Apple ได้ทำการเปิดตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา​โดยมีทั้ง​ Macbook Air ​ที่รอคอนการเปลี่ยนแปลงมานานมากกก​และรวมถึง iPad Pro ที่จัดเต็ม​ทั้งฟีเจอร์สเปค​ รวมถึงราคาก็เช่นกัน​ และยังมี​ Mac​ mini ที่อัพเกรดใหม่ด้วยนั้นเอง​ บอกเลยว่ามีอะไรน่าสนหลายๆอย่างเลย​ โดยเฉพาะการปรับมาใช้​ Type-C​ ในตัว​ iPad ​Pro อันนี้น่าสนใจมาก​ และได้อัพเกรดปากกาสามารถแตะกับตัวขอบเครื่องได้รวมถึงเต็มจอมากขึ้นไร้ปุ่มโฮมแล้ว แต่ละอย่างนั้นจะมีอะไรน่าสนบ้างไปส่องกันครับ

 

Macbook Air

แน่นอนในรุ่นนี้หลายๆคนรอการเปลี่ยนแปลงและมันก็ถึงเวลาแล้วครับ มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายอย่างทั้งการเปลี่ยนพอร์ต MagSafe เป็น USB-C เรียบร้อย ลาก่อน MagSafe ซึ่งพอร์ททั้งหมดเหลือแค่ Thunderbolt ที่เป็น USB-C ให้มาสองพอร์ตสำหรับชาร์จไฟแทน และ ถ้าอยากใช้ช่องอื่นๆต้องใช้สายแปลงกันทั้งหมดแล้วครับ

  • Core i5 Gen 8 RAM สูงสุด 16GB, สตอเรจ สูงสุด 1.5 TB
  • สแกนลายนิ้วมือ Touch ID มาพร้อม ชิพ T2 สำหรับดูแลด้านความปลอดภัย
  • จอภาพ Retina 13.3 นิ้ว มาพร้อมกับขอบบางขึ้น และ สีที่ดีขึ้น
  • Touchpad Forcetouch ใหญ่ขึ้น
  • คียบอร์ด ฺButtlerfly รุ่นที่ 3 มีไฟ Backlight
  • พอร์ทเชื่อมต่อ เหลือแค่ Thunderbolt 3 TYPE-C 2 ช่อง และ รู 3.5 มม.
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 1.25 กิโล เล็กและเบา
  • วัสดุอลูมิเนียมที่มาจากการ Recycle ทั้งหมด
  • Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.2
  •  MacBook Air สามารถเล่นได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 13 ชั่วโมง
  • เสียงเบส 2 เท่า พร้อมช่วงเสียงที่กว้างกว่าตัวเดิม
  • กำลังขับเสียงเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 25%
  • ไมโครโฟนสามตัววางตำแหน่งเรียงกันรับเสียดีขึ้น
  • กล้อง FaceTime HD

iPad Pro 

และในหลายๆอย่างที่รอคอยกันก็มาแล้วครับสำหรับ iPad Pro รุ่นใหม่ ซึ่งจะมีสองขนาด ได้แก่ 11 นิ้ว กับ 12.9 นิ้ว โดยได้ทำการ ใช้ชิป A12X Bionic มาพร้อมพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB-C ลาก่อน Lighting และ ไร้ปุ่มโฮมด้วยครับรวมถึงมีการใช้งานสแกนใบหน้ามาแทนสแกนนิ้วและแน่นอน บางขึ้น หน้าจอเต็มมากขึ้นด้วยรวมถึงปากกาตัวใหม่

  • หน้าจอเต็มตามากขึ้น ขอบบางขึ้น  Liquid Retina  120Hz
  • ชิพ A12X Bionic  8cores 7nmแรงกว่าเดิม
  • Face ID สามารถสแกนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รองรับ Animoji® และ Memoji™
  • กล้องหน้า Truedepth 7MP  และ กล้องหลัง 12 MP
  • พอร์ทเเชื่อมต่อแบบ USB TYPE-C สามาถต่อ ออกจอนอกได้
  • ตัวเครื่องบางลง 1 มม.
  • ความจุสูงสุด 1 TB
  • Apple Pencil ตัวใหม่ รองรับการชาร์จไร้สายผ่านขอบตัวเครื่อง และ ระบบแตะตรงปากกา
  • รองรับการทำงานตระกูล ADOBE ได้ดียิ่งขึ้น
  • ลำโพง 4 ตัวพัฒนาขึ้น เสียงเบสดีขึ้น มิติกว้างขึ้น
  • Smart Keyboard Folio ตัวใหม่ ครอบคลุมทั้งด้านหน้าหลัง

สำหรับวันวางขายในไทยยังไม่มีกำหนดการออกมาครับ แต่มีราคาทางการออกมาแล้ว 

Pad Pro (Gen 3) 11 นิ้ว Wi-Fi

  • 64GB  ราคา 28,900 บาท
  • 256GB ราคา 33,900 บาท
  • 512GB ราคา 40,900 บาท
  • 1TB ราคา 54,900 บาท

iPad Pro (Gen 3) 11 นิ้ว Wi-Fi+Cellular

  • 64GB  ราคา 33,900 บาท
  • 256GB ราคา 38,900 บาท
  • 512GB ราคา 45,900 บาท
  • 1TB  ราคา 59,900 บาท

iPad Pro (Gen 3) 12.9 นิ้ว Wi-Fi

  • 64GB  ราคา 35,900 บาท
  • 256GB  ราคา 40,900 บาท
  • 512GB ราคา 47,900 บาท
  • 1TB  ราคา 61,900 บาท

iPad Pro (Gen 3) 12.9 นิ้ว Wi-Fi+Cellular

  • 64GB ราคา 40,900 บาท
  • 256GB  ราคา 45,900 บาท
  • 512GB ราคา 52,900 บาท
  • 1TB  ราคา 66,900 บาท

Mac mini 

อีก 1 ที่มีการเปิดตัวในงานเมื่อคืนนั้นเป็นส่วนของ Mac อีก 1 ชิ้นคือ Mac mini รุ่นใหม่ โดยยังคงอิงดีไซน์เดิม มาแต่มีการอัพเกรดสเปคภายในทั้งในหน่วยของ CPU Intel 8th Gen, รองรับหน่วยความจำ RAM สูงสุด 64GB และ SSD สูงสุด 2TB เลยทีเดียว  และ ยังมีพอร์ท  Thunderbolt 3 ทั้งหมด 4 พอร์ท, HDMI, Ethernet และยังมี ชิพ T2 แบบเดียวกับ MacBook Air อีกด้วยที่จะมาดูแลในเรื่องของความปลอดภันของระบบครับ    รุ่น Core i3 ราคา 27,900 บาท  รุ่น Core i5 ราคา 38,400 บาท

Apple