การสืบสวนโดย The Financial Times พบว่าบริษัทโซเชียลมีเดียอย่าง Snapchat, Facebook, Twitter, และ YouTube ได้สูญเสียรายได้ราว 9.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (3.28แสนล้านบาท) เนื่องจากนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple
เมื่อปีที่ผ่านมา Apple ได้ประกาศนโยบายความโปร่งใสของการติดตามข้อมูลผู้ใช้งาน (App Tracking Transparency: ATT)ของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ทำให้แอพจำเป็นต้องถามความยินยอมของผู้ใช้งานก่อนถึงจะติดตามข้อมูลของผู้ใช้งานได้ ซึ่งนโยบายดังกล่าวถูกนำมาใช้งานจริงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้หลังจากช่วงเวลาดังกล่าวแอพไม่สามารถติดตามข้อมูลของผู้ใช้งานได้หากผู้ใช้งานเลือกไม่ยินยอม
/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_image/image/70072076/acastro_180604_1777_apple_wwdc_0001.0.jpg)
Facebook ได้ออกมาวิจารณ์นโยบายดังกล่าวอย่างเปิดเผยในโฆษณาหนังสือพิมพ์แบบเต็มหน้าเลยทีเดียว เนื่องจาก Facebook สูญเสียรายได้สุทธิเป็นจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบหับแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ ในขณะที่ Snapchat สูญเสียรายได้จากอัตราส่วนของรายได้ทั้งหมดของธุรกิจเนื่องจากการโฆษณาส่วนใหญ่ของแอพดังกล่าวเกิดขึ้นบนอุปกรณ์สมาร์ตโฟนเพียงอย่างเดียว ไม่มีเวอร์ชั่นคอมพิวเตอร์เหมือนแพลตฟอร์มอื่น ๆ
หลายแพลตฟอร์มได้รับผลกระทบจากนโยบาย ATT ของ Apple จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลไกและโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นอย่างน้อยหนึ่งปีในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เพราะจำเป็นต้องยกเครื่องแพลตฟอร์มใหม่และทำการทดสอบหลายครั้งมากก่อนที่จะนำมาใช้จริงได้
อย่างไรก็ดีนโยบาย ATT ของ Apple ที่มีต่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้แพลตฟอร์มเหล่านั้นจำเป็นต้องพัฒนาวิธีการที่สร้างสรรค์กว่าเดิมในการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นการเน้นโฆษณาบนอุปกรณ์ Android มากขึ้นหรือลงทุนมากกว่าเดิมในการโฆษณาบนอุปกรณ์ Apple หรืออาจมีวิธีอื่นเกิดขึ้นในอนาคตก็ต้องรอดูกันต่อไป
