ในงานอีเวนท์ Spring Reloaded ทาง Apple ได้เปิดตัว iPad Pro รุ่นปี 2021 ทั้งในขนาดหน้าจอ 11 นิ้วและ 12.9 นิ้ว โดยทั้งคู่เป็น iPad รุ่นแรกที่มาพร้อมชิบ M1 ที่มีประสิทธิภาพ CPU สูงขึ้น 50% และประสิทธิภาพการ์ดจอสูงขึ้น 40% เมื่อเทียบกับชิบ A12X Bionic รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้หน้าจอของ iPad Pro 11 นิ้วใช้หน้าจอแบบ LED-backlit Liquid Retina และ iPad Pro 12.9 นิ้วใช้หน้าจอ mini-LED Liquid Retina XDR
ซึ่งหน้าจอ mini-LED มาพร้อม LEDs กว่า 10,000 หน่วยที่ด้านหลังของหน้าจอทำให้มีความสว่างได้สูงสุด 1,000nits แบบ full-screen และความสว่างสูงสุด 1,600nits และมีอัตราส่วน contrast ratio 1ล้าน-1 นอกจากนี้ iPad Pro รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ ProMotion (เพิ่มรีเฟรชเรทเป็น120Hz), True Tone และ P3 wide color ทำให้สร้างประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์ด้วย HDR และ Dolby Vision
นอกจากนี้มันยังเป็น iPad รุ่นแรกที่รองรับ 5G ด้วย esim, รองรับพอร์ต Thunderbolt และ USB 4 via USB-C ที่เพิ่ม bandwidth ในการเชื่อมต่อด้วยสายมากกว่า iPad Pro รุ่นก่อนหน้า 4x (มากถึง 40Gbps) รวมทั้งพอร์ต Thunderbolt รองรับการเชื่อมต่ออีเทอร์เน็ต 10Gbps, รองรับการต่อกับหน้าจอภายนอก Pro Display XDR ความละเอียดสูงสุด 6K
iPad Pro 2021 มาพร้อมกล้องหน้า Ultra-wide TrueDepth 12MP เพื่อให้สามารถวิดิโอคอลได้มุมกว้างมากขึ้น และใช้ machine learning บนชิบ M1 ทำให้หน้าผู้ใช้งานอยู่ตรงกลางของหน้าจอแม้ว่ากล้องจะมีความเอียงไปเล็กน้อย นอกจากนี้เมื่อมีผู้อื่นเข้ามาร่วมในเฟรมระบบก็จะตรวจจับเขาด้วย และหากมีผู้อยู่ในเฟรมมากกล้องจะซูมออกโดยอัตโนมัติเพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ในเฟรมได้
นอกจากนั้น ISP และ Neural Engine บนชิบ M1 สามารถปลดล็อคความสามารถของระบบกล้อง โดยทำให้รองรับ HDR 3 เป็นครั้งแรกบน iPad Pro และในสภาพแสงน้อย ISP และ LiDAR Scanner จะทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำในการโฟกัสรูปภาพและวิดิโอเพื่อเก็บรายละเอียดภาพแม้ในสภาพเกือบไม่มีแสงเลยก็ตาม
สเปคของ Apple iPad 11 นิ้ว / 12.9 นิ้ว (2020)
- หน้าจอ Liquid Retina LED-backlit ขนาด 11 นิ้ว (2,388×1,668พิกเซล) รองรับ P3 Color Gamut, ความสว่าง 600nits, 264 PPI
- หน้าจอ Liquid Retina XDR mini-LED backlit ขนาด 12.9 นิ้ว (2,732×2,048พิกเซล) รองรับ P3 Color Gamut, ความสว่างสูงสุด 1000nits max full-screen; 1600nits (HDR), 264 PPI
- ชิบประมวลผล Apple M1 8-core CPU, 8-core GPU, 16-core Neural Engine
- RAM 8GB + storage 128GB, 256GB หรือ 512GB / RAM 16GB + storage 1TB หรือ 2TB
- iOS 14.5
- กล้องหลัง
- กล้องมุมกว้าง 12MP (f/1.8)
- กล้อง ultra-wide 10MP (f/2.4), เลนส์ 5P, เคลือบเลนส์ด้วย Sapphire crystal, Autofocus พร้อม Focus Pixels (มุมกว้าง), แฟลช Brighter True Tone
- กล้องหน้า
- กล้อง Ultra Wide TrueDepth 12MP ที่ถ่ายได้กว้าง 122 องศา, รองรับโหมด Portrait พร้อม bokeh แบบ advanced และ Depth Control, Portrait Lighting, แฟลช Retina
- ไมโครโฟน 5 ตัวสำหรับการโทร, บันทึกวิดิโอ, บันทึกเสียง และมีลำโพง 4 ตัว
- เซ็นเซอร์: Face ID, LiDAR Scanner, Three-axis gyro, Accelerometer, Barometer, Ambient light sensor
- รองรับ 5G (รุ่นทางเลือก), Wi‑Fi 802.11 ax (2.4GHz and 5GHz) Wi-Fi 6; simultaneous dual band (2.4GHz and 5GHz); HT80 with MIMO, Bluetooth 5.0, Built‑in GPS/GNSS, Thunderbolt 3 / USB 4 (ถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 40 Gbps) / USB 3.1 Gen 2 (ถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 10 Gbps)
- ขนาดตัวเครื่อง (11นิ้ว): 247.6x 178.5x 5.9มม.; น้ำหนัก: 466/468 กรัม
- ขนาดตัวเครื่อง (12.9นิ้ว): 280.6x 214.9 x 5.9มม.; น้ำหนัก: 682/684 กรัม
- รุ่น 11 นิ้ว – แบตเตอรี่ lithium-polymer 28.65 วัตต์ชั่วโมง ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อใช้งานเว็บไซต์ผ่าน Wi-Fi, รับชมวิดิโอ หรือฟังเพลง
- รุ่น 12.9 นิ้ว – แบตเตอรี่ lithium-polymer 40.88 วัตต์ชั่วโมง ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อใช้งานเว็บไซต์ผ่าน Wi-Fi, รับชมวิดิโอ หรือฟังเพลง
เจ้า iPad Pro 2021 มีให้เลือกในตัวเครื่องสีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 27,900 บาทในรุ่น 11 นิ้วและราคาเริ่มต้น 37,900 บาทในรุ่น 12.9 นิ้ว ซึ่งทั้งสองรุ่นจะสามารถสั่งซื้อได้ในวันที่ 30 เมษายน และวางขายช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม
สามารถดูราคาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.apple.com/th/shop/buy-ipad/ipad-pro