หลังจากที่ AMD ได้ประกาศว่าจะเข้าซื้อบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติอเมริกาอย่าง Xilinx ไปเมื่อเดือนตุลาคมของปี 2020 ในปัจจุบันดีลดังกล่าวใกล้ประสบความสำเร็จแล้ว โดยดีลนี้จะเกิดขึ้นจริงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ และถือเป็นดีลใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ AMD เพราะดีลดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 3.5 หมื่นล้าน$ (ประมาณ1.14ล้านล้านบาท)

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดีลดังกล่าวใกล้ประสบความสำเร็จเป็นเพราะได้รับการรับรองจากหน่วยงานรับรองต่าง ๆ แล้ว ดังที่ได้รับการรับรองจากทางหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีนไปเมื่อวันที่ 27 มกราคม ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าทั้งสองบริษัทจะไม่เลือกปฏิบัติต่อลูกค้าที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของเจ้าใดหนึ่งแต่ไม่ซื้อของอีกเจ้าหนึ่ง

แม้ว่า Xilinx จะเป็นบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แต่ทางบริษัทก็มีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิบประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจาก CPU และ GPU เช่น FPGA และ ASIC ทำให้การเข้าซื้อบริษัท Xilinx เป็นการแก้ไขจุดอ่อนของ AMD ที่เชี่ยวชาญการผลิตชิบแบบเฉพาะทาง

ด้วยเหตุนี้หากดีลข้างต้นประสบความสำเร็จจะทำให้ AMD สามารถเจาะตลาดอุตสาหกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากตลาดในปัจจุบันของทางบริษัทได้ กล่าวคือทาง AMD สามารถสร้างโซลูชั่นที่แก้ไขปัญหาได้แก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจร หรือสร้างระบบนิเวศของตนเองได้นั่นเอง แต่ถึงกระนั้น Xilinx ใช้โมเดลธุรกิจเดียวกับ AMD คือไม่มีโรงงานผลิตชิบเป็นของตัวเอง แต่ outsource ให้ผู้ผลิตภายนอก ทำให้ดีลนี้ไม่ได้ส่งต่อโมเดลธุรกิจของ AMD ในทันทีทันใด

นอกจากนั้นดีลข้างต้นยังทำให้ AMD สามารถแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Intel ได้อย่างสูสีมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ Intel ได้ซื้อบริษัท Altera ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงไปเมื่อปี 2015

SOURCE