Ming-Chi Kuo เผยว่าแผนการดำเนินงานของ TSMC ระบุว่าทางการผลิตชิบขนาด 3 หรือ 4 นาโนเมตรยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้จนกว่าจะถึงปี 2023 จึงส่งผลให้ชิบ A16 ที่ใช้ใน iPhone 14 จะยังคงมีขนาด 5 นาโนเมตร
นอกจากนั้นชิบดังกล่าวจะถูกใช้ใน iPhone 14 รุ่นพรีเมียม (น่าจะเป็นรุ่น Pro ขึ้นไป) เท่านั้น โดย iPhone 14 รุ่นธรรมดาจะใช้ชิบ A15 เหมือนกับรุ่นที่ผ่านมาอีกทั้ง MacBook Air รุ่นถัดไปอาจยังคงใช้ชิบ M1 เหมือนกับรุ่นในปัจจุบัน ส่วนชิบ M2 ที่แรงและซับซ้อนกว่าจะถูกนำมาใช้งานจริงหลังจากปีหน้า
แม้ว่าการไม่สามารถอัพเกรดขนาดชิบประมวลผลให้มีขนาดเล็กลงจะทำให้ประสิทธิภาพถูกจำกัดไม่ให้เพิ่มขึ้น แต่ชิบ A15 ก็มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิบ A14 ถึง 10% แม้จะมีขนาดของตัวชิบเท่ากัน
Kuo ยังระบุว่าการที่ Apple ไม่สามารถใช้ชิบขนาด 4 นาโนเมตรได้นั้นอาจไม่ใช่เรื่องแย่ไปเสียทั้งหมด เพราะในความเป็นจริงการผลิตชิบแบบ 5 นาโนเมตร+ หรือ N5P (คล้าย ๆ กับการที่ชิบ Snapdragon อัพเกรดชิบให้มีคำว่า Plus หลังรุ่น) ไม่ได้มีประสิทธิภาพด้อยไปกว่าชิบขนาด 4 นาโนเมตรเลย ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าชิบ A16 อาจผลิตในลักษณะนี้ และชิบดังกล่าวที่ถูกใช้ใน iPhone 14 ก็อาจเป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อชิบเพื่อเหตุผลทางการตลาดเป็นหลัก
อย่างไรก็ดีไม่ใช่แค่ Apple เท่านั้นที่ไม่สามารถใช้ชิบขนาดเล็กกว่า 5 นาโนเมตรได้ เพราะผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนอื่นก็ประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันในปีนี้ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิบนั่นเอง
(1/4)
According to TSMC's public announcements & the roadmap (source: https://t.co/EgzC8D1Wys):
1. Significantly better N3 & N4P won't start mass production until 2023.
2. N5P & N4 are the latest technologies Apple can use for 2H22 products.
3. N4 has no advantages vs. N5P. https://t.co/k3OCX5EqjJ pic.twitter.com/kmzQEyxRkN— 郭明錤 (Ming-Chi Kuo) (@mingchikuo) May 29, 2022