OnePlus เองได้เปิดตัว NORD 2 5G ในตลาดต่างประเทศกันไปแล้วและเป็นงานเปิดตัวที่ทำออกมาได้ว้าวมากๆคล้ายกับหนังสั้นเลยทีเดียว และ ซีรีย์นี้ถือว่าโดดเด่นและเป็นรุ่นที่น่าสนใจเลยแหละรวมถึงในประเทศไทยเองก็ตามครับ น่าเสียดายว่ารุ่นพี่ 9 ไม่มีข่าวอัพเดทในไทยและน่าจะข้ามการทำตลาดไปแล้ว เลยทำให้ NORD 2 5G ตัวนี้ถือว่ามาไวกว่าที่คิดและพร้อมขายได้เร็วๆนี้แน่นอนครับ และภาพรวมเองนั้นรุ่นนี้ ทรงพลังขึ้นจาก OnePlus Nord รุ่นแรก ครอบคลุมตั้งแต่ประสิทธิภาพของระบบกล้อง ไปจนถึงการชาร์จและการออกแบบตัวเครื่อง และถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนประสบการณ์ A.I. Technology ที่ยอดเยี่ยม ตัวนึงเพราะได้มีการร่วมพัฒนา CPU กับทาง MediaTek Dimensity 1200-AI: OnePlus เป็นแบรนด์เดียวที่ได้ร่วมพัฒนาชิปเช็ทนี้ร่วมกับ MediaTek และเป็นแบรนด์เดียวที่ ชิป CPU: MediaTek Dimensity 1200-AI ด้วยอันนี้น่าสนใจครับ และระบบ A.I. ก็น่าจะมีส่วนเข้ามาช่วงทั้ง กล้อง การเล่นเกม หน้าจอ หรือแม้แต้การใช้งานทั่วๆไปด้วยเช่นกัน ส่วนงานออกแบบดูดีสวยขึ้นพอสมควรและยังคงเน้นโทนสีฟ้าไว้เช่นเดิม ส่วนในไทยเองเปิดตัววันที่ 25 นี้แล้วนะแต่ทางเราขอมาพรีวิวกันแกะกล่องกันก่อน
OnePlus Nord 2 5G มาพร้อมหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz, อัตราส่วน 20:9, รองรับ A.I.colour boost, A.I. resolution boost ฯลฯ ที่มีกล้องหน้า 32MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX615 แต่ไม่มีกล้องหน้า ultra-wide เหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา ใช้ชิบประมวลผล MediaTek Dimensity 1200-AI ที่ทาง OnePlus จับมือกับ MediaTek ในการพัฒนาระบบ A.I. บนชิบดังกล่าว ซึ่งตัวชิบรองรับเครือข่าย 5G ทั้งแบบ SA และ NSA สำหรับ RAM มาพร้อม RAM สูงสุด 12GB ส่วนระบบปฏิบัติการใช้ Android 11 ที่ครอบด้วย OxygenOS 11.3 ที่ตั้งอยู่บน ColorOS 11.3 โดยทางบริษัทได้ยืนยันแล้วว่าจะทำการอัพเดท Android ครั้งใหญ่จำนวน 2 ครั้ง และอัพเกรดแพทช์รักษาความปลอดภัยจำนวน 3 ครั้ง กล้องหลังของ Nord 2 จะมาพร้อมกล้องตัวหลัก 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในเลนส์ ultra-wide ของ OnePlus 9 และ 9 Pro อีกทั้งมีขนาดใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ Sony IMX586 ที่ใช้ใน Nord รุ่นแรก รวมทั้งยังรองรับ OIS ส่วนกล้องที่เหลือประกอบด้วยกล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP และกล้อง B&W สำหรับถ่าย portrait ทั้งนี้แบตเตอรี่จะเป็นแบบ dual-cell ความจุ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว Warp Charge 65 ที่ชาร์จแบตจาก 0-100% ได้ในเวลา 30 นาที ตัวสมาร์ตโฟนมาพร้อมปุ่มสไลด์ปรับการแจ้งเตือน (alert slider) และมาพร้อมกระจก AG 3D ที่ให้ควาามรู้สึกบางลงและโค้งมนกว่าเดิม ซึ่งตัวเครื่องในสีเทา (Gray Sierra) ได้รับแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตหรู ตัวเครื่องสี Blue Haze มีดีไซน์คล้ายเครื่องเซรามิก (porcelain) ส่วนทางด้านราคา รอลุ้นกันวันเปิดตัว
UNBOX
ตัวกล่องต้องแจ้งเลยว่าถ้าคนซื้อทั่วไปนั้นจะได้แค่กล่องขวามือ หรือว่ากล่องปกตินะครับ ส่วนกล่องใหญ่นั้นจะเป็น MEDIA BOX ซึ่งไม่มีขาย แต่ทางเราเอามาแกะกล่องให้ชมกันว่ามันเป็นยังไงมีอะไรกันบ้างรวมถึงกล่องธรรมดา
สำหรับ MEDIA BOX ตัวนี้จริงๆก็จะได้ความพิเศษที่มีทั้งเคสแถมมาให้ 3 แบบ และการเขียนตัวหนังสืออะไรเล็กน้อย แน่นอนว่าไม่ได้มีของอะไรเยอะมากครับ แต่ตัวกล่องนั้นถือว่าสวยและดูแพงเลยแหละ ส่วนเคสพิเศษก็โดดเด่น
แต่สำหรับคนทั่วไปนั้นแน่นอนว่าได้กล่องที่เราคุ้นเคยกันดีในภาพด้านบนพร้อมกับอุปกรณ์ให้มาครบๆเช่นเดิมไม่ตัดออกไปไหน ทั้งหัวชาร์จ เคสต่างๆ รวมถึงสายชาร์จสีแดงครับ แน่นอนว่าครบๆพร้อมใช้งานและรองรับชาร์จ 65W
- ตัวเครื่อง OnePlus NORD 2 5G
- ตัวเคส TPU ใส
- สายชาร์จ USB-A ไป USB-C
- Adaptor ชาร์จไฟ Warp Charge 65
- คู่มือการใช้งาน ที่จิ้มซิม
DESIGN
งานออกแบบตั้งแต่แรกเห็นเลยตัวนี้จะมาพร้อมกับดีไซน์ที่แตกต่างกับรุ่นก่อนหน้าทันทีพร้อมกับสีฟ้าที่โดดเด่นขึ้น รวมถึงความหรูหรา แพงขึ้นแน่นอนดีไซน์คล้ายกับรุ่นเรือธง OnePlus 9 มากๆแต่วัสดุอะไรแตกต่างกันไป ซึ่งตัวนี้เองนั้นจะมาพรัอมกับ สีฟ้า Blue Haze และ สีเทาGrey Sierra สวยงามทั้งคู่ ซึ่งสีฟ้า ดีไซน์คล้ายเครื่องเซรามิก (porcelain) ที่สะท้อนแสงและเปล่งประกายมากกว่าเดิมและเป็นสีประจำตระกูล Nord ไปแล้วด้วยเช่นกัน มาพร้อมกับ ปุ่ม Alert Slider เช่นเดิมและ กล้องหลัง ความบางเบาอะไรนั้นอยู่ที่ 8.25มม และ หนัก: 189 กรัม กำลังดี
ด้านหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าจะมีรูบนหน้าจอน้อยลงเพราะว่ากล้องหน้าเหลือตัวเดียว จะใช้งานหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz, อัตราส่วน 20:9, รองรับ AI colour boost, AI resolution boost พร้อมกับขอบจอบางและรองรับการใช้งาน Always On Display และ สแกนนิ้วบนหน้าจอให้มาครบ
