ROG และ AMD ในรอบนี้มีการพัฒนา และ ออกแบบคอมพิวเตอร์รุ่นพิเศษที่น่าสนใจมากๆตัวนึง เป็นการใช้งาน Full AMD เลยก็ว่าได้เพราะมาครบทั้ง GPU CPU ในตัว ROG STRIX G15 ADVANTAGE EDITION ที่จะใช้งาน Ryzen 9 5900HX + RM6800M ตัวเทพล่าสุดยังคงทำได้ประทับใจอีกครั้ง ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียวรวมถึงใช้งาน Ryzen 9 5900HX และทาง ROG STRIX G15 ไม่น้อยหน้าทั้งเรื่องของงานออกแบบ วัสดุ แสงสีต่างจัดเต็มทั้งหมด รวมถึงหน้าจอให้มาที่ 165Hz พร้อมกับ Free Sync และ ใช้งาน RAM 16 GB DDR4 3200 Mhz ครบๆเลยนั้นเอง ทางด้านลำโพงนั้นใช้งาน ลำโพงคุณภาพสูงสี่ตัวพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos Crystal Surround Sound เพื่อการขับเสียงแบบ 3 มิติ และ มาพร้อมกับการรับประกันแบบ Onsite Service 3 ปีเต็ม โดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญพร้อมดำเนินการให้บริการหลังการขายถึงบ้านเลยทีเดียวครับจุดนี้ถือว่าทำได้ดีเลย และภายในก็มีการออกแบบ Vapor Chamber ระบายความร้อนพิเศษ และ สัญลักษณ์ AMD บนตัวเครื่องก็เสริมมาด้วย

ROG STRIX G15 GL543QY-HQ009T  นั้นมาพร้อมกับ เป็นครั้งแรกที่เกมมิ่งโน้ตบุ้ก บรรจุสุดยอดขุมพลังจาก AMD ทั้ง CPU และ GPU AMD Ryzen™ 9 5900HX ผสานพลังกับ AMD® Radeon™ RX 6800M  ที่จะใช้งาน AMD Ryzen™ 9 5900HX Processor 3.3 GHz (16M Cache, up to 4.6 GHz) และ AMD® Radeon™ RX 6800M, 12GB GDDR6, AMD RDNA™ 2 (2300Mhz Game Clock up to 2600Mhz Max) ระบบระบายความร้อนพิเศษที่มี Vapor Chamber เทคนิคพิเศษ พาร์ทพิเศษที่ช่วยเร่งการนำความร้อนออกจาก CPU และ GPU พร้อมสกรีนลวดลาย Cutting Edge Cool และ ติดตั้งโลหะเหลวนำความร้อน (Liquid Metal) บนทั้ง CPU และ GPU (ปกติติดตั้งเฉพาะ CPU) มาพร้อมกับ RAM 16GB เป็นการใช้งาน 8GB*2 DDR4 3200 Mhz ( อัพได้สูงสุด 64 GB ) และ ใช้งาน  1TB M.2 SSD NVMe PCIe 3.0 และรองรับการอัพเกรดอีก 1 แถว พร้อมกับหน้าจอที่รองรับการเล่นเกม ใช้งานได้ดีที่ ขนาด 15.6″ IPS WQHD 165Hz Free-Sync sRGB100% DCI-P3 และ ทางด้าน แสงสีนั้นรองรับ RGB 4 Zone และมีไฟ LightBar เสริมเข้ามาในด้านหน้า และลำโพงนั้น สี่ตัวพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos Crystal Surround Sound  และทางด้านระบายความร้อนทั้งเรื่องของ พัดลมก็พัฒนาขึ้น รวมถึง Liquid Metal (Thermal Grizzly Conductonaut) ที่สุดแห่งการระบายความร้อนโปรเซสเซอร์  พร้อมกับการรับประกันแบบ Onsite Service 3 ปีเต็ม บริการหลังการขายถึงบ้าน และยังมี Perfect Warranty ประกันอุบัติเหตุให้ 1 ปีแรก ถือว่าเป็นสเปกที่เพียงพอต่อการใช้งาน เล่นเกมต่างๆครบ และสาวก AMD เน้นๆต้องไม่พลาดสำหรับรุ่นพิเศษตัวนี้ทั้งสเปกและออกแบบ

ทางด้านราคานั้น ROG Strix G15 :: GL543QY-HQ009T ราคา 59,990 บาท

UNBOX

  • ตัวเครื่อง ROG STRIX G15
  • Adaptor ชาร์จไฟ 280W
  • คู่มือการใช้งาน
  • ตัว ROG Cap สำหรับเปลี่ยนด้านหลังเครื่อง 3 สี

DESIGN

งานออกแบบยังคงเป็นแบบเดียวกับ G15 รุ่นอื่นๆทั้งหมด ในปี 2021 นี้แน่นอนว่าส่วนตัวยังคงชอบงานออกแบบ สไตล์ของบรรดา ROG หลายๆรุ่นทั้งหมด รวมถึงงานประกอบต่างๆทำได้ดีสมกับราคาและชื่อ ROG ด้วยเช่นกัน ทางด้าน ROG G15 ในชื่อ STRIX นั้นจะเป็นเน้นแสงสีสวยงามอยู่แล้ว ซึ่งในปี 2021 เป็นการปรับดีไซน์บอดี้ไม่เยอะมาก ยังคงใช้โครงเส้นสายแบบเดิม แต่ลวดลายฝา ภายในนั้นเปลี่ยนไปนั้นเองครับ เพราะจริงๆบอดี้เดิมทำได้ดีอยู่แล้วเป็นรุ่นที่ขอบจอบางสวย และ มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม มีความบางสุดที่ 27.2 มิลลิเมตร นั้นเองและระบบระบายความร้อนแบบใหม่ในด้านหลังและด้านข้าง ออกเต็มๆทั้งหมด 4 ช่อง  4 ทิศทางจัดเต็มเลยทีเดียวในรุ่น G15 ตัวนี้ แต่ที่เราจะเห็นแตกต่างกับ บรรดาตัวอื่นๆคือโลโก้ AMD มุมซ้ายเครื่อง และ แถบสีแดงตรงด้านหลังที่มีพิเศษ

