[ REVIEW ] Asus Zenfone 3 Deluxe สมาร์ทโฟนดีไซน์ไร้รอยต่อพร้อมสเปคสุดโหดที่คอเกมส์ทั้งหลายไม่ควรพลาด !

สวัสดีครับเพื่อนๆชาว TechHangOut ทุกๆท่านสำหรับวันนี้ผมจะมาทำการรีวิวอีกเช่นเคย แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าสมาร์ทโฟนที่ผมรีวิวนั้น เป็นสมาร์ทโฟนที่เรียกได้ว่าสเปคนี้โหดที่สุดเเล้วสำหรับสมาร์ทโฟนเครื่องศูนย์ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย แต่ราคาแอบแรงไปนิดแต่หลังจากที่ผมได้ลองเเล้วนั้น ผมบอกได้เลยว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน เเละรีวิวนี้นั้นก่อนผม Maxmoreji จะขอมารีวิวสมาร์ทโฟนอย่างรุ่น Asus Zenfone 3 Deluxe ที่ผมบอกว่ามันคุ้มค่านั้นมันคุ้มค่าอย่างไร และ บอกไว้เลยว่าสำหรับรุ่่นนี้นั้นสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมส์ไม่ควรพลาด !!

เริ่มเปิดกล่องอุปกรณ์ภายในกล่อง

อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง

• หัวชาร์จแบบ 2 A ( สีขาว )
• หูฟังแบบ InEar ( ZenEar )  แบบขนาด M
• จุกอย่างแบบ 2 ขนาด S และ L
• ตัวเครื่อง
• สายชาร์จ แบบ Usb Type – C  ( สีขาว ) 
• คู่มืออยู่ในเล่มสีดำ พร้อมอีมี่
• เข็มจิ้มซิม  

รายละเอียดตัวเครื่อง : ASUS ZENFONE 3 DELUXE 

ตัวเครื่องด้านหน้า : มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.7 Super AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) นิ้วความละเอียดอยู่ที่ FHD มาพร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 4 

สำหรับตัวเครื่องด้านหน้าด้านบน : มาพร้อมลำโพงสนทนา ไฟเเจ้งเตือน LED เซ็นเซอร์วัดระยะ เซ็นเซอร์วัดแสง พร้อมกล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซลและมีรูรับแสงกว้างอยู่ที่ F/2.0

สำหรับตัวเครื่องด้านหน้าด้านล่าง : มาพร้อมปุ่ม ซอฟต์คีย์ หรือแถบการใช้งาน 3 ปุ่มหลัก ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ , โฮม , Recent Apps และรุ่นนี้ยังมาพร้อมไฟ Backlit อีกมันจะขึ้นทุกครั้งเวลากดใช้งานสามปุ่มนี้ถ้าไม่่ใช้งานไฟก็จะหายไป

สำหรับตัวเครื่องด้านขวา : จะมีปุ่มพาวเวอร์ ที่แยกออกมาจากปุ่ม เพิ่มเสียง,ลดเสียง

สำหรับตัวเครื่องด้านช้าย : จะมีช่องสำหรับใส่ซิมแบบไฮบริดซิม ถ้าเลือกใช้งานสองซิมจะไม่สามารถเพิ่มเม้มได้ 

สำหรับตัวเครื่องด้านบน : มาพร้อมช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม มีชิพเสียงพลังขับแบบ Hi-Res 24 Bit / 192Khz 

สำหรับตัวเครื่องด้านล่าง : นั้นก็จะมาพร้อมรูไมโครโฟนสำหรับเอาไว้พูดคุยสนทนา และ ช่องเสียบเสียบสาย USB แบบ Type C ที่สามารถเสียบชาร์ได้ทั้งสองฝั่งทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้นในการชาร์อีกทั้งในรุ่นนี้ยังรองรับชาร์ไว 3.0 อีกด้วยและยังมาพร้อมลำโพงคู่เเม่เหล็กถึง 5 ตัวที่ช่วยในการขับเสียงให้ออกมาดีอีกด้วย