ด้านบนนั้นเป็นแบบเจาะรูมุมซ้ายตัวเครื่องเช่นเดิมที่มีกล้องหน้า 32MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX615 ถือว่ากล้องหน้าเทพขึ้นเยอะ เผลอๆดีกว่ารุ่นพี่ OnePlus 9 ซะด้วยซ้ำเพราะว่าใช้งานเซนเซอร์ตัวใหม่และความละเอียดสูงครับและยังคงใช้งานลำโพงคู่จัดเต็มทั้งบน และ ล่างตัวเครื่อง ถือว่าจุดเด่นของรุ่นก่อนๆยังสานต่อมาครบและดีขึ้นกว่าเดิม
ขอบจอด้านล่างนั้นจะเห็นว่าแอบมีความหนาอยู่นิดหน่อย ครับอาจจะด้วยเรทราคาของรุ่นนี้ ส่วนการควบคุมนั้นใช้งานเต็มหน้าจอ หรือ ปุ่มได้ทั้งหมดเหมือนรุ่นอื่นๆ แต่ถ้าหากเทียบกับรุ่นพี่นั้นบอกเลยว่าอาจจะไม่ได้บางเท่าเป็นปกติ
ขอบเครื่องข้างขวานั้นเราจะเห็น เอกลักษณ์ประจำค่ายอยู่คือตัว Alert Silder ที่เป็นปุ่มเลื่อนสำหรับเปลี่ยนเสียงการแจ้งเดือน เงียบ สั่นหรือมีเสียงถือว่าเป็นค่ายเดียวที่ใส่เข้ามา และ ใช้งานสะดวกมากๆรวมถึง ปุ่ม Power ส่วนขอบเครื่องวัสดุพลาสติกทั้งหมดรวมถึงเล่นสีฟ้าเงาๆ สวยงามพอสมควรเลย มีความบางระดับนึงเลยแหละ และฝาหลังโค้งเข้ามาขอบเครื่องมากกว่ารุ่นแรกและทำให้ดูบางมากกวาเดิม รวมถึงการจับถือนั้นถนัดและกระชับมากกว่ารุ่นก่อนหน้า
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรมาก แต่จะเห็นว่ากล้องนั้นถือว่านูนน้อยมากๆและการแยกชิ้นเลนส์ทำให้มีระดับมากกว่าตัวเดิม และ ตัวไมค์ตัดเสียงข้างบนนั้นก็ใส่เข้ามาให้ด้วยยังไม่ได้ตัดออกไปไหน และโค้งรับมือได้ค่อนข้างดี
ขอบเครื่องข้างซ้ายจะเป็นแค่ปุ่ม เพิ่ม ลดเสียงเท่านั้น ไม่มีอะไรมากและขอบเครื่องสีฟ้าเงาสวย แต่วัสดุขอบเครื่องทั้งหมดนั้นจะเป็นพลาสติกสำหรับทาง OnePlus Nord รุ่นนี้ แต่เก็บงานได้เนียนสวยและพรีเมี่ยมกว่าตัวแรกชัดเจน
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นเป็นลำโพงหลัก พร้อมกับ USB-C และ รูไมค์ เราจะเห็นถาดซิมแบบ Dual SIM แต่ไม่รองรับการเพิ่มความจุ และจะแอบเห็นว่ามีซีลยางมาให้ด้วยถือว่าปกป้อง น้ำเข้าได้ระดับนึงแม้จะไม่ได้มี IP Rating ก็ตามครับรุ่นนี้ และ เป็นลำโพงคู่เช่นเดิมทำงานร่วมกันกับขอบหน้าจอด้านบน เสียงดังขึ้นและมิติเสียงดีกว่ารุ่นแรกเช่นกัน
สีฟ้า Blue Haze ยังคงเป็นสีที่โดดเด่นและสีประจำของซีรีย์นี้เลยทีเดียวแต่โทนสีรู้สึกว่าจะมีความอ่อนขึ้นและดูหรูหรามากกว่าเดิมไม่ได้ฟ้าสดมากนักซึ่งส่วนตัวชอบโทนสีนี้มากกว่าเดิมอีกทั้งการวางกล้อง การจัดวางเลนส์หลักต่างๆนั้นมีความพรีเมี่ยมกว่าเดิมเยอะมากๆ ให้ความรู้สึกเป็นเรือธงได้ทันทีพร้อมกับการเล่นเลเยอร์กล้อง และ วัสดุแบบด้านเสริมเข้ามาตัดกับฝาหลังพลาสติกเงาได้ทันที อีกทั้งงานประกอบคุณภาพต่างๆมีความแน่นและเนียนเช่นเดิมครับ
ในส่วนตัวกล้องหลังของ Nord 2 จะมาพร้อมกล้องตัวหลัก 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในเลนส์ ultra-wide ของ OnePlus 9 และ 9 Pro เลยทีเดียวแน่นอนว่าคุณภาพนั้นโหดขึ้นเท่าตัว อีกทั้งมีขนาดใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ Sony IMX586 ที่ใช้ใน Nord รุ่นแรกเยอะมาก รวมทั้งยังรองรับ OIS ระบบกันสั่นที่จัดเต็มช่วยในการถ่ายกลางคืน ส่วนกล้องที่เหลือประกอบด้วยกล้อง ultra-wide กว้าง 119.7 องศา 8MP (f/2.25), รองรับ EIS และกล้อง B&W 2MP (f/2.5), สำหรับถ่าย portrait และ มีการออกแบบใหม่ซึ่งดูสวยและพรีเมี่ยมมากกว่ารุ่นก่อนเยอะมากๆและเลนส์ใหญ่กว่าเดิมชัดเจน ครอบด้วยวัสดุสีด้านทำให้แตกต่างกับฝาหลังที่เป็นแบบเงา
SPEC
- หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว (1080×2400พิกเซล) Full HD+, ppi 408, อัตราส่วน 20:9, รีเฟรชเรท 90Hz, sRGB และ DCI-P3 colour gamut, video enhancement, AI-Super resolution
- ชิบประมวลผล MediaTek Dimensity 1200-AI 6nm ที่ใช้การ์ดจอ ARM G77 MC9
- RAM LPDDR4X 6GB/8GB + storage (UFS 3.1) 128GB,
- RAM LPDDR4X 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย OxygenOS 11.3
- ซิมคู่ (nano + nano)
- กล้องหลัง
- กล้องตัวหลัก 50MP (f/1.88) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766, ขนาดพิกเซล 1μm, รองรับ OIS
- กล้อง ultra-wide กว้าง 119.7 องศา 8MP (f/2.25), รองรับ EIS
- กล้องโมโน 2MP (f/2.5), ถ่ายวิดิโอ 4K ได้ที่ 30fps, slow motion 1080p ได้ที่ 120fps, 720p ได้ที่ 240 fps
- แฟลช LED คู่
- กล้องหน้า 32MP (f/2.45) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX615, รองรับ EIS
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- ขนาดตัวเครื่อง: 158.9×73.2×8.25มม.; น้ำหนัก: 189 กรัม
- ลำโพง Stereo
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax (2.4GHz + 5GHz) 2X2 MIMO, Bluetooth 5.2, GPS, GLONASS, Galileo, Beidou, NavIC, NFC
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว Warp Charge 65
SCREEN
หน้าจอที่มีความลื่นไหล 90Hz ยังไม่ได้หนีจากรุ่นเดิมเท่าไรนัก จริงๆก็ถือว่าเป็นหน้าจอที่โหดสุดๆอีกรุ่นทั้งเรื่องของความคมชัดสวยงามการสัมผัสที่ไว และ รวมถึงอัตราการตอบสนองที่ไวมากๆ หน้าจอนั้นการสัมผัสนั้นไวมากเลยทีเดียว ติดนิ้วมากๆ ในส่วนของหน้าจอก็สามารถปรับได้ว่าจะเอา 60 กับ 90Hz ครับ ช่วยประหยัดแบตได้นิดหน่อยส่วนเรื่องของสเปกนั้นมาพร้อมกับ หน้าจอในชื่อ Fluid AMOLED มาพร้อมกับขนาด 6.43 นิ้ว Full HD+, ppi 408, อัตราส่วน 20:9, รีเฟรชเรท 90Hz, sRGB และ DCI-P3 colour gamut, ถือว่าในสเปกอะไรทำได้ดี และเท่าที่ทดสอบใช้งานดูนั้น สู้แสงได้ดีระดับนึงพร้อมกับ มิติสีของภาพนั้นสวยใช้ได้เลยแหละ การออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูทำให้แปลกใหม่และดูทันสมัยและเป็นกล้องหน้าตัวเดียวแล้วทำให้เรื่องของ ความเต็มหน้าจอการใช้งานนั้นดีขึ้น รวมถึงมี A.I. เข้ามาช่วย ทั้ง Super resolution รวมถึง HDR Remapping และ Smart On-Display HDR และฟีเจอร์ Daylight readability enhancement ช่วยเวลากลางแจ้งทำให้การใช้งานต่างๆนั้นดีขึ้นกว่าเดิมครับ
ANTUTU : MediaTek Dimensity 1200-AI
คะแนนพุ่งขึ้นกว่ารุ่นแรกเท่าตัวครับแน่นอนว่าต้องยกความดีให้กับ MediaTek Dimensity 1200-AI: ซึ่ง OnePlus เป็นแบรนด์เดียวที่ได้ร่วมพัฒนาชิปเช็ทนี้ร่วมกับ MediaTek และเป็นแบรนด์เดียวที่ ชิป CPU : MediaTek Dimensity 1200-AIที่ให้ประสิทธิภาพของ CPU เร็วขึ้น 65% และประสิทธิภาพของ GPU 125% เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของ OnePlus Nord รุ่นแรกที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมในปี 2020 ซึ่ง OnePlus ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ MediaTek เพื่อปรับปรุง คุณสมบัติ A.I. ของระบบประมวลผล เน้นย้ำความสามารถของ A.I. ใหม่ล่าสุดที่ OnePlus และ MediaTek ได้เลือกชื่อ Dimensity 1200-AI ให้เป็นพิเศษ ซึ่งแตกต่างจาก Dimensity 1200 มาตรฐานทั่วไปจากท้องตลาด และทำให้คะแนนทำได้ 586396 คะแนนมากกว่าเดิม !
ANDROBENCH
หน่วยความจำต่างๆก็พัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนทำให้ในการใช้งานนั้นเทพขึ้นแน่นอนครับ เพราะว่ารุ่นก่อนจะอ่านเขียน 900MB/s และ เขียน 473 MB/s เท่านั้น แต่รุ่นใหม่พัฒนาไปใช้งาน UFS ตัวใหม่ขึ้นแรงขึ้น UFS3.1 ทำให้เรื่องของการอ่านเขียนนั้นพุ่งไปถึง 1607 MB/S และ เขียน 950MB/S เรียกได้ว่าพัฒนาขึ้นเยอะมากครับ และส่งผลในการใช้งานทั่ง ดูรูปภาพ เรียกข้อมูล เรียกการใช้งานแอพอะไรต่างๆนั้นแรงเร็วขึ้น
A.I. CAMERA + OIS
กล้องหลังพัฒนาขึ้นและมี OIS ! เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาแบบส่งผลต่อการใช้งานจริงๆ และยังไม่ได้ตัดออกไปไหนจากที่รุ่นก่อนก็ใส่เข้ามาให้ และรุ่นนี้ใช้งานเซนเซอร์ที่ดีขึ้นไปอีก OIS กันสั่นและเซ็นเซอร์ Sony IMX766 เลนส์หลัก 50MP ที่อยู่ใน Oneplus 9 ! ซึ่งสามารถจับแสงได้มากกว่า Sony IMX586 จาก OnePlus Nord ตัวแรกถึง 56% ด้วย Nightscape Ultra ซึ่งเป็นโหมดกลางคืนที่ได้รับการปรับปรุงของ OnePlus ผู้ใช้จะสามารถถ่ายภาพได้ดีขึ้นและสว่างขึ้นแม้ในสภาพแสงน้อย OnePlus Nord 2 5G ยังมีเลนส์ ultra-wide ความละเอียดชัดถึง 8MP มุมมองภาพกว้างถึง 119.7 องศา พร้อมกับกล้องหน้าเซลฟี่ 32MP เซ็นเซอร์ Sony IMX615 ซึ่งเป็นกล้องด้านหน้าที่มีความละเอียดสูงที่สุดของ OnePlus ฟีเจอร์ Group Shots 2.0 ในกล้องด้านหน้าสามารถตรวจจับใบหน้าได้สูงสุดถึงห้าใบหน้าในแต่ละครั้ง และช่วยปรับลักษณะต่าง ๆ ตั้งแต่โทนสีผิวไปจนถึงรายละเอียดของใบหน้าให้ได้ภาพที่สวยยิ่งขึ้น สำหรับภาพนิ่ง OnePlus Nord 2 5G มาพร้อมกับ A.I. Photo Enhancement ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จดจำสถานการณ์การถ่ายภาพที่แตกต่างกันถึง 22 สถานการณ์ และจะช่วยปรับการตั้งค่าโดยอัตโนมัติเพื่อผลลัพธ์ภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ A.I. Video Enhancement ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความสว่าง สี และคอนทราสต์ของการบันทึกวิดีโอได้แบบเรียลไทม์
ONEPLUS NORD 2 5G
OnePlus NORD เป็นซีรีย์ที่เปิดตัวออกมาได้หลากหลายรุ่นและแน่นอนว่ามีความโดดเด่นทั้งสีสัน การใช้งาน และรุ่นนี้ที่เน้นในเรื่องของการประมวลผล A.I. เข้ามามีส่วนในหลายๆอย่างและการใช้งาน MediaTek Dimensity 1200-AI ที่ทาง OnePlus จับมือกับ MediaTek ในการพัฒนาระบบ A.I อันนี้ถือว่าน่าสนใจ และเรื่องของกล้องหลังดึงเซนเซอร์เทพจากรุ่นพี่ มาเป็นกล้องหลักเลยทีเดียวพร้อมกับ OIS กันสั่นกล้องหลัก และยังคงใส่ลำโพงคู่มาให้เช่นเดิม ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นแอบเสียดายว่า 90Hz ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไร แต่ส่วนอื่นๆนั้นไม่ธรรมดา รวมถึงชาร์จไว Warp Charge 65ด้วยเช่นกันมากกว่าเดิมเท่าตัว จากรุ่นก่อนแค่ 30W ทำให้ภาพรวมมันลงตัวขึ้นเกือบทุกด้าน และ หัวใจหลักคือ CPU ที่พัฒนาพิเศษต้องมาดูกันว่าจะช่วยในการใช้งานจริงได้มากน้อยแค่ไหน และ ที่โดดเด่นในตัว Oxygen OS เองนั้น รองรับ การอัพเดต Software อย่างน้อย 2 รุ่น และแพทรักษาความปลอดภัย 3 ปีและในแง่ประกันนั้น ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาใช้รับบริการหลังการขาย ซ่อมแซม เปลี่ยนอะไหล่ หรือตรวจเช็คสภาพเครื่องผ่าน OnePlus Service Center ที่ MBK Center ชั้น 5 และศูนย์บริการ OPPO Service Center ทั่วประเทศ ได้อีกด้วยถือว่าไว้ใจได้สบายๆ ทั้ง Hardware – Software เลยทีเดียว แล้วมารอลุ้นราคากันในงานเปิดตัวเร็วๆนี้ครับ
สำหรับพรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Preview by Nineztr