ดีไซน์ด้านหลังและด้านหน้านั้นมีความใกล้เคียงเดิมแต่มีการเล่นลวดลายแบบใหม่พร้อมกับการเขียน ROG เล็กๆเต็มไปหมดทำให้ดูสวยงามไปอีกแบบมากกว่าแบบจุดๆทั่วไปครับ รวมถึงแสงสีไฟยังคงจัดเต็มเหมือนเดิม ในด้านหน้ารวมถึงกินไปข้างๆ และทางด้านคียบอร์ดนั้นให้มาเต็มๆ 4 Zone รองรับการใช้งานได้ดีและสวยงามเลยทีเดียว ส่วนวัสดุแบบด้านสวยงามเช่นเดิมจะออกสีเทาๆ และเจอแสงจะสวยงามรวมถึงโลโก้ด้านหลังที่เป็นแสงสีขาวครับโดดเด่นมาก ส่วนคีย์บอร์ดแม้จะเป็น 15 นิ้วแต่ก็ไม่มี Numpad เพราะว่าได้ขยายปุ่มให้เต็มเครื่อง ใหญ่ขึ้นตอบสนองเล่นเกมได้ดี และ สีแดงจะเด่นขึ้นมาพร้อมกับให้เรารู้เลยว่าเป็นรุ่นพิเศษของทาง AMD X ROG ในรอบนี้เช่นกันครับ

สามารถถอดเปลี่ยนงานออกแบบตรงสีแดงได้ 3 แบบคือ แบบใส แบบสีแดง และ สีเงินครับ พร้อมกับ มุมซ้ายของฝาหลังเราจะเห็นโลโก้ AMD ใส่เข้ามาให้พิเศษมากๆ พร้อมกับคุณภาพของฝาหลังวัสดุคุณภาพสูงพร้อมกับเส้นตัดแนวขวางเป็นเอกลักษณ์เดิมของค่าย พร้อมกับโลโก้ขนาดใหญ่ และ ลวดลาย ROG ตัวเล็กๆทั้งเครื่องครับ แน่นอนว่าอีกจุดเด่นคือระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling แบบ 3D Flow Zone ทำงานร่วมด้วยพัดลมคู่ความเร็วรอบสูงกำลัง 12V แบบ 84 ใบพัดรูปแบบใหม่ แยกฝั่ง ซ้าย-ขวา และท่อฮีทไปป์จำนวน 3 ท่อขนาดใหญ่ โดยมี Copper Plate เสริมเข้ามาอีกทำให้ระบายส่วนด้านหลังนั้นสบายๆครับ

และในเรื่องของการอัพเกรดนั้นแน่นอนว่าตัวนี้ใส่ 16GB DDR4 Bus 3200 MHz เป็นแบบ 8GB x 2 แถว (Dual Channel) มาตรฐาน SO-DIM RAM  จะรองรับสูงสุดแถวละ 32GB นั้นเอง รองรับได้สูงสุด 64GB เลยทีเดียว รวมถึงทางด้านรองรับการอัพเพิ่ม SSD M.2 แต่ก็ตัดการรองรับอัพเกรด HDD ออกไปแล้ว เพราะว่าด้วยขนาดและเทคโนโลยีสมัยนี้ HDD ค่อนข้างเกะกะและกินพื้นที่รวมถึงช้าทำให้ไม่จำเป็นเท่าไรนัก ทำให้มี SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ  1TB  ใส่มาให้และรองรับการเสริมอีก 1 แถวสบายๆ และ การออกแบบฝาหลังที่มีการระบายความร้อนแบบใหม่ที่สวยงามและโดเด่นมากๆครับ แถมมีการออกแบบที่แปลกตากว่ารุ่นอื่นๆเยอะมาก มาพร้อมกับ Heat Pipe จำนวน 6 เส้นซึ่งจะอยู่ภายใต้ Cutting Edge Cool และมีการออกแบบช่องทิศทางลมพิเศษเสริมเข้ามา และ ใช้ซิลิโคน ทางแบรนด์ Thermal Grizzly ด้วยสารประกอบโลหะเหลว Liquid Metal + Vapor Chamber Cooling  จัดเต็มเลยทีเดียวในเรื่องของการระบายความร้อนออกทั้ง 4 ทิศทางแบบนี้เช่นกันครับ

ฐานตัวเครื่องนั้นดีไซน์ยังคงสวยงาม และโดดเด่นดูใส่ใจในด้านล่างของเครื่องเช่นเดิมแม้จะไม่ค่อยเห็นอะไรมากนักก็ตามครับ เรื่องของช่องระบายก็จัดเต็มให้พร้อมกับยางรองที่ออกแบบได้เนียนตาไปกับช่องกราฟิกต่างๆของฐาน และลำโพง 4 ตัวในขอบฐานล่าง ส่วนทางด้านระบบระบายถือว่าดีมากๆมาพร้อมกับช่องระบายความร้อน 4 ช่อง ขับเคลื่อนระบบหมุนเวียนลมด้วยพัดลมแบบใหม่ที่ใช้ไฟ 12 โวลต์ที่ 83 ใบพัดที่มีความบางและแข็งแรงเป็นพิเศษ จึงทำให้ได้พลังลมที่แรงขึ้นมาพร้อมเสียงของลมที่เบาลงจากรุ่นที่แล้ว และ เราจะเห็นการเล่นสีแดงที่เสริมเข้ามาในมุม

งานออกแบบข้างในตัวบอดี้ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกันจะเห็นว่ามีตัว ROG น้อยๆเต็มตัวเครื่องจริงๆถือว่าสวยและดูดีขึ้นและปุ่มเปิดปิดเครื่องรูปทรงเด่นในมุมขวาบน เราจะเห็นว่าวัสดุอะไรนั้นมีความเรียบและเป็นแบบด้านผิวสัมผัสดีแม้จะเป็นแบบด้านแต่ไม่เจอรอยนิ้วมือเลยแม้แต่น้อยถือว่าเคลือบมาดีมากๆ อีกทั้งในมุมขวาก็มีชื่อรุ่นชัดเจนพร้อมกับข้อพับขนาดใหญ่มากๆที่มีความแข็งแรงกางได้ 145 องศาและมีการเว้าขอบหน้าจอ ในฝั่งซ้ายทำให้ระบายอากาศได้ดีขึ้นเราจะเห็นแถบไฟสถานะ 4 จุดสีขาวซ่อนเนียนๆอยู่ และช่องระบายอากาศแบบ 3 มิติในขอบบนทั้งหมดทำได้ดี