สำหรับตัวเครื่องด้านหลังของเครื่อง : จะมาพร้อมกลัองหลังความละเอียดอยู่ที่ 23 ล้านพิกเซลที่นูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อยมาพร้อมเชนเซอร์กล้อง Sony IMX 318 พร้อมไฟแฟลชคู่ LED เเละตัวกล้องจะมีความกว้างของรูรับแสงอยู่ที่ F/2.0 สำหรับตัวกล้องนั้นจะใช้ตัวกล้องแบบ 6 ชิ้นเลนส์ อีกทั้งยังมีเชนเซอร์อย่าง Laser focus ที่ใช้เวลาการจับภาพของวัสถุเพียง 0.03 วินาทีด้วยระบบที่เรียกว่า Tri-Tech Autofocus ทั้งยังมาพร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวอย่าง Ois แบบ 4 แกน และมาพร้อมโหมดการถ่ายภาพแบบ Super Resolution และ ยังมาพร้อมเชนเซอร์ลายนิ้วมือที่สามารถจำลายนิ้วมือได้ถึง 5 นิ้ว และ มีเลนส์กล้องนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย

ส่วนดีไซน์ของรุ่นนี้มาพร้อมบอดี้อลูมิเนียมอัลลอยและ ASUS ได้ใช้เทคโนโลยี Precision-Milled ในการผลิตแบบ Diamond-Cutting ที่บางเพียง 0.14 มม และเป็นบอดี้เพียงหนึ่งชิ้นไร้เส้นเสาอากาศและยังมาพร้อมโลโก้ ASUS มาเพิ่มความสวยงามของด้านหลังตัวเครื่อง 

ผลทดสอบคะแนน ANTUTU

ผลทดสอบ CPU – Z

ผลทดสอบการใช้งาน GPS 

หลังจากที่ผมได้ทำการทดสอบนั้นสำหรับในรุ่นนี้ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ที่เป็นเรือธงมีความแม่นยำและใช้งานได้แบบสบายใจ เรียกได้ว่าผ่านเลยครับช่่วงที่ใช้งาน GPS นั้นตัวเครื่องไม่ร้อนมากหายห่วงครับ อีกทั้งตัวเครื่องยังมาพร้อมเชนเซอร์วงแหวนไม่ว่าจะหมุนไปทางไหน ? เชนเซอร์ตัวนี้ก็หมุนตามเรา สำหรับคนที่เดินทางปล่อยและต้องใช้งานเจ้า GPS ไม่ต้องห่วงเลยครับ 

ทดสอบใช้งานในการเล่นเกมส์

หลังจากที่ได้เล่นเกมส์ต่างๆเเล้วสำหรับในรุ่นนี้หายห่วงไปได้เลยความมีภาพที่ลื่นไหล และมีกราฟฟิคเกมส์ที่ดีมากๆไม่ว่าจะเกมส์ออนไลน์หรือไม่ออนไลน์ ในรุ่นนี้เอาอยู่เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่คนชอบเล่นเกมส์ไม่ควรพลาดครับเพราะแรม 6 GB ของรุ่นนี้นั้นเรียกได้ว่ามันเหลือใช้งานจริง ๆ 

อีกทั้งในขนาดที่เราเล่นเกมส์ ASUS ก็ยังมีระบบ  Game Tool bar ตัวช่วยในการเล่นเกมส์เร่งความเร็วตัวเครื่องให้เร็วขึ้น

