานฟิตเนส ปีนเขา ว่ายน้ำ บาสเกตบอล โยคะ โบว์ลิ่ง เรือพาย เครื่องเดินวงรี คริกเกตและอื่นๆ
  • สามารถระบุได้ว่าคุณกำลังเดินหรือวิ่ง พร้อมระบบอัลกอริทึมการนับก้าวที่แม่นยำทำให้ทุกก้าวมีความหมาย
  • รายงานการก้าวเดิน การแจ้งเตือนให้ขยับร่างกาย รายงานสถานะการนอนหลับ การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ และโหมดการทำสมาธิเพื่อผ่อนคลาย
  • การแจ้งเตือนทุกแอปพลิเคชันและแสดงไอคอนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงการโทร SMS หรือข้อความจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ อาทิ Facebook, Whatsapp, Instagram และอื่น ๆ

ทางด้านหน้าปัดหลักๆในการออกแบบเปลี่ยนแปลงหน้าตาทั้งหมด ในภาพซ้ายสุดจะเป็นหน้าหลักสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอิสระครับ และมี Live Wallpaper ให้มาแล้ว หน้ารวมแอปที่สามารถเรียกใช้งานได้ทันทีครับ และ แตะสัมผัสอะไรได้ง่าย สามารถปรับว่าเป็นแบบเรียงแถว หรือ หน้าแบบ ไอคอนกระจายก็ได้เช่นกัน หน้าขวาสุดจะเป็น หน้าตา Quick Setting เปลี่ยนตั้งค่าหน้าจอ หรือ โหมดห้ามรบกวนได้ง่ายๆเลย ปรับได้ทั้งหมด

ส่วนของสรุปประจำวันว่าวันนึงเราทำอะไรไปบ้าง เดินกี่ก้าว เผาผลาญเท่าไร นั้นเองครับ จะเป็นวงแหวนหลากสีนั้นเอง  หน้าต่อไปจะเป็นทางด้านหน้าตาตัวบอกสภาพอากาศเป็นแบบ เรียลๆเลยมีภาพท้องฟ้า บอกสถานที่ อุณหภูมิทั้งหมด และ ควบคุมเพลงก็สามารถใช้งานได้หลายๆแอปที่เปิดเพลงได้ทั้งหมด ควบคุมเสียง เปลี่ยนเพลงได้ง่ายๆ

มื่อเราไปออกกำลังแบบไม่ได้พกมือถือไปหน้าจอก็จะโชว์ข้อมูลหลายๆส่วนครับว่า ระยะทาง เวลา ชีพจรสามารถเลื่อนไปมาได้ดูข้อมูลได้ทั้งหมด และ โหมดการออกกำลังเยอะมากๆรองรับได้สบายๆมีภาษาไทยพร้อมใช้งานครับ

SPO2 + HEARTRATE 

สามารถตรวจจับระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งออกซิเจนในเลือดเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของสุขภาพร่างกาย ด้วยเทคโนโลยีเซนเซอร์ชั้นสูง realme Watch 2 และ 2 Pro จะแจ้งเตือนเมื่อออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ ทำให้สามารถรักษาภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำทันเวลา และในแง่ของความแม่นยำ realme Watch 2 Pro ยังอยู่ในระดับสูงเทียบเท่ากับเครื่องตรวจออกซิเจนในเลือดทางการแพทย์ เซนเซอร์ประสิทธิภาพสูง PPG สามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แบบเรียลไทม์ โดยจะตรวจจับจากกิจวัตรประจำวันอย่างต่อเนื่อง ปกติแล้วอัตราการเต้นของหัวใจจะอยู่ประมาณ 60-100 ครั้ง/นาที และจะลงต่ำในขณะพัก หากหัวใจมีการเต้นดังกล่าว นั่นหมายถึง การทำงานของหัวใจและหลอดเลือดมีประสิทธิภาพและสมรรถภาพที่ดี ซึ่ง realme Watch 2 และ 2 Pro นี้ ได้รองรับการตรวจจับตลอด 24 ชั่วโมง