ขอบหน้าจอบางเฉียบได้ตัดกล้องหน้าออกไปแล้วทำให้ได้ดีไซน์ที่บางสวยงามแต่กล้องหน้าก็อาจจะต้องซื้อแยกกันไปครับ ก็เป็นส่วนที่หลายๆคนถ้าเน้นทำงานจริง เล่นเกมสตรีมจริงจังคงมีกล้องหน้ากันอยู่แล้วนั้นเองจุดนี้เลยไม่น่ามีปัญหา รวมถึงแสงสีนั้นแน่นอนว่าจัดเต็มในขอบด้านล่างมาพร้อมกับไฟ  Surrounded Light Bar RGB หลากหลายโซนรองรับการปรับแต่งได้อิสระรวมถึงสว่างสวยงามมากๆ เป็นจุดที่ตระกูล STRIX ยังคงเด่นและเน้นมากๆ

SPEC

  • Windows 10
  • หน้าจอ 15.6-นิ้ว WQHD (2560 x 1440) 16:9 หนาจอด้าน anti-glare display ค่าสี DCI-P3:100.00% รองรับ Refresh Rate:165Hz Response Time:3ms ใช้งานหน้าจอ IPS-level และ รองรับ FreeSync
  • AMD Ryzen™ 9 5900HX Processor 3.3 GHz (16M Cache, up to 4.6 GHz)
  • GPU ONBOARD AMD Radeon 8
  • GPU AMD® Radeon™ RX 6800M 12GB GDDR6
  • RAM 16GB (8GB X2  DDR4 Bus 3200MHz SO-DIMM)
  • STORAGE  1TB SSD M.2 NVMe PCIe® 3.0 SSD รองรับการเพิ่มอีก 1 แถว
  • พอร์ตเชื่อมต่อ 1x 3.5mm Combo Audio Jack / 1x HDMI 2.0b/ 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™ / power delivery / G-SYNC / 1x RJ45 LAN port / 3x USB 3.2 Gen 1 Type-A
  • คีย์บอร์ดแบบแบน พร้อมไฟส่องด้านหลัง ระบบสี RGB 4-โซน
  • ระบบเสียง เทคโนโลยีสมาร์ตแอป AI mic noise-canceling ไมโครโฟนอาร์เรย์ภายในตัว
  • 2x 4W speaker with Smart Amp Technology
  • Wi-Fi 6(802.11ax)+Bluetooth 5.1 (Dual band) 2*2;(*BT version may change with OS upgrades.) -RangeBoost
  • Warranty 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty
  • 90 วัตต์ต่อชั่วโมง, 4S1P, 4-เซล ลิเธียมไอออน
  • น้ำหนัก 2.50 Kg (5.51 lbs)

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพในรุ่นนี้เด่นๆเลยคือเจ้า CPU ตัวใหม่ที่ได้ใช้งาน AMD Ryzen 5000 Series  มากับเจ้า ขุมพลังจาก AMD ทั้ง CPU และ GPU AMD Ryzen™ 9 5900HX ผสานพลังกับ AMD® Radeon™ RX 6800M  ที่จะใช้งาน AMD Ryzen™ 9 5900HX Processor 3.3 GHz (16M Cache, up to 4.6 GHz) และ AMD® Radeon™ RX 6800M, 12GB GDDR6, AMD RDNA™ 2 (2300Mhz Game Clock up to 2600Mhz Max) ระบบระบายความร้อนพิเศษที่มี Vapor Chamber เทคนิคพิเศษ พาร์ทพิเศษที่ช่วยเร่งการนำความร้อนออกจาก CPU และ GPU พร้อมสกรีนลวดลาย Cutting Edge Cool และ ติดตั้งโลหะเหลวนำความร้อน (Liquid Metal) บนทั้ง CPU และ GPU (ปกติติดตั้งเฉพาะ CPU) มาพร้อมกับ RAM 16GB เป็นการใช้งาน 8GB*2 DDR4 3200 Mhz ( อัพได้สูงสุด 64 GB ) และ ใช้งาน  1TB M.2 SSD NVMe PCIe 3.0 และมาพร้อมกับ Windows 10 เรียบร้อยพร้อมใช้ทันที ถือว่ารองรับได้แบบสบายๆครับ

PC MARK

คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัวก่อนหน้า ก็ถือว่าแรงพอสมควรแล้วนะ แต่ตัวนี้ทำไปได้ 7363 คะแนน มากกว่าคู่แข่งและรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆ  ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 7,500 คะแนนครับ แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวนั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ครับประมาณก็เป็นจุดที่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่กันแบบชัดเจนเลยนะถือว่าพัฒนาขึ้นหลายเท่าตัวมากๆ และส่งผลในแง่ของการใช้งานจริง รวมถึงความร้อนยังคุมได้ดีไม่แตะ 90 อย่างใดในการทดสอบ

3D MARK

ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว TIMESPY EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 5178 ถือว่าดี และ ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3DMark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 4 แบบ ทำความร้อนไปได้  80 CPU GPU 79 นะครับ และในตัว FIRE STRIKE EXTREAM ทำไปได้ 15783 และ FIRE STRIKE ULTRA 8275 คะแนน ถือว่าแรงสมกับ RX6800M ครับจัดเต็มมากๆแรงสุดๆ เมื่อเทียบกับราคาและประสิทธิภาพบอกเลยว่าเหลือๆในการเล่นเกมแน่นอนรวมถึงทางด้าน Port Royal เองนั้นทำไปได้ 5543 คะแนนครับถือว่าสบายๆอยู่ในระดับสูงๆของทางค่าย AMD ครับ

CINEBENCH R15 R20 – CRYSTALDISK

R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เลยแหละ R15 นั้นทำได้ 2336cb/ 172.53 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบายมากๆหนีกับ GEN11 แบบชัดเจนและเทียบกับ RYZEN 7 4800HS ตัวนั้นจะประมาณ 120 ครับถือว่าพัฒนาขึ้น และมีผลในการเรนเดอร์ R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก และทำได้ดีกว่าตัว i7 Gen11 ด้วยนะ ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 5423 ครับ เช่นเดิมทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์ครับ ส่วนตัว SSD M.2 นั้นทำการอ่านเขียนไป 3083 MB/s และ 1726 MB/s  ถือว่าแรงมากๆในทั้งเรื่องของการอ่านและการเขียนถือว่าให้ประสิทธิภาพที่ดีมากๆอีกตัวนึงเลยในระดับเรทราคาแบบนี้ ทำให้สเปกรวมๆนั้นไม่มีจุดให้ติเลยทีเดียว

