เปิดตัวมาอีกรุ่นแล้วสำหรับค่าย ASUS ในครั้งนี้เปิดตัวมากับ ASUS vivobook S 15 OLED (K3502) มาเป็นที่เรียบร้อย การออกแบบดีไซน์ค่อยข้างสวยเรียบหรูดูแพง สามารถกางใช้งานได้ถึง 180 องศา พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทุกจุด ทำให้รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบเลย และที่สำคัญเลยมาพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้งานที่โหดขึ้นกว่าเดิมในหลายๆด้าน อีกทั้งแบตเตอรี่ที่ให้มาก็ให้เพิ่มมาอย่างจุกๆถึง 70WHrs ใช้งานยาวๆได้ตลอดทั้งวัน น้ำหนักเบาพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย ใช้งานนอกสถานที่ได้แบบชิลๆ ต้องบอกเลยว่าทางค่ายเปิดตัวรุ่นนี้มาได้แบบปังมาก สเปกการใช้งานที่ต้องยกนิ้วให้เลย ครบจบทุกๆสายการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน เจาะกลุ่มตอบโจทย์ได้ครบจริงๆ

มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 15.6 นิ้ว FHD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 ช่วงครอบคุมสี DCI-P3 color gamut 100% HDR True Black 600 แสดงสีดำได้ดำสนิทมากๆ รองรับค่า PANTONE Validated ที่เป็นค่าสีที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ SGS Eye Care Display ที่จะช่วยถนอนสายตาขณะที่เราใช้งานได้อีกด้วย การดีไซน์สวยหรูแปลกตา พร้อมเทคนิคพิเศษสามารถกางได้ถึง 180 องศา มาพร้อมชิปประมวลผล Intel® Core i5-12500H Processor 2.5 GHz และการ์ดจอ Intel® Iris Xe Graphics บอกเลยว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เร็วแรงโดนใจ จากการทดสอบคะแนนต่างๆเจ้าตัวนี้ทำไดีดีมาก แบตเตอรี่ใหญ่จุใจถึง 70WHrs พร้อมรองรับการชาร์จไว ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อมีมาให้อย่างครบครัน สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ในเรื่องของระบบเสียงก็ทำออกมาได้ดี มีระบบตัดเสียงรบกวนมาให้ โดยรวมแล้วสเปกจัดเต็มมากๆในรุ่นนี้  ที่สำคัญมีราคาที่คุ้มค่ามากๆ ราคาอยู่ที่ 29,990 บาทเท่านั้น

UNBOX

  • ตัวเครื่อง ASUS vivobook S
  • สายชาร์จ + Adabter
  • คู่มือการใช้งาน

DESIGN

ในส่วนของงานออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้ค่อนข้างออกไปในแนวที่เรียบหรูแต่ดูมีอะไรมากๆ มาพร้อมกับสีสันที่หลากหลายให้เราได้เลือก ได้แก่ สี Indie Black, Brave Green และ Neutral Grey ที่แต่ละสีนั้นมีความสวยที่โดดเด่นไม่ยอมกันเลย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวกันเลย ในส่วนของฝาหลังในรุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่มีการสลักนูนเพิ่มลูกเล่นเข้ามาให้ดูมีความเท่ขึ้นจากรุ่นก่อนๆ ดูแปลกตาดีแอดชอบ ถือไปไหนก็มั่นใจ ขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่องมีความสมส่วนเหมาะสมกันดี โดยมีขนาดอยู่ที่ 35.98 x 23.29 x 1.89 ซม. น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.80 กก.(รวมแบตเตอรี่) ยังคงอยู่ในระดับที่เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อยู่ 

หน้าจอในรุ่นนี้เป็นแบบ OLED ขนาดอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD (1920 x 1080) อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:9 ความแม่นยำของสีสวยคมชัดมากๆ จะสังเกตเห็นได้ว่าขอบของหน้าจอจะมีความบางมากๆ ทำให้เราใช้งานหน้าจอได้อย่างเต็มพื้นที่เลย จะมีเพียงขอบด้านล่างเท่านั้นที่มีความหนากว่าขอบด้านอื่นๆเพียงเล็กน้อย ในส่วนของขอบด้านล่างนั้นจะมีการสลักชื่อรุ่นเอาไว้ด้วยอักษรสีตัดกับเครื่องแบบเด่นๆเลย และขอบจอด้านบนจะมีการฝังกล้องเอาไว้ให้เราได้ใช้งานด้วย

