ในงานอีเวนท์ “Unleashed” ที่ Apple จัดขึ้นเมื่อคืนนี้ได้มีการเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ที่ใช้งานชิบ M1 Pro และ M1 Max ที่มาพร้อม CPU สูงสุด 10-core, GPU สูงสุด 32-core และความจำ unified memory (คล้าย RAM) สูงสุด 32GB รวมทั้งมาพร้อมฟีเจอร์ ProRes ที่อัพเกรดให้ประมวลผลวิดิโอได้ดีขึ้น

Apple introduces new MacBook Pro in 16-inch and 14-inch sizes

โดย MacBook Pro รุ่นใหม่นี้มีหน้าจอ Liquid Retina XDR mini-LED แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro ให้เลือกสองขนาดคือ 14.2 นิ้วและ 16.2 นิ้ว ที่มีความสว่างแบบเต็มจอเฉลี่ย 1,000nits รวมทั้งมาพร้อม P3 wide colour gamut และรองรับการแสดงสี 1 พันล้านสี

นอกจากนั้นตัวหน้าจอมาพร้อมฟีเจอร์ ProMotion ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับได้อัตโนมัติสูงสุด 120Hz เพื่อประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ตัวหน้าจอยังมีรอยบากบริเวณขอบบนของหน้าจอที่เป็นที่อยู่ของกล้อง FaceTime HD 1080p

บอดี้ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมที่มีการปรับแต่งภายในให้มีพื้นที่เอื้อต่อประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่มากขึ้น รวมทั้งมีระบบระบายความร้อนที่อากาศถ่ายเทได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า 50%

Apple introduces new MacBook Pro in 16-inch and 14-inch sizes

MacBook Pro รุ่นใหม่มาพร้อม Magic Keyboard สีดำแบบ double-anodised ที่มีแสง backlit อยู่ในปุ่มคีย์บอร์ด รวมทั้งมีปุ่ม escape ที่ใหญ่ขึ้น และไม่มี Torch Bar แล้ว นอกจากนั้นตัวแล็บท็อปยังมาพร้อมแทร็กแพ็ด Force Touch และช่องใส่ SDXC card, พอร์ต HDMI และพอร์ต MagSafe ที่สามารถชาร์จแบต 50% ได้ในเวลา 30 นาที

Apple introduces new MacBook Pro in 16-inch and 14-inch sizes

Apple MacBook Pro (2021) รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว

  • ชิบ Apple M1 MaxCPU 10-core มาพร้อม core เน้นประสิทธิภาพจำนวน 8 ตัวและ core เน้นประหยัดพลังงาน 2 ตัว, GPU 32-core,  Neural Engine 16-core, แบนด์วิทความจำ 400GB/s
  • ชิบ Apple M1 Proรุ่น CPU 8-core มาพร้อม core เน้นประสิทธิภาพจำนวน 6 ตัวและ core เน้นประหยัดพลังงาน 2 ตัว, GPU 14-core / รุ่น CPU 10-core มาพร้อม core เน้นประสิทธิภาพจำนวน 8 ตัวและ core เน้นประหยัดพลังงาน 2 ตัว, GPU 16-core, ทั้งสองรุ่นมี Neural Engine 16-core, แบนด์วิทความจำ 200GB/s
  • หน้าจอ Liquid Retina XDR ขนาด 14.2 นิ้ว (3,024×1,964พิกเซล) / 16.2 (3,456×2,234พิกเซล), มาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion ที่ปรับรีเฟรชเรทอัตโนมัติได้สูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1,600nits, อัตราส่วน 10,00,000:1
  • Unified memory (คล้าย RAM) สูงสุด 32GB (สูงสุด 64GB ในรุ่น M1 Max)
  • ความจำภายในสูงสุด (SSD) 1TB  (ปรับแต่งได้เป็น: 2TB, 4TB หรือ 8TB)
  • ระบบปฏิบัติการ macOS Monterey
  • คีย์บอร์ด Backlit Magic Keyboard ที่มี Touch ID, เซ็นเซอร์ Ambient light, แทร็กแพ็ดแบบ Force Touch เพื่อความแม่นยำและตรวจจับแรงกด
  • Wi-Fi 6 802.11ax, Bluetooth 5.0
  • กล้องเว็บแคม FaceTime HD 1080p พร้อมหน่วยประมวลผลรูปภาพและวิดิโอ
  • ไมโครโฟนเกรดสตูดิโอ 3 ตัวที่มีระบบลดเสียงรบกวนและตรวจจับทิศทางของเสียง, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm ที่รองรับหูฟังที่มีความต้านทานในวงจรสูง, ลำโพง 6 ตัวมาพร้อม force-cancelling woofers, ระบบเสียง stereo sound แบบกว้าง
  • รองรับระบบเสียง spatial audio เมื่อเล่นเพลงหรือหนังผ่านระบบ Dolby Atmos, Spatial audio ที่ตรวจจับตำแหน่งศีรษะเมื่อใช้งานAirPods (รุ่น 3rd), AirPods Pro และ AirPods Max
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ
    • Thunderbolt x 3
    • 3 USB Type-C รองรับการชาร์จ
    • DisplayPort
    • Thunderbolt 4 (สูงสุด 40 Gbps), USB 4 (สูงสุด 40 Gbps),
    • SDXC card
    • HDMI 2.0
    • MagSafe 3
  • ขนาดตัวเครื่องรุ่น 14 นิ้ว: 1.55 x 31.26 x 22.12 ซม.; น้ำหนัก: 1.6กก.
  • ขนาดตัวเครื่องรุ่น 16 นิ้ว : 1.68 x 35.57 x 24.81 ซม.; น้ำหนัก: 2.1กก. (รุ่น M1 Pro) / 2.2กก. (รุ่น M1 Max)
  • รุ่น 14 นิ้ว – แบตเตอรี่ lithium-polymer 70-watt-hour รองรับการชาร์จเร็ว 67W ผ่านหัวชาร์จ USB-C (ในรุ่น M1 Pro CPU 8-core) / รองรับการชาร์จเร็ว 96W ผ่านหัวชาร์จ USB-C (ในรุ่น M1 Pro CPU 10-core หรือ M1 Max) โดยใช้สาย USB-C to MagSafe 3
  • รุ่น 16 นิ้ว – แบตเตอรี่ lithium-polymer 100-watt-hour รองรับการชาร์จเร็ว 140W ผ่านหัวชาร์จ USB-C, โดยใช้สาย USB-C to MagSafe 3

โดย MacBook Pro มีราคาอยู่ที่

  • 73,900 บาท ในรุ่น 14 นิ้ว – ชิบ M1 Pro CPU 8-Core, 512GB SSD
  • 89,900 บาท ในรุ่น 14 นิ้ว – ชิบ M1 Pro CPU 10-Core, 1TB SSD
  • 89,900 บาท ในรุ่น 16 นิ้ว – ชิบ M1 Pro CPU 10-Core, 512GB SSD
  • 96,900 บาท ในรุ่น 16 นิ้ว – ชิบ M1 Pro CPU 10-Core, 1TB SSD
  • 124,900 บาท ในรุ่น 16 นิ้ว – ชิบ M1 Max CPU 10-Core, 1TB SSD

ซึ่งเจ้า MacBook Pro จะถูกวางขายที่ประเทศอินเดียในวันที่ 26 ตุลาคมส่วนวันวางขายในประเทศไทยต้องรอติดตามกันต่อไป

SOURCE