SCREEN

หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 2K และยังได้ 165Hz ถือว่าตอบโจทย์ทั้งเรื่องของคุณภาพ ความลื่นไหล ในการเล่นเกมที่ต้องการ FPS สูงๆหรือแม้แต่ภาพคมชัด อีกทั้งยังได้เรื่องของความแม่นยำของสีสำหรับสายงานทำงาน ครีเอเตอร์ต่างๆด้วยเช่นกันเป็นรุ่นที่ รองรับทั้งการทำงานระดับสูง เล่นเกมระดับสูงได้แบบไม่มีปัญหาเลยทีเดียว ในเรื่องของสเปกตัวนี้นั้น ใช้งานหน้าจอ 16 นิ้วเต็มๆใหญ่ขึ้นกว่าเดิม พร้อมอัตราส่วนแบบใหม่ทำให้ขอบจอด้านล่างนั้นลงไปถึงขอบได้มากขึ้น และใช้งาน พาเนล IPS เกรดสูง ค่าสีตรง sRGB 100% รองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz ความละเอียด 2K WQHD (2560 x 1600 พิกเซล) สัดส่วนหน้าจอ 16:10 ที่กว้างกว่าทั่วไป ใช้งานหน้าจอแบบด้าน พร้อมกับการตอบสนอง 3ms รวมถึงมี  AMD FreeSync ทำให้ภาพเนียนมากขึ้นไม่มีอาการฉีกของภาพ และ คุณภาพสีที่ตรงแม่นยำมากๆ ผ่านมาตรฐาน DCI-P3 และ ได้รับการรับรอง Pantone เช่นเดิม ทำให้เรื่องของโทนสีตรงแม่นยำและทำงานได้ทันที รวมถึงมีความคมชัดและ ตอบสนองได้ไวในการเล่นเกม

รวมๆนั้นถือว่ามีมุมมองที่ดีตามราคาของ ROG และคุณภาพสูงมากๆ มุมมองของหน้าจอแน่นอนว่าเป็นหน้าจอแบบด้านก็ทำให้เรื่องของมุมมองนั้นดีกว่าหน้าจอแบบปกติมากพอสมควร และตัวนี้ได้หน้าจอที่มีคุณภาพสูงอันดับต้นๆของสายเกมมิ่งที่ขายกันในตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเน้นเรื่องของความแม่นยำของสีได้ชัดเจน และ เวลาเล่นเกมนั้นรู้สึกชัดเจนว่าภาพค่อนข้างมีมิติกว่าทั่วไปและได้ 165Hz ถือว่าโหดมากๆและได้ความละอียดสูงถึง 2K เลยทีเดียวครับ แน่นอนว่าถ้าเทียบกับตัวก่อน M15 4K 60Hz ก็มีข้อแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ตัวนี้จะตอบโจทย์สายเกมมากกว่าเยอะในความลื่นไหล แต่ยังคงได้สีที่ตรง คุณภาพสูงเข้ามาอยู่ จะไม่สวยคมชัด สีเทพ และบังคงมีความลื่นไหล สำหรับรุ่นนี้ค่อนข้างตอบโจทย์สายทำงาน สายเกมได้แบบลงตัวครับ มุมมองสีไม่เพี้ยนหรือดรอปลงแม้แต่น้อย และยังคงความสวยงามและจะมุมมองอื่นทั้งการตัดต่อ เล่นเกมยังแสดงค่าสีได้ดีกว่าตัวอื่นแบบชัดเจน เป็นหน้าจอที่ทำงานได้ เอามาตัดต่อแต่งภาพได้สบายได้ค่ามาตรฐาน 100%sRGB-DCI-P3 ทำให้เรื่องของหน้าจอตัวนี้สมราคาและคุณภาพดี

KEYBOARD

คีย์บอร์ดในครั้งนี้ดีไซน์สวยงามคล้ายเดิม และมาพร้อมกับ AuraRGB  4 Zone ปรับได้อิสระมากๆ และการออกแบบที่เน้นสีใสเป็นปุ่ม WASD อะไรพวกนั้นดูน่าสนใจและสวยงามรวมถึงการทำปุ่มรอบๆนั้นเป็นแบบใส ถือว่าดูสวยและทำให้แสงสีนั้นออกมาได้ชัดกว่าเดิมเยอะ รวมถึง การเว้นระยะ การสัมผัสอะไรนั้นจะคล้ายๆเดิมครับแตกต่างกันที่ดีไซน์มากกว่าตัวปุ่มครั้งนี้สามารถปรับแสงสีอะไรได้เยอะกว่าเดิมเยอะมากครับส่วนปุ่มการวางตำแหน่งต่างๆของปุ่มพิเศษ ปุ่มเปิดปิดเครื่องยังคงคล้ายๆของเดิม แต่มีการเปลี่ยนลักษณะปุ่มแบบใหม่ทั้งหมดครับ และ ไม่มีการใส่ NumberPad เข้ามาแล้วนะครับเป็นปกติของบรรดา Gaming แต่ก็จะได้ปุ่มที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ระยะห่างดีขึ้น ใช้งานเล่นเกมได้ดีขึ้นรวมถึงปุ่มลัดในแถบด้านขวาก็ใส่เข้ามาให้ควบคุมพวกเพลง เปลี่ยนเพลงได้จุดนี้ถือว่าใช้งานบ่อยมากก และปุ่ม Arrow Key นั้นอยู่เยื้องลองมาทำให้การกดใช้งานนั้นไม่มีปัญหาและเล่นเกมได้ดีเช่นเดิมเลย

