Marvel แน่นอนว่าเป็นค่ายหนังที่ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก และ มีหนังให้ติดตามเยอะมากเช่นกัน แต่ถ้าใครที่ติดตามกันจะพอรู้โทนหนังของมันอยู่บ้าง อาจจะค่อนข้างไปในแนวทางเดียวกันในแง่ของหนังตลาด เอาใจคนดูเน้นความสายเฮฮา ต่างๆ ซึ่งเมื่อมองดูว่าในยุคหลังๆนั้นอาจจะมีหลายๆคนเบื่อหรือว่าค่อนข้างจำเจไปซะส่วนใหญ่ และหนังเรื่องนี้ marvel eternals ต้องบอกว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่ดูแล้วรู้สึกเลยว่า มันแตกต่าง และไม่เหมือนกับ marvel  ก่อนหน้านี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทนของหนังหรือว่าเป็นการเล่าเรื่อง งานภาพทุกอย่างยกระดับไปทั้งหมด เพราะว่าได้ ผกก ระดับเทพมาที่พึ่งได้รางวัลกันสดๆร้อนๆจาก nomadland นั้นเอง แต่การมาทำหนังแนวตลาด แอคชั่น ฮีโร่เหมือนจะไม่ลงตัวเท่าไร เพราะกลับเป็นหนัง marvel ที่ได้คะแนนต่ำที่สุดเลยนั้นเองถ้านับใน mcu ด้วยกัน ซึ่งต้องบอกว่าแอบแปลกใจ แต่เมื่อได้ดูแล้วนั้นต้องบอกว่าเรื่องนี้ก็ทำได้น่าสนใจ แต่ก็มีข้อที่พอเข้าใจได้เลยว่าทำไมถึงได้คะแนนน้อย หรือ ว่าเสียงแตกกันแบบนี้ ทั้งที่ได้ ผกก แนวนี้เพราะว่ามันมีหลายๆส่วนที่ยังไม่ลงตัว และ แอบยืดยาดไปพอสมควร 

สำหรับเนื้อเรื่องต้องบอกเลยว่า ตัวหนังเองมันมีหลากหลายเรื่องราวที่จะพยายามเล่าและมีการเล่าสลับระหว่าง ปัจจุบัน หรือ อดีตเพื่อให้เข้าถึงแต่ละตัวละครกันบ้าง แต่ด้วยความที่ตัวละครเยอะมาก และการเล่าเรื่องอาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ทำให้ในส่วนนี้เองนั้นอาจจะยังไม่ได้ลงตัวเท่าไร เล่าเรื่องยาวก็จริง แต่เหมือนจะผิวเผินไปซักหน่อย และใช้เวลาเยอะไปมาก จนหลายๆช่วงแอบเบื่อหรือง่วงกันได้แน่นอนครับ เพราะว่าด้วยตัวละครแต่ละตัวพึ่งเข้ามาในหนังด้วยก็อาจจะทำให้ต้องใช้เวลาส่วนนี้เยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่สามารถเล่าให้ลึกหรืออินได้เท่าไร เลยกลายเป็นน่าเบื่อและไม่ได้ส่งผลอะไรเท่าที่ควรด้วยเช่นกันครับ แต่ถ้าถามว่าการเล่าเรื่องเอื่อยก็จริง แต่ก็ทำให้คนเรารู้จักและจำตัวละครได้ดีกว่าที่คิดครับ ขอชื่นชมในเรื่องนี้ หลายๆคนจำชื่อและรู้จักตัวละครได้ง่ายมากเช่นกัน แต่ การลงลึกหรือว่าเล่ามันอาจจะไม่น่าสนใจเท่าไรในหลายๆจังหวะนั้นเอง ส่วนตัวหนังก็มีหลายๆส่วนที่น่าจะลึกหรือว่ามีเหตุผลมากกว่านี้ครับ ซึ่งก็เสียดายเช่นกันทำให้ภาพรวม เล่าเรื่องยาว ยืดไปหน่อย แต่กลับไม่ได้มีอะไรแบบที่คิดนั้นเอง แต่ชอบการเล่นประเด็น ความจงรักภักดีแต่ละส่วนอะไรพวกนี้กับความรู้สึกหลายๆอย่างเป็นจุดที่เล่าได้น่าสนใจเป็นจุดที่ทำได้ดีในเรื่องนี้

แน่นอนว่าตัวละครเองนั้นเราจะเห็นว่าเรื่องนี้ได้นักแสดงระดับโหดๆมาเยอะมาก และในแง่ของการเฉลี่ยบทก็ถือว่าทำได้ดีครับ แต่บางตัวละครอาจจะไม่ได้แสดงฝีมืออะไรมากแบบที่คิด แต่นักแสดงหลักเองก็สื่อความรู้สึก และรู้สึกเลยว่าในหนังมีความสัมพันธ์อะไรหลายๆอย่างด้วยกันได้ดี รวมถึงการมีนักแสดงที่ไม่สามารถได้ยินเสียง ซึ่งทั้งนอกจอ และ ในจอก็สามารถทำได้น่าสนใจและเป็นเรื่องแรกของทางค่ายด้วยเช่นกัน อันนี้ขอนับถือในการแสดงและการจัดการอย่างมาก ทำให้เรื่องนักแสดงนั้น การสื่อสารออกมาได้ดีมากเช่นกัน  และแต่ละคนมีเอกลักษณ์หรือว่าความสามารถที่สามารถแสดงออกมาได้น่าสนใจและเด่น ส่วนตัวชอบ มัคคารีมากๆเช่นกัน และ ตัวหนังแสดงเรื่องความเร็วได้ดีและน่าสนใจกว่าหลายๆเรื่องเยอะมากในแง่ความเร็วในตัวนักแสดง 

งานภาพเรื่องนี้ถ้าจะบอกว่าสวยและลงตัวที่สุดเท่าที่เคยดูหนัง Marvel ก็ไม่เวอร์เกินไปเพราะเรื่องนี้ในเรื่องมุมกล้อง แสงสี และการจัดวางโทนของหนังนั้นทำได้โหดและสวยกว่าเรื่องอื่นๆเยอะมากเช่นกันแน่นอนว่าไม่แปลกใจว่าทำไมเรื่องนี้ถึงแตกต่าง รวมถึงในเรื่องของ CGI เรื่องนี้ทำได้เนียนและมีความอลังการสมจริง ฉากในแต่ละสถานที่ในแต่ละยุคทำได้โดดเด่น และ ทางเรื่องเสียงหรือเพลงประกอบทำได้ลงตัว และ SCORE ของหนังดนตรีประกอบทำได้ลงตัว เพราะครั้งนี้ได้ คนทำเสียงจาก GOT มาร่วมทำงานด้วยนั้นเอง บอกเลยว่าส่วนที่ประทับใจที่สุดในหนังเรื่องนี้ คือเรื่องภาพ และ เสียง และทำได้แตกต่างกว่าทุกเรื่องของทางค่ายเช่นกัน 

ทำให้ภาพรวมของหนังส่วนตัวชอบในการเล่าเรื่องแบบใหม่ ดูใส่ใจในหลายๆจุดที่จะเล่าเรื่อง แต่มันน่าจะทำได้น่าสนใจได้หรือว่าลึกแต่กระชับได้มากกว่านี้เช่นกัน ซึ่งส่วนตัวจริงๆอยากเห็นหนังแนวๆนี้มากขึ้นในค่ายนี้เช่นกัน แต่ก็อาจจะเสี่ยงเพราะว่าหลายๆคนอาจจะไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลย เล่าเรื่องไม่ทันใจและสลับไปมา ซึ่งเป็นความเสี่ยงแบบนึงนั้นเอง แต่ถ้าทำได้ลงตัวก็จะป็นอีกเรื่องที่แปลกใหม่และลงตัวเช่นกันครับ ซึ่งเรื่องนี้แปลกใหม่ แต่เกือบจะลงตัว ทำให้ภาพรวม งานภาพสวย โทนหนังดี การเล่าเรื่องดี แต่ขาดแค่ความสมดุลในแง่ของการเล่าเรื่องหรือเจาะลึกไป หรือ กระชับได้มากกว่านี้ รวมถึงความสมเหตุผลบางส่วนนิดหน่อย แต่ต้องขอชมเลยว่าเป็นหนัง marvel ที่แปลกใหม่ ส่วนตัวชอบ และอยากให้มีแนวๆนี้มาอีกเรื่อยๆครับ