WORKOUT WITH GPS 

ในรุ่น 2 Pro ใช้ GPS แบบดูอัลแซทเทิลไลท์ซึ่งให้ความแม่นยำในการระบุตำแหน่งสูงสุด 2.5 เมตรและเวลาระบุตำแหน่งที่เร็วที่สุดสูงสุด 2 วินาที จะทำงานเมื่อเปิด GPS และ Glonass ออนไลน์ในเวลาเดียวกัน) + ฟังก์ชันบันทึกเส้นทางได้อย่างอิสระสำหรับการวิ่ง การจ็อกกิ้ง การขี่จักรยาน และการเดิน ทำให้ในการเดินออกกำลังหรือแม้จะเป็นการออกกำลังจริงจัง วิ่งมาราธอนต่างๆหรือแม้แต่ขี่จักรยาน แน่นอนว่าเป็นจุดหลักๆที่ทำให้ realme Watch 2 Pro นั้นจะเด่นกว่าและเหมาะสำหรับคนที่เน้นการใช้งานด้านนี้ได้ด้วยเช่นกันครับ เพราะไม่ต้องพกมือถือไปเก็บข้อมูลให้เกะกะเลย ทำให้มันสามารถ Workout แบบ Stand alone ได้แบบสบายๆ แถมยังมาซิงค์ข้อมูลได้ด้วย

NOTIFICATION 

ทางด้านrealme Watch 2 Pro และ Watch 2 นั้น สามารถรับการแจ้งเตือนแอปเกือบทั้งหมด และแสดงไอคอนของแอปพลิเคชันต่างๆ สามารถจับคู่กับสมาร์ตโฟน realme ได้อย่างราบรื่นและรองรับการแสดงการโทร SMS และข้อความแอปของบุคคลที่สาม หน้าจอขนาดใหญ่ทำให้สามารถแสดงข้อมูลได้มากขึ้น เพื่อความสะดวกในการอ่าน และ สามารถอ่านข้อความภาษาไทยได้ทั้งหมด สามารถ รับสาย วางสายได้ แต่ตัวเรือนทั้ง 2 รุ่นจะไม่มีไมค์ หรือ ลำโพงใส่เข้ามานะครับ แอบน่าเสียดายตรงนี้เล็กน้อย แต่เน้นดูแจ้งเตือนภาษาไทยก็เพียงพอแล้วในการใช้งาน

หน้าปัดใช้งานได้ง่าย และสัมผัสติดนิ้วได้ดี สู้แสงดีระดับนึงไม่มีปัญหา ส่วนความใหญ่จริงๆไม่ได้ต่างกับรุ่นก่อนหน้านี้เท่าไรนัก ในภาพนี้จะเห็นว่าอยู่บนข้อมือผู้หญิงก็สามารถใส่ได้แบบไม่ได้ใหญ่เกินไป และไม่เป็นสายลุยเกินไปครับขนาดหน้าปัดกำลังดีเลย ส่วนตัวสายตัววัสดุนั้นเป็นแบบมาตรฐานที่เราเจอในรุ่นก่อนหน้า และ บรรดา SMARTWATCH หลายๆตัวมีความแข็งนุ่มกำลังดี ไม่มีอาการแพ้แม้จะลองใส่นอนหรือใส่ออกกำลังครับจุดนี้ทำได้ดีเลย ระยะช่องรองรับทั้งข้อมือเล็กและใหญ่ได้ดีไม่มีปัญหาเลย ส่วนนี้และตัวสายรัดได้แน่นและมีตัวล็อก 1 ขั้นครับผม ส่วนการเปลี่ยนสายอะไรง่ายไม่ยุ่งยากเท่าไร แต่ดีไซน์นั้นอาจจะเรียบไปนิดๆภาพรวมก็ถือว่าเน้นใส่สบายๆไม่หนัก ไม่เทอะทะ และทั้ง ผู้ชาย ผู้หญิงใส่ได้ทั้งคู่ น้ำหนักเบา สั่งงานง่ายๆครับเป็น Smartwatch อีกตัวในงบไม่เกิน 3 พันที่ใส่ใช้งานได้ทุกวัน แบตอึด และ ขนาดน้ำหนักอะไรนั้นกำลังดีเลยแหละ และสามารถใช้งานสายร่วมกันได้ทั้ง 2 รุ่น