ซึ่งระยะของปุ่มนั้นลงไประยะที่ 1.8 มิลลิเมตร และปุ่มนั้นไม่ใช่แค่เรียบๆแต่มีการออกแบบให้โค้งรับกับนิ้วของเราที่  0.25 มิลลิเมตร และยังมีตัวช่วยในด้านเทคโนโลยีต่างๆแบบ OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting ทาง ROG มีการบอกอายุว่าใช้งานประมาณ 20 ล้านครั้ง  และ รวมถึงสามารถมีฟังก์ชันเพิ่มลดเสียง เปิด-ปิดไมค์ และ Gaming Center อยู่ด้านบน ทำให้ใช้งานง่ายและสะดวก ยิ่งตัวปิดไมค์นั้นทำให้เวลาเล่นเกม หรือ สตรีมเกมนั้นปิดได้ไวเวลาไม่ได้ต้องการหรือคุยนอกเกมเป็นต้นครับอันนี้ชอบมากๆเลย และความรู้สึกทำได้ดีกว่าตัว TUF ในเรทเดียวกัน ทำให้สัมผัสใช้งานต่างๆนั้นไม่ต่างกับรุ่นแพงของตระกูล STRIX เลย

TOUCHPAD 

มีขนาดใหญ่ขึ้นชัดเจนและใช้งานได้จริงแล้ว รวมถึงงานอกแบบที่ไม่ได้แยกปุ่มทำให้พื้นที่การใช้งานเต็มมากขึ้นจากเดิมในการทำงานหรือใช้งานนอกสถานที่ แน่นอนว่าแม้สายเกมอาจจะไม่ได้ใช้งานในเรื่องนี้บ่อยมากนักแต่การที่ใส่พื้นที่ขนาดใหญ่มาแบบนี้ย่อมดีกว่าแบบเล็กๆแน่นอนครับ รวมถึงพื้นผิววัสดุนั้นรองรับได้ดีลื่นและติดนิ้ว รวมถึงการกดระยะกดอะไรก็ลึกกำลังดีความแน่นและสัมผัสใช้งานหลายๆนิ้วไม่เจออาการมึนหรือรวนแต่อย่างใดครับในตัวนี้ แต่ที่ชอบคือมันใหญ่มากจริงๆสามารถวางไว้ทั้ง 5 นิ้วได้แบบสบายๆลากเปลี่ยนแอป ใช้งานได้แบบเต็มที่จุดนี้ทำได้ดี

SPEAKER 

ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ให้มาจัดเต็มและเป็นรุ่นแรกๆที่ใส่ระบบเสียงการรองรับ DOLBY ATMOS เข้ามาเสริมทำให้เสียงนั้นเวลาดูหนัง เล่นเกมที่รองรับนั้นมีมิติเสียงรอบทิศทางได้ดีมากๆ เสียงรอบตัวเราจริงๆและด้วยพละกำลังลำโพง 4 ตัวทั้งหมดนี้ทำให้เสียงมีความดัง แน่น เบสมากลางๆและคุณภาพเสียงอันดับต้นๆของบรรดา Gaming Notebook แล้วด้วยเช่นกัน รวมถึงเมื่อเทียบกับราคานั้นต้องบอกว่าสมราคาและค่าย ROG ยังคงเด่นเรื่องนี้มากๆ  แต่ถ้าเทียบกับพวกที่มีชิปเสียงตัวนั้นกำลังขับเวลาฟังเพลงจะทำได้ดีกว่า รวมถึงไม่มีพวก ซัพอะไรใส่เข้ามาให้ทำให้เสียงเบสอาจจะไม่ได้แน่น สั่นสะใจมากนัก เลยออกแนวกลางๆ แต่มิติภาพรวมนั้นทำได้ดี และทิศทางดีเลยทีเดียว พร้อมฟีเจอร์ Two-way AI Noise-Cancelation ตัดเสียงรบกวนมอบประสบการณ์การ voice chat ที่คมชัด

CONNECTOR 

พอร์ตเช่อมต่อให้มาในด้านหลังแบบจัดเต็มพร้อมกับพอร์ตที่เหลือนั้นจะอยู่ในด้านซ้ายของตัวเครื่อง และแน่นอนว่ายังคงให้มาครบมากๆ ในด้านหลังจะมาพร้อมกับ USB-A 3.2 GEN 1 และ USB 3.2 Gen 2 ไทป์-ซี (Type-C) รองรับจอแสดงผล / รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (power delivery) และ HDMI 2.0b รวมถึง RJ45 LAN port และ ช่องจ่ายไฟเข้า พอร์ตครบแบบเดียวกับรุ่นพี่ STRIX SCAR 17 เลยทีเดียวพร้อมกับช่องระบายข้างหลัง

ในด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นช่องระบายความร้อนในด้านหลัง พร้อมกับ USB-A 3.2 GEN 1 ทั้ง 2 ช่อง พร้อมกับ รู 3.5 มม. ไมค์ในตัว และแถบไฟในด้านหน้านั้นเองครับ มีความบางกำลังดีและช่องระบายในด้านซ้ายขนาดใหญ่

พอร์ตเชื่อมต่อนั้นต้องบอกว่าในด้านขวานั้นไม่ได้มีช่องเชื่อมต่ออะไรพิเศษครับ เพราะโดนย้ายไปด้านหลังทั้งหมดและอาจจะเพื่อความสวยงามของบอดี้ที่โชว์บอร์ดข้างในด้วยก็เป็นไปได้ ทำให้ด้านขวานั้นเห็นช่องระบายในด้านหลัง และแถบไฟในด้านหน้า และความบางที่ทำได้ดีมากๆในด้านหน้าที่บางแค่ 22 มม. เท่านั้นถือว่ากำลังพกพาได้ดี

MY ASUS

ทางด้านโปรแกรม เสริมเพิ่มเติมเข้ามานั้นนอกเหนือจาก Armoury Crate แล้วจริงๆจะมีตัวโปรแกรมที่เสริมในแง่ของการอัพเดทระบบ เช็คสุขภาพตัวเครื่องนั้นก็คือตัว MyASUS โปรแกรมที่ช่วยตรวจสอบเครื่องว่ามีอุปกรณ์ ตัวไหนที่มีปัญหา รวมถึงการอัพเดทไดว์เวอร์และไบออสให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด และยังปรับแต่งการทำงานต่างๆได้อย่างหลากหลาย ชึ่งจะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้งานร่วมกับโปรแกรม  Armoury Crate ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องให้เรียบร้อยแล้วทั้งเรื่อง การอัพเดท ค่าต่างๆในตัวเครื่องให้เป็นตัวเวอร์ชันล่าสุด ทำให้ไม่ต้องไปวุ่นวายลงเองครับ

