ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมเป็นต้นไปผู้ใช้งาน iPhone ที่อัปเดท iOS 16.1 แล้ว จะสามารถสมัครบริการ Fitness Plus ของ Apple ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมี Apple Watch แล้ว
กลยุทธ์ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างสำคัญของ Apple เพราะก่อนหน้านี้ผู้ที่จะใช้แอป Fitness และบริการ Fitness Plus ได้นั้นจะต้องใช้งาน Apple Watch Series 3 หรือใหม่กว่า หรือก็คือ Apple บังคับให้ผู้ที่ต้องการใช้ Fitness Plus นอกจากจะต้องเสียค่าสมัครสมาชิกรายปีมูลค่าราว 3 พันบาทแล้ว ต้องซื้อ Apple Watch อีกเพื่อที่จะสามารถใช้บริการ Fitness Plus ได้
อย่างไรก็ตามการไม่บังคับให้ใช้ Apple Watch เพื่อสมัครบริการ Fitness Plus น่าจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินจากผู้ใช้งาน iPhone ที่ไม่มี Apple Watch ได้
เพราะตัวบริการถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมสำหรับมือใหม่จนถึงผู้มีประสบการณ์ระดับกลาง ที่อาจไม่มีความจำเป็นในการใช้ Apple Watch ให้สัมผัสถึงประสบการณ์ใน Fitness Plus จนอาจต้องการซื้อ Apple Watch เพื่อที่จะได้ประสบการณ์ที่ดีกว่า
แม้ว่าผู้ที่ใช้ iPhone สมัครบริการ Fitness Plus แบบไม่มี Apple Watch จะสามารถเข้าถึงโปรแกรมออกกำลังกาย โปรแกรมการทำสมาธิ ฯลฯ ได้ แต่ผู้ที่ใช้ Apple Watch ด้วยจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า
เพราะหากใช้ iPhone อย่างเดียวจะไม่สามารถติดตามข้อมูลการออกกำลังกายแบบละเอียดได้ จะมีเพียงแค่การแสดงวิดิโอเทรนเนอร์ออกกำลังกาย ระยะเวลา การเผาผลาญแคลอรี่โดยประมาณในหน้าจอ iPhone เท่านั้น
ต้องรอดูว่ากลยุทธ์การแยก Apple Watch ออกจากบริการ Fitness Plus จะสามารถเพิ่มยอดขาย Apple Watch ได้หรือไม่ เพราะในปัจจุบันสมาร์ตวอร์ชดังกล่าวก็ถูกใช้งานโดยราว 30% ของผู้ใช้งาน iPhone อยู่แล้ว