หรือไม่ว่าเราจะทำการอัดเกมส์เพื่อเก็บไว้ดูหรือทำการสตรีมเกมส์สดๆผ่านทางช่องทาง

Youtube หรือ ทวิตเตอร์เราก็สามารถทำได้

ทดสอบเกมส์ต่าง ๆ

 หน้าตา Ui และ ฟังก์ชัน 

หน้าโฮมล็อก : ก็มีอะไรที่เหมือน Asus ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ สิ่งที่เราจะเห็นเป็นอันดับแรกก็คือหน้าเมนูจอหน้าจอเพื่อทำการ Swipe up to unlock หรือทำการกวาดนิ้วขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่เมนูหน้าจอหลักนั้นเองหรือมีปุ่มเมนูลัดต่างๆเพียงแค่ลากนิ้วไปที่รูปไอคอนง่ายๆเท่านั้น

หน้าตา Ui : สำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อม Ui อย่าง Zenui 3.0 และ Android 6.0 รูปแบบ Ui ก็ยังคงความเรียบง่ายในแบบฉบับของ Zenfone

แถบการใช้งานลัด ,Notifications :ถ้าหากเราทำการรูดหน้าจอลงมาหนึ่งครั้งก็จะเห็นแท็บของการเเจ้งเตือนบน ( Notifications ) ในการเเจ้งเตือนของแอพต่างๆและถ้าเราทำการรูดลงมาอีกทีก็จะเห็นแถบเมนูการใช้งานในการเปิดปิดปุ่มทางลัดของฟังก์ชันต่างๆตามรูปด้านบนเลยนะครับเเต่ที่ผมชอบคือโหมดป้องกันแสงสีฟ้านี้เเละเวลากปิดไฟเล่นไม่ค่อยปวดตา 

จัดการหน้าจอโฮม : แต่เมื่อเราทำการกดหน้าจอค้างเอาไว้ก็จะแสดงตัวเลือกจัดการหน้าโฮม ที่มีเมนูให้เราเลือกแก้ไขหรือเลือกเปลี่ยนแปลงแก้ไข ธีม,ไอคอน,วอลเปเปอร์ หรือเมนูต่างๆตามภาพ

หน้า All Apps , วิดเจ็ต : แต่ถ้าเราทำการกดเข้าไปในปุ่มของหน้า All Apps เราก็จะเห็นแอพต่างๆที่เราทำการโหลดเอาไว้บนตัวเครื่องและก็ยังมีหน้าวิดเจ็ตทั้งหมดที่เราสามารถเลือกใช้เป็นทางลัดได้อีกด้วย

คลังธีม : แต่สำหรับคนที่ชอบในการตกเเต่ง ธีมหรือไอคอนบนสมาร์ทโฟน Asus เขาก็มีคลังธีมสำหรับโหลดธีมสวยๆหรือไอคอนสวยๆทั้งในแบบฟรีและก็ทั้งในแบบเสียเงินมาให้เราได้โหลดกันอีกด้วยและเราก็ยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบของฟ้อนตัวหนังสือเพิ่มเติมได้ใน playstore

ลูกเล่นฝาปิด Asus : สำหรับรุ่นนี้ก็จะไม่มีลูกเล่นฝาพับเหมือนรุ่นก่อนๆหน้านี้มีเพียงแค่ให้เราปรับการเปิดการทำงาน,และปลดล็อคเท่านัั้น

ไฟฉาย,เครื่องคิดเลข : แอพไฟฉายเราก็ยังสามารถเลือกใช้ได้อย่างสบายพร้อมกับปุ่ม SoS สำหรับการเปิดไฟขอความช่วยเหลือและสำหรับหน้าตาของเครื่องคิดเลขก็จะเหมือนในรุ่นก่อนๆแต่ความพิเศษของเครื่องคิดเลขใน Zenfone สามารถกด .12345+= เพื่อกดทดสอบหรือเช็คตัวเครื่องตอนที่เราซื้อได้ด้วย

โหมดง่าย : เป็นอีกฟังก์ชันที่ไม่พูดถึงไม่ได้ด้วยในการใช้งานที่มีไอคอนและตัวหนังสือขนาดใหญ่จึงจำเป็นมากๆสำหรับคนที่มีปัญหาทางด้านสายตาอีกทั้งยังใช้ง่าย

ฟังก์ชันลายนิ้วมือ : สำหรับรุ่นนี้นั้นได้เพิ่มความสามารถในการใช้งานลายนิ้วมือในการปลดล็อกอุปกรณ์โทรศัพท์และ Asus ก็ยังใส่ความสามารถอื่นๆมาให้อีกอย่างเช่น แตะสองครั้งบนเชนเซอร์สแกนนิ้วเพื่อเปิดกล้อง , แตะค้างไว้เพื่อรับสาย ,แตะเพื่อถ่ายภาพ , แตะเพื่อใช้ลายนิ้วปลดล็อกหน้าจอ อีกทั้งเรายังสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือเลยทีเดียว

ฟังก์ชัน ZenMotion (เจสเจอร์สัมผัส) : สำหรับฟังก์ชันนี้เป็นอีกฟังก์ชันที่ทำให้เราสามารถใช้งานบนตัวเครื่องได้สะดวกมากยิ่งขึ้นโดยที่เราไม่จำเป็นต้องพึงปุ่ม Power ของตัวเครื่องอีกต่อไปมันยังช่วยเซิฟปุ่ม Power ของเราแค่เรา เคาะสองครั้งที่หน้าจอเพื่อทำการเปิด,ปิด เเละเราก็ยังสามารถวาดตัวอักษรในตอนที่มือถือทำการปิดหน้าจอเพื่อเขาแอพต่างๆที่เราได้ทำการบันทึกไว้ได้เลยโดยมีตัวอักษรหกตัวได้แก่ W,S,E,C,Z,V โดยไม่ต้องทำการเปิดตัวเครื่องๆ ดูตัวอย่างตามรูปด้านล่างครับ

ดูสิมันสะดวกมากๆเลยใช่ไหมหละ

ฟังก์ชัน ZenMotion (เจสเจอร์เคลื่อนที่) : ก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่สำคัญและทำให้เราใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นไม่ต่างจากการเคาะหน้าจอเพื่อเปิดสำหรับโหมดนี้จะเน้นการใช้งานแบบพลิกมือถือเพื่อปิดเสียงเงียบในช่วงที่เราประชุมหรือยกมือถือแนบหูเพื่อทำการรับสายได้เลยโดยไม่ต้องรูดรับ ดูตัวอย่างตามรูปด้านล่างเลยครับ

 ยกมือถือแนบหูเพื่อรับสาย

สำหรับมีสายเรียกเข้าถ้าเราพลิกอุปกรณ์ก็จะทำให้มือถือของเราเงียบทันที

ในเวลาที่เราฟังเพลงถ้าเราทำการพลิกมือถือตัวเครื่องมันก็จะทำการพักเพลงที่เล่นให้เราทันทีสะดวกมากเลยใช่ไหมหละ

ฟังก์ชัน ZenMotion (โหมดมือเดียว ) : สำหรับฟังก์ชันนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ขับรถถือของเยอะๆไม่สะดวกในการใช้งานมือเดียวหรือในรุ่นที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ไปมันก็จะสามารถทำการย่อส่วนของหน้าจอการใช้งานให้เราสามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้ ตัวอย่างตามรูปด้านล่าง

อีกทั้งเรายังสามารถปรับขนาดในการใช้งานมือเดียวได้อีกด้วยเเต่ถ้าเรากดติกที่ทริกเกอร์ด่วนเเล้วถ้าเรากดปุ่มโฮมสองครั้งมันก็จะย่อหน้าให้เราทันที

APP ASUS ตัวจัดการมือถือ : เป็นอีกหนึ่งแอพที่ดีมากๆโดยเราไม่ต้องไปโหลดแอพเครียแรมต่างๆ ให้เสียเวลาเราสามารถจัดการทุกอย่างได้ในแอพเดียว

APP ASUS ตัดช่วยสร้างเสียง : เป็นอีกหนึ่งแอพที่ไม่ควรพลาดในแอพนี้เราสามารถปรับแต่งเสียงต่างๆ โดยไม่ต้องไปโหลดเเอพมาให้เสียเวลาเลย 

APP ASUS MY ASUS  : เป็นอีกหนึ่งแอพที่ไม่ควรพลาดเพราะเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยให้คำแนะนำ ไม่เข้าใจหรือมีปัญหาอะไรสามารถแชทคุยออนไลน์ได้เลย หรือ จะเป็นเรื่องศูนย์ซ่อมหรือนัดช่างก่อนซ่อมก็ทำได้ รวมถึงตรวจเช็คสถานะของสินค้าที่ส่งไปที่ศูนย์ของ ASUS ได้อีกด้วยอีกทั้งยังสามารถตรวจสอบศูนย์ใกล้บ้านเราได้อีกด้วยนะครับ และ สามารถส่งเมลร้องเรียนต่างๆได้โดยตรงในแอพนี้เรียกได้ว่าดีมากๆครับ

ประสิทธิภาพในเรื่องของการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 

กล้องหลังของรุ่นนี้นั้นจะมาพร้อมความละเอียด 23 ล้านพิกเชลใช้เชนเซอร์กล้องอย่าง Sony IMX 318 มีค่า F/2.0 มีระบบ OIS แบบ 4 แกนและ EIS แบบ 3 แกนสามารถอัดวีดีโอในระดับ 4K ได้โหมดถ่ายวีดีโอ TimeLapse , Slowmotion และโหมดปรับความคมชัดของภาพถ่ายอย่าง Super Resolution และยังมีลูกเล่นให้เราได้เลิอกใช้งานสูง 20 โหมดเลยทีเดียว

โหมด  Manual 

สำหรับโหมดนี้เรียกได้ว่าเอาใจได้คนที่ชอบถ่ายรูปโดยเฉพาะก็สำหรับโหมดนี้ก็จะมีลูกเล่นทั้งหมดมาให้เราปรับถึง 5 ลูกเล่นได้แก่การปรับค่า MF,S,ISO,EV,WB

MF ( ช่วยในการโฟกัสเอาหน้าชัดหลังเบลอ )

สำหรับ MF จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดภาพเวลาที่เราต้องการโฟกัสหน้าเบลอหลังชัดหรือหน้าชัดหลังเบลอนั้นเอง

โหมด S

สำหรับโหมดนี้มันเป็นอีกโหมดที่สำคัญมากๆสำหรับคนที่ชอบถ่าบรูปสำหรับรุ่นนี้นั้นเราก็ยังสามารถเปิดสปีดชัตเตอร์ได้สูงถึง 32 วิ และ สโลชัตเตอร์ได้ถึง 1/50000 เลยทีเดียวสำหรับโหมดนี้มีเอาไว้สำหรับเอาไว้ลากท้ายไฟรถวิ่งที่วิ่งในช่วงกลางคืนหรือหยุดหยดน้ำนั้นเอง

โหมด ISO

สำหรับโหมด ISO ก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักในการถ่ายรูปเช่นกันสำหรับโหมดนี้เราสามารถปรับ ISO ต่ำสุดได้ถึง 50 และสูงสุด 3200 เลยทีเดียวครับ

โหมด EV

สำหรับโหมดนี้ก็มีเอาไว้ช่วยในการปรับแสงให้ดูสว่างขึ้นหรือช่วยในการลดเเสงในดูมืดลงให้เหมาะสมกับสภาพเเสงที่เรากำลังจะถ่ายสามารถปรับได้ตั้งเเต่ -2 ถึง +2

โหมด WB

สำหรับโหมดนี้จะเป็นการปรับสีที่เราสามารถเลือกปรับได้ตามที่เราต้องการนั้นเอง

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

โหมดความละเอียดพิเศษ

ซูม 400 %

ภาพขาวดำ

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืน

ตัวอย่างกล้องหน้า

สเปคของ :  Zenfone 3 Deluxe

รุ่น	zenfone 3 Deluxe
แสดงภาพ	FHD AMOLED , จอแสดงผล IPS 24-bit (16 ล้านสี) ระบบสัมผัส Multi-Touch กว้าง 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล Corning Gorilla Glass Capacitive
หน่วยประมวลผล	Snapdragon 820 Qual-core 2.15 Ghz  GPU Adreno 530
แรม	6 GB
หน่วยความจำภายใน	64 GB Upto 2,000 GB
ซอฟต์แวร์	Android 6.0 ทับ ZENUI 3.0
กล้องหลัง	23 MP เชนเซอร์ SONY IMX318รูรับแสงขนาด ƒ/2.0 พร้อมแฟลช Dual LED โฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus) แตะเลือกจุดโฟกัส (Touch Focus) ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection) ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (Shake Reduction) โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama) โหมดถ่ายภาพช่วงการรับแสงสูง (HDR)
กล้องหน้า	8 MP f/2.0
เชนเซอร์ต่าง ๆ	ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ  ตรวจจับแสงปรับความสว่า อัตโนมัติ  ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา  ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ  ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ
แบตเตอรี่	3,000 mAh,
อื่น ๆ	WiFi 802.11ac , Bluetooth 4.2, USB – C 3.0 , GPS, FM Radio , MP3 , NFC , รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม 4G/3G , ชิพเสียง Hi-Res 24 BIT
ราคา / สี	22,990บาท มีสองสี ทอง , เงิน

ข้อสังเกตุข้อเสีย

1. ถ่ายกลางคืนไม่ค่อยสวยเเต่อยู่ในระดับพอใช้ได้เพราะค่า F น้อยเกินจึงทำให้ภาพออกมาไม่ดี
2. ตัวเครื่องร้อนนิดๆเวลาใช้งาน
3. แบตเตอร์รี่หมดเร็วไปนิดคงเป็นเพราะแรม 6 GB
4. เครื่องลื่นต้องใส่เคส

ข้อสังเกตุข้อดี

1. กล้องสวยถ่ายกลางวันสวยโฟกัสไว โหมดวีดีโอทำได้ดี
2. ดีไซต์สวย พกสะดวก ตัวเครื่องดูหรู
3. ลำโพงเสียงดี ไม่เบามาก และ ไม่ดังมาก
4. รอมลื่นอาจจะหน่วงๆบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่หน้าเกลียด
5. สเปคดีเล่นเกมส์มัน
6. หน้าจอสวย ตัวเครื่องบางพกสะดวก 

---

ก็จบไปเเล้วนะครับสำหรับอีกหนึ่งรีวิวจากทางเว็ปไซต์ของเราเเต่ถ้าผิดพลาดอย่างไร ผมก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยและความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองใช้ในรุ่นนี้ ถือว่าทาง ASUS ได้ทำออกมาดีอาจจะราคาเเรงไปนิดเเต่เทียบกับสเปคแล้วถือว่ารับได้ครับ และก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่คนชอบเล่นเกมส์ห้ามพลาดเด็ดคาก ในครั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณทาง ASUS THAILAND ที่กรุณาให้เครื่องดีๆ มาให้พวกเราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วย สำหรับรีวิวรุ่นหน้านั้นผมจะมารีวิวรุ่นอะไรเรามารอดูกันเลย แต่ผมบอกไว้ก่อนว่ายังคงเเบรนด์ ASUS อีกเช่นเคยเเละยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าอีกอย่างเเน่นอน และถ้าชอบรีวิวของผมก็อย่าลืมกดไลน์และกดเเชร์แฟนเพจของพวกเราด้วยนะครับ : )

รีวิวโดย : Maxmoreji | เครื่องรีวิว : Asus thailand