ณ กรุงไทเป, ประเทศไต้หวัน (30 เมษายน 2563)— ASUS ได้ประกาศเปิดตัวเมนบอร์ดในซีรีส์ Z490 ที่จะพร้อมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่บนซีพียู Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 10 โดยในครั้งนี้ทาง ASUS และ Republic of Gamers ได้เพิ่มลูกเล่นและฟีเจอร์เด่น ๆ อัดแน่น เอาใจสายเกมเมอร์ และสายทำงาน หรือแม้กระทั่งสาย O.C. ขาโหด ที่ต้องการปรับจูนประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ของคุณให้สูงขึ้น เพื่อการประมวลผลที่เร็วและแรงกว่าที่คุณเคยสัมผัสมา
หน่วยประมวลผลเจเนอเรชั่นที่ 10 ล่าสุดในครั้งนี้มาพร้อมกับจำนวนเธรดที่มากขึ้น และความเร็ว Single-core ที่แรงขึ้นกว่าเดิม ผสานกับชิปเซ็ต Z490 ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัยอาทิเช่น WiFi 6, USB 3.2 Gen 2, รองรับ RAID และ Optane Memory และพิเศษสุดสำหรับเมนบอร์ดในรุ่น ROG, ROG Strix, Prime Z490-A และ ProArt จะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี OptiMem III ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งจะช่วยสร้างความเสถียรในการรับ-ส่งสัญญาณของหน่วยความจำ ผสานกับเทคโนโลยี AI Overclocking ที่จะช่วยคำนวนความสามารถของระบบโดยรวมและนำมาเพิ่มประสิทธิภาพของซีพียูให้แรงยิ่งขึ้นง่าย ๆ ในคลิ๊กเดียว
ชิปเซ็ต Z490 นั้นไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียวสำหรับซีพียู Intel® Core™ Generation 10 เท่านั้นที่เปิดตัว แน่นอนว่าเราได้ออกแบบรุ่นอื่น ๆ ด้วยทั้ง ASUS และ ROG H470, B460 และ H410 เพื่อตอบสนองกำลังซื้อสำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ ตามกำลังทรัพย์และความต้องการของคุณ คุณสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นเหล่านี้ได้เร็ว ๆนี้ แต่ก่อนสิ่งอื่นใดเรามาดูจุดเด่นในแต่ละรุ่นที่เปิดตัวกันในครั้งนี้ก่อนดีกว่า
ROG Maximus XII Extreme
พี่ใหญ่ตัวท๊อป ที่สุดในสาย พร้อมรองรับการโอเวอร์คล๊อก หรือเกมเมอร์สายโหดที่ต้องการปรับจูนประสิทธิภาพและเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างสูงสุด ด้วยชุดภาคจ่ายไฟระดับพรีเมี่ยมอย่างชุดโช้ค MicroFine Alloy และหัวต่อสายสัญญาณ 8-pin แบบ ProCool ช่วยส่งมอบพลังงานให้กับซีพียูและหน่วยความจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถผ่านการทดสอบการโอเวอร์คล๊อกหน่วยความจำ DDR4 ไปได้สูงถึง 4800 MHz+ บนชุด Kit 4600 MHz, ในส่วนของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในรุ่นนี้มาพร้อมกับ Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.1, พอร์ทเชื่อมต่อ Lan 10Gb และ 2.5Gb, รองรับ M.2 NVMe SSD ได้ถึง 4 ตัว พร้อมซิ้งค์ระบายความร้อน, พอร์ท USB 3.2 Gen 2 Type-C และ Type-A รองรับแบนวิธสูงสุดที่ 10Gbps, การ์ด ThunderboltEX 3-TR จากทาง Intel ซึ่งให้แบนวิธที่สูงถึง 40Gbps ที่รองรับการเชื่อมต่อสูงสุดถึง 6 อุปกรณ์แบบ Daisy-Chain และจ่ายไฟได้สูงสุด 100W สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ Fast-charge
ROG Maximus XII Apex
กลับมาอีกครั้งกับเมนบอร์ดที่พร้อมทำลายสถิติโลกการโอเวอร์คล็อก ด้วยการออกแบบ PCB 6 เลเยอร์ พร้อมชุดภาคจ่ายไฟที่ให้มาถึง 16 เฟส และเทคโนโลยี Optimem III รองรับการโอเวอร์คล็อกด้วยไนโตรเจนเหลว (LN2) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยชุดเชื่อมต่อเซ็นเซอร์อุปกรณ์วัดค่าต่าง ๆ บนตัวเมนบอร์ดได้อย่างละเอียด และสวิทช์ควบคุม เปิด – ปิด, รีเซ็ท, ปุ่ม Safeboot และ Retry พร้อม DIP Switch เพื่อบูทระบบอย่างปลอดภัย พร้อมไฟสถานะ LED แสดงสถานะ POST ช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมที่จะให้คุณได้เป็นที่หนึ่งในการโอเวอร์คล็อกอย่างง่ายดาย
ROG Maximus XII Formula
สูตรสำเร็จของการผสมผสานเทคโนโลยีในการระบายความร้อนแบบไฮบริจด้วยของเหลวผ่านบล็อกน้ำ CrossChill EK III ที่ออกแบบโดยความร่วมมือกับ EK Water Blocks เพื่อช่วยระบายความร้อนให้กับชุด VRM ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแบบปกติทั่วไปหลายเท่าตัว
ควบคุมและตรวจสอบได้ง่ายด้วยจอแสดงผล LED สถานะรหัส POST และปุ่มเปิด-ปิด และ รีเซ็ท บนตัวบอร์ด, รองรับ M.2 NVMe SSD ที่ด้านหน้า 2 ตัว และด้านหลัง 1 ตัว พร้อมซิ้งค์ระบายความร้อน และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย WiFi 6 / Bluetooth 5.1, พอร์ทเชื่อมต่อ Lan 10Gb และ 2.5Gb, พอร์ท USB 3.2 Gen 2 Type-C และ Type-A รองรับแบนวิธสูงสุดที่ 10Gbps, ชุดโปรแกรม AI Cooling, Ai Networking และ GameFirst VI
ROG Maximus XII Hero (Wi-Fi)
เมนบอร์ดขวัญใจมหาชน ที่ต้องการความดุดันในราคาที่จับต้องได้ ให้ประสิทธิภาพโดยรวมได้อย่างสมดุลด้วยเทคโนโลยี Optimem III ,รองรับ M.2 NVMe SSD ที่ด้านหน้า 3 ตัว พร้อมซิ้งค์ระบายความร้อน,เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย WiFi 6 / Bluetooth 5.1, พอร์ทเชื่อมต่อ Lan 5Gb และ 1Gb, พอร์ท USB 3.2 Gen 2 Type-C และ Type-A รองรับแบนวิธสูงสุดที่ 10Gbps, ชุดควบคุมไฟ RGB LED แบบ Addressable Gen 2 ที่สามารถควบคุมหลอดไฟ LED ได้อย่างอิสระ เพิ่มเอฟเฟคได้หลากหลายยิ่งขึ้น
The ROG Strix Z490-E และ Z490-F Gaming
เมนบอร์ดซีรีส์ยอดนิยมในสายเกมมิ่งที่พร้อมจะให้คุณได้สัมผัสการโอเวอร์คล็อกด้วยตนเองง่าย ๆ ด้วยระบบ Ai Overclocking โดยตัวบอร์ดยังดีไซน์ให้เชื่อมโยงชุดระบายความร้อนในส่วนของภาคจ่ายไฟและชิปเซ็ตไปพร้อม ๆ กันและสามารถติดตั้งพัดลมขนาดจิ๋วเพิ่มได้บริเวณซิ้งค์ VRM, บนตัวบอร์ดยังตบแต่งลวดลายกราฟิกสไตล์ cyberpunk ตามแบบฉบับของ ROG ตัดกับอลูมิเนียมรมดำทำให้ดูโดดเด่นสวยงาม
ROG Strix Z490-I Gaming
เมนบอร์ดไซต์เล็กสเปคไม่ธรรดา ด้วยขนาด mini-ITX เอาใจชาว HTPC หรือจะเป็นสาย Portable gaming ก็ยังได้ ถึงแม้จะมีขนาดที่เล็กแต่ก็อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีไม่แพ้รุ่นใหญ่ อาทิ ชุดพัดลมระบายความร้อน VRM, รองรับ M.2 ได้ถึง 2 ตัว พร้อมซิ้งค์ระบายความร้อน, มี USB ที่รองรับได้ถึง 13 พอร์ท, รองรับ WiFi 6 / Bluetooth 5.1 พอร์ทเชื่อมต่อ Lan 2.5Gb
ROG Strix Z490-H Gaming
เมนบอร์ดเกมมิ่งรุ่นประหยัดที่ใส่ฟีเจอร์เด็ด ๆ ไว้เช่นเคย อย่างช่องเสียบการ์ด PCIe ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ASUS SafeSlot เสริมโลหะครอบสลอ๊ตเพื่อรองรับการ์ดจอที่มีน้ำหนักมาก ได้อย่างสบาย ยิ่งไปกว่านั้นตัวบอร์ดยังให้ช่อง M.2 E-key มาให้เผื่อไว้สำหรับใครที่ต้องใส่การ์ด Wi-Fi เพิ่มเองก็สามารถใช้งานได้ทันที และสุดท้ายที่ขาดไปไม่ได้เลยคือช่องสำหรับเสียบสายต่อไฟ LED Strip เพื่อใช้งาน Aura Sync เพื่อซิงค์ไฟ RGB ให้คุณได้ปรับไฟได้อย่างใจต้องการ
ROG Strix Z490-A Gaming
ตามเทรนมาติด ๆ ด้วยการออกแบบภายใต้ธีมสีขาวโดยอิงสเปคภาพรวมพื้นฐานมาจากรุ่น Strix Z490-H โดยมีความแตกต่างเล็กน้อยในส่วนของพอร์ต USB ด้านหลัง และตัวเชื่อมต่อ USB Type-C ที่แผงด้านหน้าเคส
ROG Strix Z490-G Gaming (Wi-Fi)
ด้วยขนาด micro-ATX ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป แต่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติที่ไม่แพ้รุ่นใหญ่ด้วยการออกแบบชุดภาคจ่ายไฟแบบ 12 + 2 ร่วมกับสล็อต DIMM 4 สล็อต, PCIe x16 จำนวน 2 สล๊อต และ x1 จำนวน 1 สล๊อต รองรับการเชื่อมต่อ Lan 2.5 Gb และ WiFi 6 พร้อมรองรับ M.2 NVMe SSD ถึง 2 ช่อง พร้อมซิ้งค์ระบายความร้อน
TUF Gaming Z490-Plus และ TUF Gaming Z490-Plus (Wi-Fi)
ด้วยการออกแบบภายใต้พื้นฐาน “TUF” เราใส่ PCB มาถึง 6 ชั้นเพื่อการระบายความร้อนและประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีขึ้นรวมถึงการออกแบบชุดภาคจ่ายไฟแบบ 12 + 2 ที่ทำงานร่วมกับ DrMOS ตัวเก็บประจุ TUF ที่มีความทนทานต่อความร้อนสูง และเทคโนโลยี ProCool บริเวณชุดเชื่อมสายไฟซีพียู, เสริมความแข็งแรงให้สล๊อต PCIe x16 ด้วย ASUS SafeSlot ด้วยโลหะ พร้อมรองรับการ์ดจอที่มีน้ำหนักมาก เพื่อป้องกันการบิดงอของสล๊อต ,รองรับ M.2 NVMe SSDs 2 ช่องพร้อมซิ้งค์ระบายความร้อน, พอร์ตเชื่อมต่อ Lan 1Gb พร้อม TUF Languard ช่วยป้องกันไฟกระชากผ่านสายแลน พอร์ต USB 3.2 Gen 2 ทั้ง Type-A และ Type-C และ Thunderbolt header ที่พร้อมรองรับการ์ด ThunderboltEX 3-TR
สำหรับรุ่น TUF Gaming Z490-Plus (Wi-Fi) จะมาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย WiFi 6 และ Bluetooth 5.1
ในส่วนของระบบเสียงมาพร้อมกับชิบ Realtek S1200A รองรับ DTS® Custom surround sound virtualization ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น
ถึงจะเป็น TUF แต่ความสวยงามและแสงสีก็ไม่เป็นรองใครด้วยไฟ RGB Aura Sync ที่พร้อมรองรับ ARGB Gen 2 ให้คุณได้ปรับแต่งแสงสีได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ProArt Z490-Creator 10G
ซีรีส์ใหม่ล่าสุดบน Z490 ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับสายทำงานออกแบบมืออาชีพที่ต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่หลากหลาย โดยที่แผง I/O ด้านหลังมาพร้อมกับตัวเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 Type-C จำนวน 2 พอร์ต ที่ควบคุมผ่านคอนโทรลเลอร์ Intel ‘Titan Ridge’ รุ่นล่าสุด ที่สามารถทำงานด้วยความเร็วสูงถึง 40 Gbps รองรับอุปกรณ์ได้สูงสุด 12 อุปกรณ์แบบ Daisy-Chain และยังรองรับสัญญาณวิดีโอ DisplayPort 1.4
เพื่อตอบสนองความต้องการด้านกราฟิกสำหรับนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านกราฟิก ProArt Z490-Creator 10G มีสล็อต PCIe x16 สามช่องที่สามารถติดตั้งกราฟิกการ์ดได้ถึงสามใบแบบ x8-x8-x4
ที่ด้านหลัง I/O ยังมีช่องต่อ USB 3.2 Gen 2 Type-A รองรับความเร็วสูงสุด 10 Gbps และพอร์ต USB 3.2 Gen 1 Type-A สองพอร์ตให้ความเร็วสูงสุด 5 Gbps นอกจากนี้ยังมี Lan 2.5 Gb และการ์ดเสริม PCIE Ethernet 10 Gb เพื่อการเชื่อมต่อที่เร็วและแรงยิ่งขึ้น
ASUS Prime Z490-A
เมนบอร์ดสายทำงานและใช้งานทั่วไป มีการออกแบบชุดภาคจ่ายไฟแบบ 12 + 2 เฟสพร้อมวงจร DrMOS และโครงสร้าง PCB จำนวน 6 ชั้นช่วยให้การระบายความร้อนโดยรวมทำได้ดียิ่งขึ้น, สามารถรองรับหน่วยความจำ DDR 4 4600 MHz สูงสุด 128 GB, ใส่ M.2 NVMe SSD ได้ถึง 2 ช่องที่ความยาวขนาด 22110
พอร์ต Lan 2.5 Gb ให้มาเป็นมาตรฐานและสามารถเสริมด้วยโมดูล WiFi ที่เข้ากันได้กับ CNVi ผ่านช่องเสียบ M.2 E-key และยังมี Header สำหรับรองรับการ์ด ThunderboltEX 3-TR
ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ยังคงไม่ทิ้งสีสันของแสงไฟ RGB Aura Sync โดยในรุ่นนี้ยังรองรับทั้ง RGB และ ARGB Gen 2 ในส่วนของเรื่องระบบเสียงทางเราได้เลือกชิป Realtek S1220A ที่มีอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน 120 dB และรองรับ DTS: X® Ultra สำหรับเสียง 3 มิติที่สมบูรณ์แบบสำหรับเกมและภาพยนตร์