CHARGING 

ในการชาร์จนั้นรองรับการใช้งานที่ชาร์จตัวเดียวกันทั้งคู่หน้าตาการชาร์จมี Animation ขึ้นมาสวยงามเหมือนกันทั้งหมด ส่วนอายุแบตนั้นเท่าที่ลองใช้งาน Watch 2 Pro ทำได้อึดมากกว่า และ แบตใช้ได้นานกว่า รุ่น 2 และทั้งคู่นั้นจะใช้งาน ชิปเซ็ตที่ใช้พลังงานต่ำ Bluetooth 5.0 พลังงานต่ำและเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ เพื่อยืดอายุการใช้งานได้ถึง 12 วัน ในรุ่น 2 และ 14 วันในรุ่น 2 Pro รองรับด้วยฐานชาร์จแบบแม่เหล็ก พร้อมกับ USB-A ในตัวนี้

REALME WATCH 2 AND WATCH 2 PRO 

” พี่น้อง watch 2 ราคาดี ดีไซน์สวย ฟีเจอร์ครบ UI ใหม่สวยทันสมัยขึ้นไปอีกขั้น “

เป็น 2 รุ่นล่าสุดในการเปลี่ยนงานออกแบบชัดเจนจากรุ่นแรก ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของหน้าตารูปทรงที่เปลี่ยนจากแบบวงกลมเป็นสี่เหลี่ยมตามสมัยนิยม แน่นอนว่ายังคงเด่นเรื่องของการทำราคาได้ดีและสเปก ฟีเจอร์ทั้ง 2 รุ่นที่จัดเต็มเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการวัดชีพจร หรือ การวัดออกซิเจนในเลือด อีกทั้งรองรับภาษาไทยและการแจ้งเตือนทุกอย่างยังทำได้ดีเช่นเดิมพร้อมกับรองรับหลากหลายแอปด้วยเช่นกัน ทางด้านการออกกำลังนั้น จะพิเศษในรุ่น 2 Pro ที่มาพร้อมกับ GPS ส่วนโหมดการออกกำลังนั้น 90 โหมดได้สบายๆรองรับการออกกำลังทุกประเภท รองรับกันน้ำ IP68 ทำให้มันอาจจะใส่ว่ายน้ำไม่ได้นั้นเองครับ แต่ออกกำลังทั่วไปเหลือๆ เป็นรุ่นที่ถือว่าครบมากๆตัวนึงของแบรนด์ ในราคานี้จัดว่าทำออกมาได้ดีครับ ใครที่กำลังหา Smartwatch ออกกำลังหรือใช้งานทั่วไปนั้นตอบโจทย์ราคาคุ้มค่า

ข้อดี

  • ดีไซน์สวย พรีเมี่ยมมากขึ้น ในรุ่น 2 Pro
  • หน้าตา UI ทั้ง 2 รุ่นทันสมัย สวยงามและดูดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ
  • ฟีเจอร์จัดเต็มไม่ต่างกัน ทั้ง SpO2 และ การวัดชีพจร
  • การออกกำลังหายมากกว่า 90 โหมดให้มาจัดเต็มอย่างมาก
  • หน้าปัดหลากหลายมากกว่า 100 แบบ แถมมี Live Watch Face ให้ทั้ง 2 ตัว
  • มาพร้อม Dual-gps ในตัว ในรุ่น Watch 2 Pro
  • รองรับกันน้ำ IP68 ทั้ง 2 รุ่น
  • การสัมผัสใช้งานติดนิ้ว UI ลื่นไหล ใช้งานง่าย
  • ทำราคาได้ดีทั้ง 2 ตัว เน้นการใช้งานแตกต่างกันไป

ข้อสังเกต

  • ยังคงเป็นหน้าจอ LCD ทั้ง 2 รุ่น เลยทำให้ไม่มี Always On Display
  • ไม่รองรับการกันน้ำ 5ATM แบบรุ่น Watch S Pro
  • ไม่มี ไมค์ หรือ ลำโพงมาให้บนตัวเรือน

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr