HUAWEI ได้เปิดตัวระบบของตัวเองในชื่อ Harmony OS แน่นอนว่ามีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและครั้งนี้มาพร้อมกับ OS 2 Beta แล้วนั้นเองซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายอย่างมากไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือว่าฟีเจอร์ทำให้หลายๆคนนั้นรอติดตามกันว่า ระบบของตัวเองครั้งนี้จะเป็นยังไงในรุ่นล่าสุด และในไทยเองนั้น HUAWEI nova 9 ถือว่าเป็นมือถือรุ่นแรกในไทย และ ในตลาดโซนนี้ที่จะได้ใช้งานกันก่อนใคร HUAWEI nova 9 จะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่อยู่นอกประเทศจีน ที่สามารถอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน HarmonyOS 2 Beta ได้เลยจะมาพรีวิวตัวจริงว่าในการใช้งาน หน้าตา ความลื่นไหล หรือแม้แต่ฟีเจอร์ที่เสริมเข้ามาเองนั้นจะใช้งานได้ดีแค่ไหนกันครับในครั้งนี้ !
HARMONY OS 2 : สวยขึ้น ลื่นไหลขึ้น ฟีเจอร์แน่น
มาถึงรุ่นที่ 2 บอกเลยว่าไวเหมือนกันถ้าเรามองย้อนกลับไปตอนที่ทาง Huawei จะประกาศทำระบบของตัวเอง ทางค่ายต้องเจองานหนักมากๆทั้งจากคู่แข่งหรือแม้แต่คนใช้งานเก่าเพราะว่ามันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และการลุยครั้งใหม่ทั้งหมด ทิ้งของเดิมไปรับของใหม่เข้ามา มีทั้งความเสี่ยง และ ท้าทายมากๆแต่หลังจากที่ได้ลองมานานพอสมควรต้องบอกเลยว่า Huawei เองนั้นมาถูกทางแล้ว ในรุ่น Nova 9 แน่นอนว่าเป็นน้องใหม่ในไทยก็ได้ลองเล่นใช้งานทันทีครับภาพรวมต้องบอกว่ายังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ได้ คนมาจาก EMUI ไม่ต้องปรับตัวเยอะ แต่ถ้าได้มาลอง Harmony OS 2 บอกเลยว่าอาจจะกลับไปไม่ได้เพราะส่วนตัวชอบ Service Widget มาก ใช้งานได้จริงและสวย ส่วนความลื่นไหลเท่าที่ลอง ดีขึ้นเนียนตามากกว่าเดิมและมีความนิ่งกว่ายุคแรกๆที่เคยลองในตัว Harmony OS นี้
SUPER DEVICE : เชื่อมง่ายมาก !
ในการคุยกันระหว่างมือถือหรืออุปกรณ์แน่นอนว่าทาง Huawei เองมี Super Device ฟีเจอร์นี้ถือว่าง่ายมากในการที่เราจะเชื่อมต่อ บรรดาอุปกรณ์ของ Huawei ให้คุยกันรู้เรื่อง โยนไฟล์ หน้าจอ รูป เสียงต่างๆให้ไปหาระหว่างกันได้หรือถ้ามี Tablet เองก็สามารถยิงหน้าจอมือถือของเราขึ้นไปได้ง่ายมาก และในการเชื่อมต่อ แค่ลากวงกลม มือถือ หรือ อุปกรณ์ที่เราอยากจะเชื่อมเข้ามาในวงใกล้มือถือเรา แค่นั้นง่ายๆเลยทำให้ไม่ต้องเข้าไปเชื่อมต่อให้ยุ่งยากครับ
แต่ทั้งนี้ต้องเชื่อมต่อ Wifi ตัวเดียวกัน และ Log in Huawei ID ตัวเดียวกันด้วยนะ อันนี้ใช้งานบ่อยมากเวลาจะย้ายรูป หรือถ่ายแล้วจะเอาไปทำต่อใน Matepad นั้นเอง หรือบรรดา Matebook ทำให้การทำงานระหว่างกันนั้นง่ายมาก และสามารถเชื่อมลากได้หลากหลายชิ้นว่าเราจะเลือกชิ้นไหน รวมถึง การทำงานลื่นไหลมากเช่นกันในการ Screen Collab ไปบน Matepad ก็สามารถใช้งานผ่านตัว Matepad ได้ทันทีไม่ต้องสัมผัสบนหน้าจอมือถือเลย
SERVICE WIDGET : ปรับแต่งได้เยอะ อิสระ
อันนี้น่าสนใจเพราะว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลชัดที่สุดเพราะว่ามันมีผลกับหน้าตาหลักเลยนั้นเอง ซึ่งตัวนี้ก็จะเป็น Widget ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมเป็นรูปทรง สี่เหลี่ยม หรือจะ ผืนผ้า และแม้แต่แบบแถบสั้นๆก็มีให้เลือกทั้งหมด และสามารถแสดงผลแบบ realtime ได้เลย รองรับแอปพื้นฐานของระบบไม่ว่าจะเป็น Weather , Call , Gallery , Music , Video ต่างๆ และอีกมากมาย ทั้ง Health , Notepad ทางเราเลยขอลองเล่นให้ชมกันครับ
จากที่เห็นเมื่อเรากดแอปพื้นฐาน ค้างไว้จะมีให้เลือกเพิ่มเติม และมีให้เลือกอีกทีว่าจะใช้งาน Widget แบบไหนขนาดเท่าไรในแต่ละแอปเองนั้นจะไม่เหมือนกันนะครับทั้งหน้าตา ขนาดและตัวเลือกที่จะใช้งานได้ ทางเราก็เลยลองรวมๆแอปที่รองรับและจัดมาใส่หน้าจอหลักผสมกันไป บอกเลยว่าหน้าตาดูดีมากเช่นกันและใช้งานได้สะดวกกว่าเดิมเยอะ
ที่ค่อนข้างชอบคือตัว Widget เองนั้นจะอัปเดตแบบ real time เลยทีเดียวถ้าเป็น นาฬิกา สภาพอากาศ หรือแม้แต่รุปถ่ายต่างๆ หรือเรา Note ไว้เองก็จะโชว์ให้ทันที และสามารถลากปรับได้ว่าจะวางไว้มุมไหนของเครื่องกันบ้างครับ แต่ยังไม่สามารถวางทับซ้อน Widget ได้ 1 ส่วนจะใส่ได้แค่ 1 แอปเท่านั้นนะครับ และ ในแต่ละแอปก็จะทำงานแตกต่างกัน บาง Service Widget ก็จะสามารถสั่งงานตัวเครื่องได้ เป็น Shortcut ไปในตัวนั้นเองน่าสนใจมาก
MULTI CAM : ใช้งานกล้องจากมือถือตัวอื่นได้ !
การเชื่อมต่อสลับใช้งานกล้องของ 2 device ที่อยู่ในวง wifi เดียวกันได้ฟีเจอร์นี้ตอนี้ต้องทดสอบกับ Nova 9 ด้วยกันก่อนนะครับ แต่ถ้าปล่อยออกมาจริงๆ แน่นอนน่าจะรองรับการใช้งานหลากหลายมากขึ้นและจะได้ประโยชน์กันมันเยอะมากเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็น ทีวี Vision S ก็สามารถรองรับได้ หรือในอนาคตถือว่าทำได้น่าสนใจมากๆครับ
บรรดา Matepad / Matebook สามารถใช้งานได้แน่นอนทำให้เราเหมือนมีกล้องตัวที่ 2 พกพา เปลี่ยนมุม หรือใช้งานในการประชุมได้ทันที เพราะไม่ต้องใช้งานกล้องหลัก หรือ ถ้าหากเราใช้มือถือ และอยากสลับมุมในการถ่ายก็รองรับด้วยเช่นกันเป็นเลนส์รอง สามารถสลับเลนส์ สลับมุมได้แบบทันที อีกทั้งในการถ่าย Selfies ก็ใช้ 2 เครื่องตั้งมุม และกดถ่ายได้ครับ ที่ทดสอบเองนั้นจะเป็นการใช้งาน Nova 9 ทั้ง 2 เครื่องอีกเครื่องอยู่ในบ้าน ส่วนอีกเครื่องตั้งไว้สวนหน้าบ้าน ระยะห่างเยอะพอสมควรก็สามารถ ดึงภาพจากกล้องตัวที่ 2 มาใช้งานบนตัวที่ 1 ได้ทันทีเลยนั้นเอง
HARMONY OS 2 BETA
ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่ได้ลองนั้นหลายๆอย่างมันดีขึ้นชัดเจนไม่ว่าจะเป็นความลื่นไหล หน้าตาการออกแบบหรือแม้แต่ฟีเจอร์ที่ใช้งานจริง รู้สึกถึงการพัฒนาจากรุ่นแรกเยอะและแน่นอนว่าทำให้การใช้งานทำได้ดีกว่า Mate 30 Pro ที่ถืออยู่ซะอีกครับเลยรู้สึกว่าทางค่ายมาถูกทางแล้วในหลายๆฟีเจอร์ และ ยิ่งเป็นค่ายที่มี Ecosystem ของตัวเองเยอะแบบนี้ทำให้จุดนี้อาจจะเป็นจุดแข็ง ในอนาคตได้เลยการที่หลายๆอุปกรณ์คุยกันได้ง่ายแบบนี้ และทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ จึงน่าสนใจว่าการวางพื้นฐานมาแบบนี้แล้ว อนาคตการคุยกันระหว่าง ทีวี มือถือ คอม กล้อง ลำโพง น่าจะมีอะไรให้เล่นอีกเยอะมากในค่าย HUAWEI และ Harmony OS จะไปอยู่ในทุกๆอย่างของค่ายนี้ด้วยเช่นกันครับ