ARMOURY CRATE

Armoury Crate เป็นหน้าตาที่สวยงามเช่นเดิม ใช้งานได้ง่ายและเราสามารถปรับแต่งได้ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งไฟ AURA Sync ที่ทั้งตัวคีย์บอร์ด การแสดงผลต่างๆหรือซิงค์กับตัวอื่นๆนั้นเอง และพวก Profile ก็มีให้ปรับได้ค่อนข้างเยอะครับ หรือจะเป็นการตั้งค่าแอปเกม ที่จะปรับตามแอปที่เราเลือกเปิดไว้ได้ก็เช่นเดียวกันครับ

ฟีเจอร์ทั้งหลายนั้นรองรับการทำงานหลากหลายครับ ทั้งเรื่องของการปรับแต่งการใช้งาน ดูสถานะ อุณหภูมิ พัดลมต่างๆสถานะการใช้งาน CPU -GPU  รวมถึงสามารถโหลดแอปอื่นๆเพิ่มเติมได้ค่อนข้างเยอะมากครับและมี ปรับเสียงตัดเสียงไมค์ มาให้ด้วยในตัวเลยแหละ และยังมีแอปอื่นๆที่เราสามารถโหลดได้ ทั้งบอกทิศทางเสียงต่างๆ ปรับโปรไฟล์สีหน้าจอ รวมไปตัวซอฟต์แวร์ยังสามารถสั่งปิดเปิดปุ่ม Windows, ROG และทัชแพดได้ขณะเล่นเกมด้วยอีกด้วยพวกนี้สามารถตั้งค่าปรับอะไรได้ทั้งหมด รวมถึงการปรับโทนหน้าจอทั้งหลายครับเรียกได้ว่าปรับได้หลากหลาย

WORKING 

การเล่นเกมและในการทำงานนั้นแน่นอนว่าตัวนี้ก็ถือว่าพัฒนามาดีขึ้นครับสำหรับ AMD RYZEN บอกเลยว่าถ้าสายทำงาน สายเรนเดอร์หรือจะเป็นการตัดต่อ ทำภาพ 3มิติ สร้างบ้าน ขึ้นโมเดล ทำงานหลายโปรแกรม ทางค่ายแดง AMD RYZEN ทำได้ประทับใจกว่าอีกค่ายอยู่แล้วครับ ทั้งการจัดการหลายๆโปรแกรม การรัน การประมวลผล และเห็นชัดมากๆในการ เรนเดอร์โมเดลอันนี้แอดมินใช้เองเลยครับ มาพร้อมกับเทคโนโลยี 7nm เช่นเดิม ในตัว RYZEN 9 5900HX  ด้วยนะ พร้อมกับ RX6800M และใช้งาน RAM 16GB 1TB SSD ก็ถือว่าไวมากๆในทั้งเรื่องของการอ่านเขียน แต่ทดสอบในการเรนเดอร์การทำงานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้างลองดูทดสอบกันในหลายๆโปรแกรมสายทำงาน แต่บอกเลยว่าการอ่านเขียนโปรแกรมต่างๆของค่ายนี้ทำได้ดีและเรนเดอร์ไวมาก และ การ์ดจอค่ายแดงไม่ธรรมดาเลยทีเดียวครับ และ เทียบกับระดับเรทราคาถือว่าการเรนเดอร์ในหลายๆโปรแกรมอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากๆ

ในการใช้งานพื้นฐานด้วยทั้ง RAM16 GB + Ryzen 9 5900HX ทำให้การทำงานนั้นลื่นไหล และสามารถเปิดหลากหลายโปรแกรมพร้อมกันได้แบบไม่ต้องห่วงว่าจะหน่วงหรือค้างเลยนั้นเอง สำหรับสายทำงานเหมือนจะใช้งานเป็นเครื่องหลักได้เลยรองรับการเปิด ADOBE รุ่นล่าสุดทั้งหมดได้พร้อมกับ รวมถึงเรนเดอร์ได้ด้วยไม่เจออาการหน่วงหรือค้าง และยังทำเวลาได้ดี อีกทั้งหน้าจอที่สีตรงทำให้เอามาแต่งภาพทำงานได้ทันทีไม่ต้องไปต่อจอนอกเพื่อแต่งภาพอะไรทั้งนั้นครับเรียกได้ว่า ถ้าสายทำงานอาจจะชอบหน้าจอแบบนี้มากกว่าและมีความคมชัด สีตรงมากเลยทีเดียว

SKETCH UP

ในงานนี้ก็เป็นการทดสอบแบบจัดเต็มเลยคือเรนเดอร์ไฟล์ความละเอียดสูงพร้อมกับใส่ Texture ที่อิงกับแสงและทั้งตัวกระจกเองรวมถึงดีเทลในอาคารก็ถือว่าเป็นการทดสอบได้ดีครับแต่ถ้าอยากหนักกว่านี้แนะนำเลยว่าใส่ต้นไม้และท้องฟ้าอาคารข้างหลังจะรู้เลยว่ามันทำงานไหวไหม ซึ่งจริงๆก็ลองอยู่ต้องบอกว่าไหวสบายครับ แต่ความร้อนจะมีขึ้นมากกว่าปกตินิดหน่อย แต่ที่เรนเดอร์ในภาพตัวอย่างนั้นจะทดสอบเทียบกับคอม RTX ทั่วไปครับ เลยได้คร่าวๆว่าตัว GAMING จะเรนเดอร์พวกนี้คือ 90-100 นาที แต่ถ้าตัวนี้เอามาทำจะได้ภายใน 28 นาทีเท่านั้นเท่ากับประหยัดเวลาไปเยอะมากในการทำงานแต่ละชิ้นงาน บอกเลยว่าเอาเรื่องเลยแหละครับไวกว่าตัว i7 Gen11 ประมาณ 12 นาที

PREMIRE PRO  

ทดสอบโดยการเรนเดอร์ในความละเอียดสูง 4K 60 FPS นั้นทำได้ดีแค่ไหนกันนั้นแอบมีเทียบตัว INTEL I7 ด้วยนิดหน่อยครับ ซึ่งในตัวนี้ จะเรนเดอร์ได้ภายใน 12 นาที และเมื่อเทียบกับ Ryzen 7 4800HS ทำไปได้ 26 นาทีครับ แต่ถ้าใช้งาน i7 GEN11 นั้นจะใช้เวลาประมาณ 23 นาที และในการเรนเดอร์คลิปต้องบอกว่ามันมีผลแบบชัดเจนถ้าเราเอาคลิปแต่ละเครื่องมาเทียบกันกับระยะเวลาในการเรนเดอร์ครับโดยทางเราทดสอบในการเรนเดอร์คลิปแบบเดียวกันทั้งหมด ถือว่าจัดการในการทำเวลาค่อนข้างต่างกัน และแม้จะเทียบกับค่ายตัวเองในรหัสใกล้ๆกัน แต่เป็นคนละปีก็ยิ่งแตกต่างกันด้วยนั้นเอง ถือว่าสายทำงานเรนเดอร์หรือว่า ครีเอเตอร์ตัวนี้สามารถตอบโจทย์ได้สบายๆครับ

LUMION 11 

ตัวโปรแกรม LUMION เองนั้นเป็นสายเรนเดอร์ภาพเคลื่อนไหวสำหรับสายงานด้านสถาปัตยกรรม ในการเรนเดอร์ตัวอาคาร หรือว่า ตัวบ้านต่างๆให้มีการเคลื่อนไหวของมุมกล้อง พาเดินต่างๆแน่นอนว่าจะแตกต่างกับตัว Sketchup ที่ตัวนั้นจะเป็นภาพนิ่ง และการทำงานของโปรแกรมเองก็แตกต่างกัน ในโปรแกรมนี้จะเน้นใช้งานเรนเดอร์ผ่าน GPU แบบ 100% เป็นหลักทำให้สามารถทดสอบได้เลยว่าการ์ดจอเองนั้นไหวไม่ไหว และทำเวลาไปได้เท่าไรด้วยเช่นกันการเรนเดอร์ทดสอบโดยการเรนเดอร์แบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในความละเอียด 4K เพื่อในการเทียบเวลากับตัวอื่นซึ่งในรุ่นนี้จะใช้เวลาเรนเดอร์ไป 1.33 ชั่วโมงเท่านั้นนถือว่าไว ถ้าเทียบกับ RTX3070 ก่อนหน้าทำเวลาไป 1 ชั่วโมง และบอกเลยว่าการเรนเดอร์การทำงานพวกนี้ RX6800M โหดอยู่แต่ถ้าเทียบกับ 3070-3080 นั้นอาจจะต่างกันอยู่บ้าง

GAMING 

การเล่นเกมต้องบอกว่ารุ่นนี้สามารถขับหน้าจอ 2K 165Hz ได้แบบไม่มีปัญหาในการเล่นเกมแม้จะปรับภาพสุดที่ลองนั้นในสภาพอากาศที่ไม่ได้เปิดพัดลม ไม่ได้เปิดแอร์ ซึ่งทำให้ได้อุณหภูมิจริงๆในการใช้งานเลยแหละครับสภาพอากาศจริง ซึ่งก็ได้ทำการทดสอบในหลายๆเกมทั้งกราฟิกที่ไม่ได้สวยงามกินสเปก ไปยันกินสเปกโหดๆ ซึ่งทางเราก็ได้เปิดภาพแบบสูงสุด รวมถึง เปิด Monitor FPS /Temp ไว้ตลอดเลยเล่นต่อเนื่องยาวๆครับในแต่ละเกม ซึ่งในรุ่นนี้ปุ่มอะไรพวกนั้นเวลาเล่นเกมรองรับได้ค่อนข้างดี คือตัวแป้นพิมพ์นั้นเล่นได้ง่ายมีที่วางมือและไม่ร้อน เราสามารถวางมือบนตัวคอมพิวเตอร์ได้เลยครับ จัดการความร้อนได้ดีมาตลอดในด้านตรงที่วางมือ  เรามาดูกันในหลายๆเกมว่าจะเป็นยังไงกันและตัว RYZEN 9 5900HX +RX6800M ค่ายแดงทั้งคู่จะทำได้ดีแค่ไหน และครั้งนี้มาพร้อมกับ RAM 16GB อีกทั้งตัว SSD 1TB ที่รองรับการเล่นเกมได้สบายๆ และค่ายแดงจะขับได้โหดแค่ไหนไปดูกันได้เลย

กราฟิกระดับสูงสุดเท่าที่เกมรองรับ และ ปรับภาพในขนาด 2K ทั้งหมดในการเล่นนะครับ และทำได้ดีมากส่วนเรื่องความร้อนในสภาพอากาศปกติไม่ได้เปิดแอร์ หรือ เปิดพัดลมอะไรนั้นทำได้ที่ GPU 85-86 ไม่เกินนี้เลยย้ำว่าไม่ใช่ห้องแอร์และเล่นต่อเนื่องกันยาวๆ 2ชม+ ทุกเกมครับ โดยประมาณครับถือว่าในด้านของความร้อนก็มีพอประมาณในตัว CPU มีแตะ 85-88 บ้างในบางครั้งครับแต่พัดลมเปิดแรงสูงสุด และไม่ได้เล่นในห้องแอร์นะครับถือว่ารับได้ และ FPS นิ่งไม่ตกเลยแม้แต่น้อย ถือว่ามีความร้อนบ้างถ้าเล่นต่อเนื่องนานๆและถ้าเล่นให้ห้องแอร์น่าจะลงต่ำกว่านี้ครับ แต่ถ้าอยากได้ลื่นๆนั้นต้องปรับภาพระดับกลางจะขับได้เกิน 150 Fps นะครับอันนี้ต้องลองปรับกันไป

  • Overwatch นั้น ทำไปได้ FPS 128 อุณหภูมินั้น GPU 80 CPU 82  : EPIC
  • APEX ทำไปได้ FPS 155 อุณหภูมินั้น GPU 86 CPU 87 : ULTRA
  • PUBG ทำไปได้ FPS 106 อุณหภูมินั้น GPU 80 CPU 82  : ULTRA
  • Modern Warfare ทำไปได้ FPS 107 อุณหภูมินั้น GPU 84 CPU 88  : ULTRA  
  • FORZA HORIZON 4 ทำไปได้ FPS 120 อุณหภูมินั้น GPU 80 CPU 81  : ULTRA  

ถือว่าสายเกมมิ่งนั้นไม่น่ามีปัญหาในการเล่นเกม ภาพสวยคมชัด และ ลื่นไหล ตัวนี้จะได้หน้าจอ คุณภาพสูงมากๆ ทั้งความคมชัด โทนสีตรง มิติของภาพสวยและสู้แสงได้ดี + 165Hz และการที่ใส่ Free Sync เข้ามานั้นจะไม่เกิดอาการภาพฉีกเลยถือว่าดีสำหรับสายเกม เพราะถ้าไม่มีนั้นจะเจอง่ายมากเวลาเล่นเกมแล้วหันหน้าไปมาทำให้มีภาพเฉือน และถ้ามองในแง่ของการ์ดจอทีมแดงที่พัฒนาขึ้น ดึงประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เล่นเกมได้เต็มระบบประสิทธิภาพทั้ง ความลื่นไหล การซิงค์ของภาพ และแน่นอนว่าความคมชัดและสีที่มีมิติมาครบ และสีสันจะสวยอิ่มกว่าอีกค่ายนิดหน่อยครับ และ การขับ FPS ต่างๆนั้นดีกว่ายุคก่อนๆเยอะมากรวมถึงตัวโปรแกรมที่พัฒนามารองรับ

AMD RADEON SOFTWARE 

ซอฟต์แวร์ AMD Radeon Software รุ่นล่าสุด พัฒนาโดยคำนึงถึงความต้องการใช้งานของเกมเมอร์เป็นสำคัญ นำเสนอฟีเจอร์และความสามารถใหม่ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงและสมบูรณ์แบบ ฟีเจอร์ AMD Link สำหรับระบบปฎิบัติการ Windows® และ ทางด้านโปรแกรมเองก็พยายามพัฒนาหน้าตาเรียบง่ายมากขึ้น ใช้งานได้ง่ายมากขึ้นรวมถึงการอัพเดทต่างๆที่ ค่ายนี้อาจจะโดนบ่นจากยุคก่อนๆ จริงๆทางค่ายเองก็ทราบและพยายามปรับขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาเป็นตัวปี 2020 ตัวนี้นั้นเอง และเราจะสามารถใช้งานปรับได้อิสระทั้งหมดรวมถึงฟีเจอร์เทพ AMD Smartshift ก็รองรับและมีหน้าตาแสดงผลด้วยเช่นกัน สามารถเข้าไปปรับแต่งการตั้งค่าของไดรเวอร์เฉพาะเกมได้อย่างสะดวกมากขึ้น รวมถึงฟีเจอร์ Radeon Boost , Radeon Image Sharpening

ROG STRIX G15 ADVANTAGE EDITION AMD 

” ขุมพลัง AMD ทั้ง CPU GPU ทำงานกันได้ลงตัวยิ่งขึ้น ภาพสวย ขับได้โหดขึ้นกว่าเดิม ! “

ตระกูล ROG นั้นมีการพัฒนาทั้งเรื่องของงานออกแบบ และ ภายในมาโดยตลอดแต่น้อยครั้งมากๆที่เราจะเห็นแบรนด์ไหนที่ทำรุ่นพิเศษออกมา สำหรับสาวก AMD เต็มๆแบบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสเปกที่ใช้งาน AMD ทั้งคู่ แต่รวมถึงมาพร้อมกับ สัญลักษณ์พิเศษทั้งด้านนอกตัวเครื่อง โทนสี รวมถึงเมื่อแกะฝาหลังออกมาก็เจองานออกแบบที่โดดเด่นในส่วนของ Vapor Chamber ข้างในการระบายความร้อนพิเศษ รวมถึงการใช้ ซิลิโคนเทพทั้ง CPU GPU จัดเต็ม และในแง่ของสเปกบอกเลยว่า AMD สมัยนี้ไม่ร้อน และ แรงขึ้นเยอะรวมถึงการขับภาพความสวยงาม ยังคงเป็นจุดเด่นของค่ายนี้ โทนสีที่อิ่มสวยมากกว่า สายงานกราฟฟิคทำได้ดีกว่าแน่นอนอีกทั้ง ทางด้านระบบ Software ได้มีการพัฒนาปรับปรุงขึ้นมาเรื่อยๆ จนดีกว่ายุคก่อนๆเยอะมากแล้วก็ตามครับ และในแง่ของสเปกภาพรวมทั้งหน้าจอระดับเทพ 165Hz WQHD และระบบเสียง งานออกแบบทั้งหมดนั้นทำออกมาสมราคากับสเปกตัวนี้และชื่อชั้นของ G15 ได้อย่างลงตัว รวมถึงการรองรับการอัพเกรดที่ทำได้น่าสนใจมากกว่าเดิม ภาพรวมจึงเ็นรุ่นที่สาวก AMD ต้องมีและภาพรวมในการใช้งานจริงๆ เล่นเกม ทำงานตัดต่อนั้น Ryzen9 5900HX+Rx6800M คู่นี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

ข้อดี

  • งานประกอบ บอดี้วัสดุ ยังคงทำได้ดี แข็งแรงและพรีเมี่ยม
  • ดีไซน์สวยงาม ผิวสัมผัสดี ไม่มีรอยนิ้วมือติดแม้จะเป็นแบบด้าน
  • สเปกโหดทีมสีแดง AMD Ryzen 9HX + RX6800M ตัวใหม่ล่าสุด
  • รองรับเทคโนโลยี Smartshift ของทางค่าย AMD
  • สเปก RAM SSD หน้าจอ ให้มาครบพร้อมใช้งาน
  • หน้าจอ สีตรง 165Hz  sRGB 100% ความละเอียด QHD !
  • คีย์บอร์ดดีไซน์สวย ใช้งานได้ดี รองรับ 4 Zone RGB
  • ลำโพง 4W x 2 คุณภาพดี รองรับ Dolby Atmos รอบทิศทาง
  • Liquid Metal (Thermal Grizzly Conductonaut) + ช่องระบายความร้อน 4 ช่อง
  • รองรับ SSD M.2 เพิ่มได้ + RAM ได้อีก 1 แถว
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบพร้อมใช้งาน ในด้านหลัง และ ข้าง
  • Surrounded Light Bar รองรับการปรับแต่ง AURA RGB
  • 3 year Onsite service + 1 year Perfect warranty

ข้อสังเกต

  • ไม่มีกล้อง Webcam มาให้ใช้งาน
  • ไม่มี Numpad แม้จะขนาด 15.6 นิ้ว

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr