SAMSUNG ได้พัฒนาและเปิดตัวมือถือในตระกูลพับได้มาอย่างต่อเนื่องใน FLIP / FOLD ที่ตอนนี้มาถึงรุ่นที่ 3 แต่เป็นรุ่นที่ 2 ของ FLIP กันแล้วอย่างไวมากๆ หลังจากที่ได้นำเสนอหน้าจอแบบพับได้ตัวแรกๆของโลกไปไม่กี่ปี ตอนนี้ได้พัฒนาจนลงตัวขึ้นเยอะมากเลยทีเดียวทั้งฟีเจอร์การใช้งาน จนมันลงตัวมากๆตัวนึงในตลาดมือถือตอนนี้ ทั้งในส่วนของการกันน้ำก็ทำได้เป็นตัวแรกของโลกด้วยเช่นกัน และการออกแบบที่สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าเปิดตัวมาแล้ว สาวๆชอบกันแน่นอนทั้งสีสัน การออกแบบที่คล้ายกับตลับแป้ง หรูหรา น่ารักไปในตัว แต่ในการใช้งานจริงนั้นจะเป็นยังไง พับได้ใช้งานจริงได้ไหม หรือ กล้อง สเปก ความลื่นไหลทำได้ดีแค่ไหน มาอ่านรีวิวกันได้เลยครับ สำหรับมือถือพับได้ตัวล่าสุด Samsung Galaxy Z FLIP 3 5G !
Z Flip3 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED ขนาด 6.7นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 22:9 ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับอัตโนมัติ 120Hz โดยตัวหน้าจอใช้กระจกแบบบาง Ultra-Thin ที่สามารถพับงอได้ และใช้กระจก Gorilla Glass Victus หน้าจอด้านนอกเป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้วสำหรับแสดงการแจ้งเตือน ข้อความ และใช้ถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าโดยไม่ต้องกางตัวสมาร์ตโฟน Z Flip3 ซึ่งตัวหน้าจอมีขนาดใหญ่กว่าในสมาร์ตโฟนก่อนหน้าที่มีขนาดเพียง 1.1 นิ้ว นอกจากนี้หน้าจอดังกล่าวมาพร้อมการใช้งานแบบ hand free ที่มาคู่ดับโหมด Flex และฟีเจอร์ที่ทำให้การแสดงผลมีความแตกต่างจากเดิมเมื่อตัว Z Flip3 มีการกางออกแบบยังไม่สุด เช่น การเล่นวิดิโอที่ครึ่งบนของหน้าจอ และมีปุ่มควบคุมความสว่างและปุ่มปรับลำโพงที่ครึ่งล่าง Z Flip3 มาพร้อมกรอบตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมที่ทางบริษัทเคลมว่าแข็งแรงที่สุด รวมทั้งตัวเครื่องยังกันน้ำในมาตรฐาน IPX8 ภายในตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Snapdragon 888 ที่มาพร้อม RAM 8GB แลใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบด้วย One UI รวมทั้งมาพร้อมลำโพง stereo ที่อัปเกรดขึ้น และรองรับ Dolby Atmos กล้องหลังของ Z Flip3 มีจำนวน 2 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 12MP + กล้อง Ultra-wide 12MP ที่เลนส์ของตัวกล้องทำจากกระจก Gorilla Glass DX ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดที่ 10MP ถือว่าภาพรวมนั้นสเปกของเจ้า Z Flip 3 ทำได้น่าสนใจขึ้นเยอะเลย และยังคงออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย
PRICE
Galaxy Z Flip 3 5G วางจำหน่ายในราคา 34,900 บาท (128GB) และ 36,900 บาท (256GB) มาในตัวเลือกทั้งหมด 7 สีจุใจกันไปเลย ได้แก่ Cream , Phantom Black, Green และ Lavender และที่พิเศษเฉพาะ Samsung.com นัันก็คือสี Gray , White , Pink
DESIGN
การออกแบบในครั้งนี้บอกเลยว่ามีความสวยงาม รู้สึกแข็งแรงและทนทานมากๆ ดีไซน์ด้านหน้าและด้านหลังมีความโดดเด่นด้วยการตัดกันของสีที่เพิ่มมาจากรุ่นก่อนคือ จอด้านนอกที่มีความใหญ่มากยิ่งขึ้นใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจังด้วยขนาดจอที่6.7นิ้ว แต่ยังสามารถพกพาได้อย่างสะดวก และด้วยการพับของตัวเครื่อง บอกเลยว่าครั้งนี้ทาง Samsung ทำการบ้านมาได้ดีมากๆ ฉีกกฏของมือถือจอพับโดนการชูจุดเด่นว่ามันสามารถกันน้ำได้อีกด้วย
มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED ขนาด 6.7นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 22:9 ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับอัตโนมัติ 120Hz โดยตัวหน้าจอใช้กระจกแบบบาง Ultra-Thin ที่สามารถพับงอได้ และใช้กระจก Gorilla Glass Victus
ในส่วนทางของขอบด้านบนจะมีขนาดเท่ากันทั้งหมด และมุมขวาเราจะเห็นส่วนที่เป็นกล้องใต้หน้าจอที่เม็ดพิเซลจะใหญ่กว่ามาตรฐานนิดหน่อยครับ และมาพร้อมกับ กล้องหน้าใต้หน้าจอด้านในความละเอียดที่ 4MP (f/1.8)
ในส่วนของขอบด้านล่างเครื่องก็ใช้งานความบางสวยงาม และสามารถควบคุมได้แบบเดียวกับหน้าจอหลักเหมือนกันทั้งหมดครับ มาพร้อมกับฟิล์มกันรอยที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อย รองรับการใช้งานค่า Refresh Rate 120Hz แบบเดียวกับหน้าจอด้านในอีกด้วย
ส่วนฝั่งของขอบด้านขวานั้นเราจะเห็นเป็นที่อยู่ของปุ่มทั้งหมด ซึ่งทางด้านขวาส่วนบนที่เป็นปุ่มยาวนั้นจะเป็นตำแหน่งของ ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ครับ และในส่วนด้านล่างในภาพนั้นจะเป็นปุ่มสำหรับสแกนลายนิ้วมือ พร้อมกับปุ่ม Power ในตัวด้วย
และในส่วนของทางขอบด้านซ้ายอีกฝั่งนั้นจะเป็นตำแหน่งที่อยู่ของถาดซิมนั้นเอง ซึ่งรองรับ Nano SIM 1 ช่อง ครับ
ทางด้านขอบบน เราจะเห็นช่องรูไมโครโฟน 1 ช่อง ส่วนทางด้านล่างจะเป็นช่องเสียบ USB-C และ ลำโพงตัวล่างให้มาครบ ๆ รวมถึง รูไมโครโฟน 2 ช่อง และรุ่นนี้ยังคงรองรับการชาร์จไร้สายด้วยนะ ถือว่าสเปกสมกับเป็นเรือธงและสมกับราคาของมันจริงๆ ขอบเครื่องบางกว่าเดิมทำให้พับอะไรได้แข็งแรงกว่ารุ่นแรกมากๆ
