iQOO แบรนด์ย่อยของ vivo ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟน Neo 5S สมาร์ตโฟนรุ่นกลาง และ Neo 5 SE สมาร์ตโฟนรุ่นที่ถูกกว่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ประเทศจีน โดยในรุ่น 5S ใช้ชิบประมวลผล Snapdragon 888 และรุ่น 5 SE ใช้ชิบประมวลผล Snapdragon 870 ทั้งคู่มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่พัฒนาขึ้น และแบตเตอรี่ชาร์จเร็ว
vivo iQOO Neo 5S
สมาร์ตโฟน iQOO Neo 5S มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.62 นิ้วที่มีรีเฟรชเรท 120Hz, ความถี่การตอบสนอง 300Hz และความถี่การตอบสนองการสัมผัสแบบทันที 1,000Hz, ดีเลย์การสัมผัสอยู่ที่ 5.8ms รวมทั้งรองรับ HDR10+ และมีชิบภายในสำหรับฟีเจอร์ MEMC ที่ช่วยให้การแสดงผลลื่นไหนขึ้น
ภายในตัวเครื่องใช้ชิบ Snapdragon 888 ที่ใช้ RAM LPDDR5 ที่รับ-ส่งข้อมูลได้ 6,400Mbps อ่านข้อมูลเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานกว่าเดิม รวมทั้งตัวเครื่องมาพร้อมระบบระบายความร้อนพื้นที่รวม 11,098 ตารางมิลลิเมตร ที่ประกอบด้วยแผ่นแกรไฟต์ขนาดใหญ่, แผ่น VC soaking, เจลนำความร้อนแบบเดียวกับในรุ่น Neo 5 แต่ในรุ่น Neo 5S วัสดุใช้แร่อัลลอย rare earth เกรดอากาศยานที่นำความร้อนได้ดีกว่ารุ่นที่ก่อนหน้าถึง 200%
นอกจากนั้นภายในตัวเครื่องยังมาพร้อมระบบสั่น Game Vibration 3.0 แบบ 4D, มอเตอร์ linear vibration และกระจกด้านหลังตัวเครื่องเป็นแบบ AG
กล้องหลังมีจำนวน 3 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 48MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ IMX598 รองรับ OIS + กล้อง ultra-wide 13MP + กล้องมาโคร 2MP ส่วนกล้องหน้าแบบเจาะรูมีความละเอียด 16MP และแบตเตอรี่มีความจุ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 66W ที่สามารถชาร์จแบตจาก 0-70% ได้ในเวลา 18 นาที
สเปคของ iQOO Neo 5S
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.62 นิ้ว (2400×1080พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 20:9, รีเฟรชเรท 120Hz, HDR10+, NTSC color gamut 105%, ความสว่างสูงสุด 1,300 nits, MEMC
- ชิบประมวลผล Snapdragon 888 5nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 660
- RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB / 256GB, RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย OriginOS Ocean
- ซิมคู่ (nano + nano)
- กล้องหลัง
- กล้องตัวหลัก 48MP (f/1.79) ที่ใช้เซ็นเซอร์ IMX598, OIS
- กล้อง ultra-wide กว้าง 120 องศา 13MP (f/2.2)
- กล้องมาโคร 2MP (f/2.4)
- แฟลช LED
- กล้องหน้า 16MP (f/2.0)
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- ช่องเสียบหูฟัง USB Type-C, ลำโพง Stereo, คุณภาพเสียง Hi-Fi
- ขนาดตัวเครื่อง: 163.22×76.4x 8.39มม.; น้ำหนัก: 197 กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ax (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.2, GPS/GLONASS
- แบตเตอรี่ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 66W
เจ้า iQOO Neo 5S จะมีให้เลือกในตัวเครื่องส้ม, สีฟ้า และสีดำ โดยมีราคาอยู่ที่ 2,699 หยวน (ประมาณ14,200บาท) ในรุ่น 8GB + 128GB, ราคา 2,899 หยวน (ประมาณ15,200บาท) ในรุ่น 8GB + 256GB และราคา 3,199 หยวน (ประมาณ16,800บาท) ในรุ่น 12GB + 256GB ซึ่งจะถูกวางขายที่ประเทศจีนในวันที่ 24 ธันวาคมนี้
vivo iQOO Neo 5 SE
ในรุ่น Neo 5 SE มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้วที่มีรีเฟรชเรท 144Hz ปรับได้ 5 ระดับและแสดงผลความสว่างได้ต่ำสุด 1-nit ภายในตัวเครื่องใช้ชิบ Snapdragon 870 ที่มาพร้อม RAM สูงสุด 12GB
ตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง และภายในตัวเครื่องใช้ระบบสั่น Game Vibration 3.0 แบบ 4D, มอเตอร์ linear vibration รวมทั้งมีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
กล้องหลังมีจำนวน 3 ตัวประกอบด้วย กล้อง 50MP + กล้อง ultra-wide 8MP + กล้องมาโคร 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP แบตเตอรี่มีความจุ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 55W
สเปคของ iQOO Neo 5 SE
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว (2400×1080พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 20:9, HDR10+, รีเฟรชเรท 144Hz, DCI-P3 color gamut, ความสว่างสูงสุด 650 nits
- ชิบประมวลผล Snapdragon 870 7nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 650
- RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB / 256GB, RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย OriginOS Ocean
- ซิมคู่ (nano + nano)
- กล้องหลัง
- กล้องตัวหลัก 50MP (f/1.79)
- กล้อง ultra-wide กว้าง 120 องศา 8MP (f/2.2)
- กล้องมาโคร 2MP (f/2.4)
- แฟลช LED
- กล้องหน้า 16MP (f/2.0)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, ลำโพง Stereo, คุณภาพเสียง Hi-Res
- ขนาดตัวเครื่อง: 164.70×76.68x 8.53มม.; น้ำหนัก:189 กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ax (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.2, GPS/GLONASS
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 55W
เจ้า iQOO Neo 5 SE จะมีให้เลือกในตัวเครื่องสีขาว (Crystal White), สีน้ำเงิน (Mineral Blue) และสี Phantom gradient โดยมีราคาอยู่ที่ 2,199 หยวน (ประมาณ11,500บาท) ในรุ่น 8GB + 128GB, ราคา 2,399 หยวน (ประมาณ12,600บาท) ในรุ่น 8GB + 256GB และราคา 2,599 หยวน (ประมาณ13,600บาท) ในรุ่น 12GB + 256GB ซึ่งจะถูกวางขายที่ประเทศจีนในวันที่ 28 ธันวาคมนี้