ฝาหลังในรุ่นนี้มีเป็นลักษณะพื้นผิวด้าน สามารถป้องกันลายนิ้วมือได้ดีในระดับนึงเลยนะ สีพื้นผิวเนียนเรียบน่าสัมผัสมาก การสลักชื่อค่ายในรุ่นนี้ดีไซน์ออกแบบมาได้แปลกตาน่าสนใจดี โดยการนั้นพื้นผิวนูนขึ้นมาจากฝาหลัง พร้อมสลักชื่อค่ายชื่อรุ่นเอาไว้แบบเท่ๆ และมีการตกแต่งลวดลายขีดๆให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย การดีไซน์ในรุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ตรงกับสเปกที่ให้มาเลยนะ เพราะดูเท่โฉบเฉียวเร็วแรงเรียบหรูครบจบในเครื่องเดียวเลย

ในส่วนของตัวฐานเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็นในส่วนของช่องระบายความร้อนที่มีให้มาด้วยกัน 2 แถบใหญ่ๆ ในรุ่นนี้สามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้ตัวเครื่องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา ด้านบนของช่องระบายความร้อนจะมีแถบนูนที่เป็นฐานรองไม่ให้พื้นเครื่องติดกับพื้นที่เราไปวาง ช่วงลดปัญหาความร้อนสูงหรือเครื่องร้อนได้เป็นอย่างดีเลยแหละ รวมไปถึงมุมด้านล่างของทั้ง 2 ฝั่ง จะเป็นในส่วนของลำโพงคู่ที่มีมาให้ ระบบเสียงทำได้ดี เสียงแน่นๆ  พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่ทำให้เพิ่มอรรถรสในการใช้งานด้วย

ในส่วนสุดท้ายจะเป็นในส่วนของกล้องหน้าที่มีมาให้ใช้งาน ความคมชัดระดับ 720p เลยนะ ฝังอยู่แบบเนียนๆบริเวณขอบหน้าจอด้านบน สามารถสไลด์เปิด/ปิดกล้องได้ด้วยตนเองอีกด้วย ในเรื่องของการดีไซน์ภาพรวมในรุ่นนี้โอเคดีมากเลย ลงตัวในทุกๆจุด

SPEC

  • หน้าจอ OLED ขนาด 15.6 นิ้ว FHD (1920 x 1080), อัตราส่วน 16:9, DCI-P3 color gamut 100%, HDR True Black 600, PANTONE Validated, SGS Eye Care Display
  • Intel® Core i5-12500H Processor 2.5 GHz
  • Intel® Iris Xe Graphics
  • Windows 11 Home
  • RAM 8GB DDR4 on board + 8GB DDR4 SO-DIMM
  • 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ 1x USB 2.0 Type-A, 1x USB 3.2 Gen 1 Type-A, 2x Thunderbolt 4 Support display/power delivery, 1x HDMI 2.0b, 1x 3.5mm Combo Audio Jack
  • แบตเตอรี่ 70WHrs, 3SIP, 3-cell Li-ion
  • กางได้ 180 องศา มี Fingerprint สแกนลายนิ้วมือ
  • ลำโพง Harman kardon พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน AI noise cancellation
  • Wi-Fi 6E(802.11ax) + Bluetooth 5.2 (Dual band) 2*2
  • 720p HD Camera
  • ขนาดตัวเครื่อง: 35.98 x 23.29 x 1.89 ซม. น้ำหนักตัวเครื่อง: 1.80 กก.(รวมแบตเตอรี่)

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพการใช้งานของเจ้าตัวนี้มาพร้อมกับการใช้งาน Intel® Core i5-12500H Processor 2.5 GHz และการ์ดจอ Intel® Iris Xe Graphics มาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 on board + 8GB DDR4 SO-DIMM และหน่วยเก็บข้อมูลขนาด 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD ในตัวนี้ใช้งาน Windows 11 Home เรียกได้ว่าประสิทธิภาพการใช้งานนั้นเร็วแรงขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ตอบโจทย์ในทุกๆการทำงานได้อย่างแน่นอน สเปกให้มาค่อนข้างลงตัว การประมวลผลต่างๆไวใช้ได้เลย

PC MARK

ในเรื่องของคะแนน PC MARK นั้นเจ้าตัวนี้คะแนนอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจมากๆ จากที่เราได้ทำการทดสอบคะแนนประสิทธิภาพขั้นพื้นฐาน โดยคะแนน PC MARK สามารถทำคะแนนไปได้อยู่ที่ 5838 คะแนน ถือว่าค่อนข้างสูงเลยนะ แน่นอนว่าสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน Microsoft ต่างๆ การออกแบบดีไซน์ ตัดต่อ สามารถทำได้แบบชิลๆเลยแหละ พื้นที่รองรับเหลือๆ

CINEBENCH

ในส่วนคะแนนที่วัด CPU นั้นเราได้ทำการวัดในตัว R15 ในรุ่นนี้สามารถทำคะแนนออกมาได้สูงถึง 2050cb และในคะแนนของตัว R23 ที่กลับมาพร้อมกับความโหดกว่าเดิมนั้นทำคะแนนไปได้ 12443 คะแนน เช่นเดิมว่าการทดสอบวัดค่าต่างๆนั้นเราทำในอุณหภูมิที่ปกติ ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์เลย ซึ่งการที่ได้คะแนนสูงขนาดนี้ถือว่าน่ากระทับใจมาก สเปกการใช้งานโหดเอาเรื่องเลย และในส่วนของคะแนนการอ่านนั้นทำไปได้ 3714 คะแนน ส่วนการเขียนทำไปได้ที่ 3379 คะแนน จากทดสอบการอ่านการเขียนนั้นถือว่าแรงใช้ได้เลย ตอบสนองได้เป็นอย่างดี ครบจบในรุ่นเดียวจริงๆ

SCREEN

ทางด้านของหน้าจอในรุ่นนี้นั้นให้มาเป็นหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่จุใจถึง 15.6 นิ้ว ขอบหน้าจอบางมาก สามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างเต็มพื้นที่เลยแหละ ความละเอียดระดับ FHD (1920 x 1080) อัตราส่วนของหน้าจออยู่ที่  16:9 มีค่า DCI-P3 color gamut 100% รวมไปถึง HDR True Black 600 และ PANTONE Validated ให้สีสันที่สวยคมชัด แบบปังๆ เพิ่มอรรถรสในการใช้งานได้ดีมากๆ สีสันโดดเด่นโดนใจ อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมี SGS Eye Care Display ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าที่ทำร้ายดวงตาของเราอีกด้วย ทำให้เราสามารถใช้งานได้ยาวๆแบบไม่อันตรายต่อดวงตาเลย ทั้งสเปกโหดและคำนึงถึงสุขภาพสายตาของผู้บริโภคอีกด้วย ในส่วนนี้ทางค่ายทำออกมาได้กินใจสุดๆไปเลย

จากที่แอดได้ลองใช้งานมาในระยะเวลานึง ส่วนตัวแล้วแอดชอบในเรื่องของหน้าจอมากๆ ค่อนข้างโดดเด่นเลยในรุ่นนี้ มีค่า DCI-P3 100% ที่เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในวงการภาพยนตร์เลย มีระบบ Pantone validated ที่เป็นระบบสีที่น่าเชื่อถือที่สุดในบรรดาสายงานพวกกราฟิก ออกแบบเลย ซึ่งแน่นอนว่าสีสันจะต้องสวย คมชัด เหมือนจริงมากๆ อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมีระดับ contrast 1,000,000:1 ที่ให้สีที่ดำสนิท สมจริงขั้นสุด เรียกได้ว่าภาพรวมของหน้าจอในรุ่นนี้เพอร์เฟคมากๆ ครบจบแบบจุใจ

KEYBOARD

ทางด้านของคีย์บอร์ดในรุ่นนี้นั้นบอกเลยว่าใช้งานง่าย สะดวกสบายมากๆ การวางระยะห่างต่างๆทำได้ดีมากเช่นเดิม การออกแบบดีไซน์ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนมากนัก การวางระยะองศาสามารถพิมพ์ได้แบบไม่เมื่อยมือ การกดก็เด้งสู้นิ้วได้ดี การดีไซน์ปุ่มกดมาพร้อมกับพื้นหลังสีดำตัดกับตัวอักษรที่เป็นสีขาว ทำให้ตัวอักษรนั้นโดดเด่นอย่างชัดเจน มาพร้อมกับไฟที่เข้ามาช่วยให้คีย์บอร์ดน่าใช้งานยิ่งขึ้น ลูกเล่นเด่นๆสำหรับตัวแป้นพิมพ์คงจะเป็นในส่วนของปุ่ม Enter ที่ตกแต่งด้วยลวดลายให้ดูเก๋ขึ้นมา รวมถึง TouchPad ที่พื้นที่ใหญ่กำลังพอดีมือ ใช้งานง่าย สำหรับใครที่เป็นสาวกค่าย ASUS อยู่แล้วก็สามารถใช้งานได้อย่างชิลๆเลย

CONNECTOR

ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อในตัวนี้ให้มาได้อย่างครบจบ รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายเลย เรียงกันอย่างเป็นระเบียบทั้งฝั่งซ้ายขวา โดยพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้เรามาใช้งานจะมีเป็น  USB 2.0 Type-A 1 ช่อง  USB 3.2 Gen 1 Type-A 1 ช่อง ตามมาด้วย Thunderbolt 4 Support display/power delivery อีก 2 ช่อง รูเสียบสาย HDMI 2.0b 1 ช่อง และรูหูฟัง 3.5mm Combo Audio Jack อีก 1 ช่อง เรียกได้ว่าทางค่ายให้พอร์ตเชื่อมต่อมาได้เยอะมากๆ ตอบโจทย์เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ทุกการใช้งานเลย

ASUS VIVOBOOK

” ดีไซน์สวยโดนใจ มีมาให้เลือกหลายสีสัน สเปกที่โหดกว่าเดิม พร้อมราคาที่คุ้มค่า “

โดยรวมแล้วสำหรับเจ้า ASUS vivobook S นั้นค่อนข้างพัฒนาออกมาได้เป็นอย่างดีในด้านของประสิทธิภาพการทำงานที่เร็ว แรง โหดแบบจัดเต็มมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ในทุกๆการใช้งาน เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์เลย ซึ่งหาได้ยากมากๆสำหรับโน้ตบุ๊กที่ตอบโจทย์ครบครันแบบนี้ รวมไปถึงการดีไซน์ที่เรียบหรูดูแพง มีมาให้เลือกหลากหลายสีสันตามความชอบ ที่เด่นๆในรุ่นนี้เลยก็คือประสิทธิภาพการทำงานของหน้าจอที่จัดเต็มมากๆ สีสวยแม่นยำเกินราคา พร้อมฟีเจอร์ปกป้องดวงตาของเราอีกด้วย หน้าจอสามารถกางได้ถึง 180 องศา ทำให้เราใช้งานได้หลายรูปแบบยิ่งขึ้น ตามมาด้วยในรุ่นนี้ให้ความจุแบตมาได้อย่างจุใจมากๆ พร้อมรองรับชาร์จไวที่ใช้งานได้ยาวๆตลอดทั้งวัน การเชื่อมต่อก็ครบครัน ให้มาแบบครบจบในตัวเดียวจริงๆ ระบบเสียงต่างๆก็ทำออกมาได้เป็นที่น่าพอใจมากๆ มีการตัดเสียงรบกวนได้ดี เพิ่มอรรถรสในการใช้งานไปในตัวเลยแหละ เรียกได้ว่าสเปกถูกใจที่มาพร้อมกับราคาสบายกระเป๋า อย่างงี้แล้วใครไม่ตำถือว่าพลาด

ข้อดี

  • หน้าจอใหญ่จุใจ
  • สีหน้าจอสวย คมชัด สีแม่นยำ มีมาตราฐานรองรับน่าเชื่อถือ
  • กางได้ถึง 180 องศา ใช้งานได้อย่างหลากหลาย
  • ประสิทธิภาพเร็วแรงมากขึ้น
  • ความจุแบตสูง แบตอึดทนนาน
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน
  • ระบบเสียงทำได้ดี

ข้อสังเกต

  • น้ำหนักมีความหนักกว่ารุ่นก่อนๆ อาจจะเป็นปัญหาในการพกพา

สำหรับรีวิวนี้พวกเราก็ต้องขอตัวลาไปก่อน สำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกเรารีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Ning

Comments กันได้เลย !