เมื่อมามองที่ส่วนของข้อพับยังคงมีการใส่โลโก้ Samsung เข้ามาที่ขอบเครื่องพร้อมกับการใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบเงา ทำให้ดูแตกต่างกับส่วนอื่นๆของเครื่องด้วยเช่นกัน ส่วนความหนาของข้อพับจะอยู่ที่ 16 มม. ซึ่งถือว่าหนามากๆ เหมือนกับพกพามือถือ 2 เครื่องพร้อมกันเลย และทาง Samsung ได้เคลมว่า Galaxy Z Flip3 สามารถพับได้สูงสุดถึงสองแสนครั้ง ถือว่าใช้งานกันได้สบายๆเลย
แต่พอกางออกมาเต็มที่พร้อมใช้งานแล้ว ตัวเครื่องก็ถือว่าบางมาก ไม่หนาเหมือนทางข้อพับ
พลิกมาที่ด้านหลังเครื่องยังคงเป็นสไตล์เรียบ ๆ ตามสไตล์ค่ายนี้ แต่ก็มีให้เลือกหลากหลายสีสันได้ตามความชอบ มาพร้อมกับกล้องหลัง 2 ตัวแนวตั้ง ประกอบด้วย เลนส์ Wide และเลนส์ Ultra-Wide มีไฟแฟลชอยู่ใต้กล้อง สีดำด้านบนคือสีดำด้าน ซึ่งมีไว้ใช้งาน Widget ดูการแจ้งเตือน อีกทั้งยังเอาไว้ใช้ถ่ายเซลฟี่ของการใช้กล้องหลังอีกด้วย โดยหน้าจอนี้เป็นจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ที่มีขนาด 1.9 นิ้ว แต่ในด้านหลังจะไม่มีโลโก้ Samsung ให้เห็นเลยครับ แปลกตาเหมือนกัน พร้อมกับไฟแฟลชด้านล่าง ซึ่งด้านหลังเรียบๆดูสวยงามมากๆ การออกแบบกล้องหลังนูนเล็กน้อย เมื่อพับและใช้งานตัวเครื่องยาวๆผอมๆจับถนัดและใช้งานได้ง่ายมาก
ทางด้านกล้องหลังเองนั้นมาให้ 3 ตัวเลยทีเดียวพร้อมกับระยะที่ใช้งานได้สบายๆ ประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 12MP (f/1.8), รองรับ PDAF, OIS พร้อมกับ กล้อง Telephoto 12MP (f/2.4), รองรับ PDAF, OIS, ซูมแบบ optical ได้ 2x, ซูมแบบดิจิทัลได้ 10x ส่วนทางด้านกล้อง Ultra Wide กว้าง 120 องศา 12MP (f/2.2), ที่ใช้กระจก Gorilla Glass with DX + แฟลช LED ถือว่าเสปกให้มาดีครบพร้อมใช้งานแม้จะเป็นรุ่นพับก็ไม่ธรรมดาเลย
ในเรื่องการถ่ายวิดีโอของเจ้า Galaxy Z Flip3 จะรองรับการถ่ายวิดีโอแค่ 4K นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายวิดีโอพร้อมกันสั่น Super Steady
SPEC
- หน้าจอ Dynamic AMOLED Infinity Flex ขนาด 6.7 นิ้ว FULL HD+ (2640×1080พิกเซล), อัตราส่วน 22:9, รีเฟรชเรทแบบ adaptive 120Hz, 425ppi, ใช้กระจก Gorilla Glass Victus
- หน้าจอด้านนอก Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว (260×512 พิกเซล), 302ppi
- ชิปประมวลผล Snapdragon 888 5nm
- RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB / 256GB
- ซิมคู่ (eSIM + Nano SIM)
- Android 11 ที่ครอบด้วย One UI 3.1
- กล้องหลัง
- กล้องตัวหลัก (f/1.8) 12MP Super Speed พิกเซลคู่, ขนาดพิกเซล 1.4μm
- กล้อง Ultra-wide (f/2.2) 12MP, ขนาดพิกเซล 1.22μm, รองรับ HDR10+, OIS, ซูมแบบ digital ได้ถึง 8x; ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 60fps
- แฟลช LED
- กล้องหน้า 10MP (f/2.4)
- ตัวเครื่องกันน้ำมาตรฐาน IPX8
- ช่องเสียบหัวฟัง USB Type-C, ลำโพง Stereo, รองรับ Dolby Atmos
- ขนาดตัวเครื่อง (ขณะพับ) : 72.2×86.4×15.9~17.1มม., (ขณะกาง): 166×72.2×6.9มม.; น้ำหนัก: 183 กรัม
- รองรับการเชื่อมต่อ 5G SA/NSA sub6 / mmWave, 4G, Wi-Fi 802.11 ax (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.1 LE , ANT+, , NFC, GPS
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 3,300mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 15w, รองรับชาร์จไร้สาย Qi 10W, รองรับ reverse charging ไร้สาย 4.5W
PERFORMANCE / BATTERY
ประสิทธิภาพตัวนี้บอกเลยว่าจัดเต็มด้วย ชิปประมวลผล Snapdragon 888 5nm แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนต้องชอบแน่ๆกับการที่ใช้ Snapdragon และมาพร้อมกับ RAM LPDDR5 8 GB รองรับการทำงานหลากหลายอย่างแน่นอน รวมถึงรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ 2-3 แอปพร้อมกันได้ทำให้การใส่สเปกแบบจัดเต็มแบบนี้มารองรับได้สบาย พร้อมกับ storage (UFS 3.1) 128 GB / 256 GB และใช้งาน Android 11 ที่ครอบด้วย One UI 3.1 ตัวล่าสุดของค่าย
ทำให้เรื่องของคะแนน Antutu นั้นพุ่งไปสูงถึง 698229 คะแนนสูงเลยทีเดียว รวมถึงในการดูหนัง Netflix นั้นรองรับความละเอียดสูงสุดได้สบายๆ ส่วนในเรื่องของการใช้งานแบตเตอรี่นั้น อาจจะขัดใจไปหน่อย เนื่องจากขนาดของแบต และความจุมีปริมาณที่น้อย บวกกับการใช้งานถ้าไม่ได้เล่นอะไรมากก็อยู่ถึงจบวัน ได้ไม่ยากแต่ถ้าใช้งานหนัก เปิดดูหนังเล่นเกมเยอะ อาจจะต้องพกแบตเตอรี่สำรองติดตัวไว้
SYSTEM UI
หน้าตาระบบนั้นแม้จะมาในอัตราส่วนแบบ 22:9 แต่รุ่นนี้ก็ยังสามารถใช้งานแบบที่เราคุ้นเคยกันได้ดีทั้งหมดในบรรดามือถือของทาง Samsung ที่คุ้นเคยกันในระบบ One UI นั้นเอง และจะมีการออกแบบหลายๆฟีเจอร์ที่ออกมารองรับกับหน้าจอพับได้มากขึ้น หรือว่าจะเป็นการใส่ใช้งานฟีเจอร์ปุ่มควบคุม การแบ่งหน้าจอหรือว่า การถ่ายรูป ใช้งานต่างๆก็หลากหลายขึ้นทำให้สะดวกอย่างมากกับการใช้งาน
การแบ่งหน้าจอบอกเลยว่าทำงานได้ดีสะดวกมาก ๆ สามารถแบ่งได้ 2 แอปและแอปเพิ่มเติมที่ลอยขึ้นมาได้อีกสามารถใช้งานการพับหน้าจอได้อิสระมากขึ้นเยอะครับ ถือว่าพัฒนามาชัดเจนมากขึ้น ประชุมจอล่าง จอบนเปิดแอปอื่นๆก็รองรับได้ดี และเป็นจุดเด่นของตระกูลจอพับ และรุ่นล่าสุดนี้เลยทีเดียวสำหรับ Z FLIP 3 ตัวนี้
ด้วยความที่มันสามารถพับจอได้นั้น การใช้งานกล้องเราไม่จำเป็นจะต้องพกขาตั้งอีกต่อไป เพราะUIของกล้องพัฒนามาให้พร้อมใช้งาน แบบพับครึ่งเลย แถมจอหลังที่เพิ่มขนาดมาจากรุ่นก่อน มีขนาดที่ใหญ่มาก ถึง1.9 นิ้ว เลยทีเดียว สามารถเปิดกล้องได้แม้จะพับอยู่ การเซลฟี่การจับถือสะดวกมากจริงๆ นี้ก็คือจุดเด่นของเจ้า Z FLIP 3 5G
SCREEN
ทางด้านหน้าจอตัวนี้จะมีหน้าจอมาให้ทั้งหมด 2 หน้าจอครับ ซึ่งมีสเปกการใช้งานที่ไม่ต่างกันมากเลย เรียกได้ว่าคุณภาพสูงอย่างมาก ซึ่งทาง Samsung เองก็พัฒนาหน้าจอมาอย่างต่อเนื่องทั้งเทคโนโลยีหน้าจอ หรือวัสดุหน้าจอที่มีความยืดหยุ่นต่างๆ ทำให้รองรับการพับหน้าจอได้ง่ายมากๆ ทางด้านหน้าข้างในเป็นหน้าจอหลักนั้นเองใช้งานหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6นิ้ว (2208×1768พิกเซล) HDR10+ QXGA+, อัตราส่วน 22.5:18, 374ppi, รีเฟรชเรทแบบ adaptive 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1200nits เคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass Victus และมีดีไซน์แบบจอเจาะรู หรือ Infinity-O จอด้านนอก 1.9นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 512×260 พิกเซล ซึ่งถือว่ามีขนาดหน้าจอที่ใหญ่และสะใจมากๆในอัตราส่วนแบบสี่เหลี่ยม และการใช้งานกล้องหน้าแบบใต้หน้าจอนั้นทำให้มันสี่เหลี่ยมเต็มตา ไมมีรูกล้องหน้ามาเกะกะหน้าจอ
FLIP
การพับจริงๆนั้นก็ยังคงใช้งานวิธีพับจอเข้าด้านในแตกต่างกับบางค่ายที่จะเป็นจอด้านนอกและกางออกมานั้นเอง ซึ่งการออกแบบแบบนี้ก็มีส่วนทำให้หน้าจอปกป้องได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องมีจอเสริมด้านนอกอีกจอนั้นเองก็แล้วแต่การใช้งานแล้วแต่ชอบกันอีกทีครับ แต่บอกเลยว่าความแข็งแรงในรอบนี้ทำออกมาได้ดีมาก ส่วนหน้าจอเองก็รองรับได้ดีทั้งหน้าจอใน และจอนอก ส่วนเครื่องการใช้งานในระยะยาว ก็ต้องดูกันต่อไป เพราะว่ารุ่นก่อนๆก็มีเจอปัญหาอยู่บ้างในส่วนข้อพับหน้าจอนั้นเองครับ แต่ในรอบนี้เรื่องที่พัฒนาสุดของ จอพับก็คือเรื่องของงานประกอบ ที่ทำให้สามารถกันน้ำได้นั้นเอง รวมถึงการพกพา ขนาดที่กำลังดี สีที่มีให้เลือกก็มีเยอะ
SOUND SPEAKER
เรื่องของระบบไว้ใจได้เลยมา พร้อมกับลำโพงคู่บนและล่าง สามารถใช้งานได้เพราะว่าเมื่อพับวางแนวตั้งก็จะยิงออกเป็น ซ้าย และ ขวา นั้นเองถือว่ารองรับการตั้งดูหนังหรือว่าวางนอนก็ทำได้ดี ส่วนเรื่องเสียง Samsung ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย เสียงดัง มิติดี บอกเลยว่าต้องชอบกันมากแน่ๆ
มาดูการทดสอบเสียงของ Z FOLD 3 กันนะครับ :
GPS
การจับสัญญาณทั้ง GPS หรือว่าตัวเครือข่ายนั้นไม่มีปัญหาเลยทั้งการรองรับ 5G หรือว่าจะเป็นการจับดาวเทียมต่างๆนั้น นำทางได้ดีมากๆ จับได้เยอะและแม่นยำ รวมถึงความไวก็ตามสามารถทำงานได้ดี และการใช้งาน Snapdragon 888 5G ซึ่งทดสอบจับได้ 24ดวง จาก 32ดวง ในสภาพอากาศทั่วไป กลางแจ้ง แต่ถ้าที่ร่มใต้ทางด่วนจะได้ 40 ดวงประมาณ
CAMERA
ในส่วนของกล้องหลังในรุ่นนี้ให้มาทั้งหมด 3 ตัว 3 ระยะการใช้งาน เรียกได้ว่าสมกับเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงจริงๆ และยังเป็นระยะที่ใช้งานได้จริงทั้งหมดอีกด้วย รวมถึงในแง่ของคุณภาพนั้น ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่เท่าที่ได้ลองสัมผัสใช้งานจริงซึ่งทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ ทั้ง Software การจัดการะบบต่างๆหรือแม้แต่คุณภาพ Hardware ด้วยเช่นกัน ต้องบอกเลยว่าสามารถเอาไปถ่ายรูปจริงจังได้ทันที รวมถึงการเก็บขอบละลายหลังต่างๆก็ไม่มีปัญหา และทางด้านวิดีโอก็รองรับได้หลากหลายเช่นกันครับ มาพร้อมกับสเปก กล้องตัวหลัก 12MP Dual Pixel (f/1.8), รองรับ PDAF, OIS พร้อมกับ กล้อง Telephoto 12MP (f/2.4), รองรับ PDAF, OIS, ซูมแบบ optical ได้ 2x, ซูมแบบดิจิทัลได้ 10x และ ทางด้าน กล้อง Ultra Wide กว้าง 120 องศา 12MP (f/2.2), ที่ใช้กระจก Gorilla Glass with DX + แฟลช LED ซึ่งเราจะเห็นเลยว่ามี OIS ให้มาทั้งกล้องหลัก และ เทเล ทำให้สามารถถ่ายรูปได้นิ่งมากขึ้น รวมถึงเวลากลางคืนเช่นกัน
SAMSUNG GALAXY Z FLIP 3
” สเปกเรือธง ดีไซน์เด่นแตกต่าง พัฒนาขึ้นหลายด้าน ใช้งานได้ลงตัวขึ้นชัดเจน “
ถ้าจะหามือถือจอพับได้ และพอพับก็พกสะดวกมายิ่งขึ้นไปอีก FLIP เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ มันไม่ได้เป็นเพียงมือถือ แต่ด้วยรูปลักษณ์ของมัน มันเป็นเครื่องประดับติดตัวได้เลย ด้วยดีไซน์ที่มีความสวยงาม สีที่ให้เลือก และนวัตกรรมที่ทาง Samsung ผลิตออกมา ทั้งในเรื่องของการกันน้ำ ที่ยากมากที่จะทำให้จอพับได้นั้นกันน้ำ ถือว่าทำการบ้านมาได้ดีมากในครั้งนีั เรื่องดีไซน์จบไป ในเรื่องของการใช้งานทั่วไป และกล้องมีความลื่นไหลพอกับการใช้งานสุดๆ กล้อง Samsung นั้นหวังผลได้เสมอ ภาพการประมวลผลออกมาดีตามแบบของ Samsung เชื่อว่าในรุ่นต่อ ๆ ไปจะมีนวัตกรรมที่ล้ำ ๆ ออกมาให้ได้เห็นอย่างแน่นอน สำหรับมือถือจอพับได้ อย่าง Samsung Galaxy Z FLIP 3 และ Z FOLD 3 5G
ข้อดี
- ดีไซน์สวย ทันสมัย และ พกพาได้ง่าย
ข้อสังเกต
- แบตไม่พอในการใช้งานจริงทั้งวัน
- ชาร์จไฟเข้าค่อนข้างช้า
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr