สวัสดีครับเพื่อนๆชาว TechHangOut ทุกๆท่านพบกับรีวิวจากพวกเราอีกเช่นเคย สำหรับรีวิวนี้ผมได้สมาร์ทโฟนกล้องหลังเลนส์คู่รุ่นใหม่จากล่าสุดของแบรนด์สัญชาติไต้หวันที่คิดว่ากำลังจะนำมาจำหน่ายๆในบ้านเราเร็วๆนี้ เเต่อาจจะเปิดตัวนานเเล้วเเละมีกำหนดวางขายช้าไปนิดเเต่ผมต้องเเจ้งก่อนเลยว่า ความสามารถของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คุ้มค่ากับการรอคอยของเพื่อนๆอย่างแน่นอน โดยในรุ่นนี้หลายๆคนอาจจะมองว่ามีจุดเด่นเเค่ในเรื่องของกล้องหลังเลนส์คู่หรอ เพราะหลายๆแบรนด์ก็เปิดตัวเเละว่างจำหน่ายไปนานเเล้ว ไม่เห็นจำเป็นจะต้องรอเลย จริงๆเเล้วความคิดนี้ก่อนอื่นเลยตอนที่ทีมงานยังไม่ได้เครื่องมารีวิวก็มีความคิดแบบนี้เช่นเดียวกัน เเต่พอหลังได้ลองใช้งานจริงๆแบบหนักๆจริงๆเรียกได้ว่าเป็นเครื่องหลักเเทนเครื่องที่มีอยู่ไปเเล้วก็ได้ และ มันลบเหตุผลทั้งหมดของคำว่ามีแค่กล้องเลนส์คู่หรอ หลังจากที่เราได้ใช้งานจริงๆไปเลยเอาเป็นว่าเรามีดูกันดีกว่าว่า Asus Zenfone Zoom S นอกจากกล้องหลังเลนส์คู่เเล้วมันจะมีอะไรเด่นๆบ้าง ? มาชมกันเลยจร้าาาาา
UNBOX !!
อุปกรณ์ในกล่อง
- ตัวเครื่อง
- คู่มือ / เข็มจิ่มซิม
- สายชาร์จ TYPE C ( สีขาว )
- หัวชาร์จไฟ 2 A
- หูฟัง Ear bud ธรรมดา
- สาย USB OTG ( ถ้าเอาเข้าใจง่ายๆก็ไว้สำหรับเชื่อมต่อ แฟลชไดร์ฟ และ เเชร์แบตเตอร์รี่ ) หรือถ้าเป็นภาษาเมืองนอกก็ Reverse Charging
DESIGN เรื่องของการดีไซน์รุ่นนี้จะมาพร้อมกับบอดี้ที่เป็นโลหะมีความสวยงามเเละความหรูหราพร้อมกับความเรียบง่ายและลงตัว เเต่หลังจากที่ได้จับ ความรู้สึกเเรกคือเรื่องของการเก็บงานเเละงานประกอบถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร การใช้งานไม่ว่าจะจับหรือถือหรือใช้งานมือเดียวถือว่าไม่ใหญ่จนเกินไป เเต่ต้องบอกก่อนเลยว่าความรู้สึกเเรกที่ได้จับไม่ว่าตำแหน่งของกล้องคู่อาจจะเหมือนกับหลายๆค่าย เเต่ส่วนตัวผมว่ามันก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานดูสวยเเละดูดีถือเเละไม่อายใครจริงๆ
ตัวเครื่องด้านหน้า : มากับหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED มาพร้อมความละเอียดแบบ FHD 1920×1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ทับด้วยกระจกกันรอยแบบ 2.5 D มีขอบจอบาง หน้าจอได้ภาพสีที่สวยสดพอสมควร ( ผมว่าเเฟน Zenfone ถ้าได้เห็นหน้าจอรุ่นนี้ต้องชอบแน่ๆ ) ในรุ่นนี้มาพร้อมกับค่าความหนาแน่นของพิกเซลเม็ดสีอยู่ที่ 400 กว่า PPI มีพื้นที่หน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 76.5 % บนพื้นที่หน้าจอทั้งหมดบนตัวเครื่องด้านหน้า อีกทั้งตัวเครื่องยังมีระบบโหมดตัดเเสงสีฟ้าบนหน้าจอแสดงผลอีกด้วย และหน้าจอยังรองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชสูงสุดถึง 10 จุดเลยทีเดียว
สำหรับตัวเครื่องด้านหน้าด้านบน : มาพร้อมลำโพงฟังเสียงสนทนามีไฟเเจ้ง เตือน LED อยู่มุมซ้าย มาพร้อมเช็นเซอร์การใช้งานต่างๆและ กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเชนเซอร์ Sony IMX 214 มีขนาด 1/3.06 นิ้ว มีจุดพิกเซล 1.12um และรูรับแสง f/2.0 มาพร้อมโหมด Beautification ที่เเยกในส่วนของการเเต่งภาพเซลฟี่ต่างๆเช่นโหมด ทำตาโต , หน้าเรียว , แก้มอมชมพู หรือจะบิ้วตี้หน้าใสก็สามารถปรับได้สูงสุดถึง 10 ระดับ
สำหรับตัวเครื่องด้านหน้าด้านล่าง : มาพร้อมปุ่ม ซอฟต์คีย์ หรือแถบการใช้งาน 3 ปุ่มหลักที่อยู่ภายนอกของหน้าจอแสดงผล ได้แก่ มีปุ่ม ย้อนกลับ ( ด้านซ้าย ) ปุ่มโฮม ( ตรงกลาง ) , ปุ่ม Recent Apps ( ด้านขวา ) เเต่น่าเสียดายเพราะรุ่นนี้จะไม่มีไฟเเจ้งสถานะบนปุ่มซอฟต์คีย์ใช้งานตอนกลางคืนอาจจะเเลดูลำบากไปนิดกดผิดกดถูกอยู่บ่อยๆครับ
สำหรับตัวเครื่องด้านขวา : จะมีปุ่มพาวเวอร์ ที่แยกออกมาจากปุ่ม เพิ่มเสียง,ลดเสียง และ ในรุ่นนี้นั้นเราสามารถกด ปุ่มเพิ่มเสียง + พาวเวอร์ เพื่อการบันทึกหน้าจอได้ ตัวปุ่มใช้งานจะมีความแน่นเรียกได้ว่ามันอาจจะเป็นรายละเอียดเล็กๆของใครบางคนแต่ ASUS ก็ยังเก็บงานมาได้ดี ตรงปุ่มยังมาพร้อมขอบสแตนเลสสีเงินเพิ่มความสวยงามให้กับตัวเครื่องพอสมควร
สำหรับตัวเครื่องด้านช้าย : จะมีช่องสำหรับใส่ซิมแบบสองซิม Hybrid ขนาด Nano Sim ทั้งสองซิม
และ สำหรับบางคนหน่วยความจำอาจจะยังไม่พอ ก็สามารถเพิ่มในส่วนของ MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 2TB เลยครับ
สำหรับตัวเครื่องด้านบน : เป็นส่วนของไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
สำหรับตัวเครื่องด้านล่าง : ช่องเสียบสายแบบพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลางสำหรับการชาร์แบตเตอร์รี่ และ ข้างๆทางด้านขวาจะเป็นในส่วนของลำโพง เเละ รูไมโครโฟนจะอยู่ด้านซ้ายของพอร์ต USB Type-C เเละซ้ายมือสุดก็จะเป็นในส่วนรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม
สำหรับตัวเครื่องด้านหลัง : ด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมกล้องคู่ตัวเเรกมาพร้อมความละเอียด 12 ล้านพิกเซลรูรับแสง f/1.7 เป็นเลนส์มุมกว้าง 82 องศา มีพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน เซ็นเซอร์ SONY IMX362 เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55 นิ้ว ส่วนกล้องตัวสองจะเป็นเทเล 59 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสง f/2.6 กล้องตัวที่สองจะเป็นตัวซูมภาพแบบออปติคอลที่สามารถซูมได้ 2.3 เท่า เเละ สุดสุด 12 เท่าเมื่อเราซูมภาพผ่านซอฟต์แวร์ ASUS PixelMaster 3.0
ตัวเครื่องจะเป็นบอดี้โลหะเเละในส่วนขนาดตัวเครื่อง ZenFone Zoom S จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 170 กรัม มีความหนา 7.99 มิลลิเมตร และด้านหลังจะมีคำว่า ASUS สลักไว้อีกด้วยครับและมีเชนเซอร์นิ้วมืออยู่ตรงกลางของตัวเครื่องเเละสามารถสแกนได้ไว้พอสมควร
คุณภาพจอเเสดงผล
Zenfone Zoom S เรื่องของหน้าจอแสดงผลรุ่นนี้อย่างที่ทราบกันดีมาพร้อมหน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด FHD เเละยังมีความสว่างมากถึง 500 Nits โดยรวมเเล้วหลังจากทางทดสอบกลางแดดจอสามารถสูงเเสงแดดได้พอสมควรอยู่ในระดับที่โอเคเเต่อาจจะยังไม่ถึงที่สุดเเต่โดยรวมก็มองเห็นครับ เรื่องของสีจอทำออกมาได้สดคนที่เน้นจอสีสดรุ่นนี้คุณต้องชอบเเน่นอน
คุณภาพของเสียง
Zenfone Zoom S คุณภาพของเสียงที่ผ่านหูฟังอยู่ในเกณที่รับได้ครับมีเสียงที่กลางๆไม่เด่นทางด้านไหนด้านหนึ่งเเต่ทาง ASUS Zenfone Zoom S ก็ได้ใส่ในส่วนของชิปเสียง DTS Headphone X ที่เพิ่มคุณภาพเสียงมากขึ้นอีกทั้งยังสามารถไปปรับในส่วนของ Equalizer ที่ติดมากับตัวเครื่องที่เอาไว้สำหรับคนที่ชอบเสียงแบบไหนก็สามารถเข้าไปปรับโทนเสียงได้ตามต้องการได้เลยและรุ่นนี้ยังรองรับระบบเสียงแบบ Hi-Res Audio อีกด้วยครับ
Zenfone Zoom S ในส่วนของเสียงผ่านลำโพงรุ่นนี้ในสเปคจะมาพร้อมลำโพงเเม่เหล็ก 5 ชิ้นมีเสียงที่ดังพอสมควรเเต่จะเน้นโทนเสียงออกเเหลมๆซ่าๆมิติเสียงอยู่ในระดับกลางๆ แต่ได้ความดังเข้ามาช่วย ถ้าเทียบกับตัว Zenfone 3 ที่เคยรีวิวก่อนหน้านี้ถือว่ารุ่นนี้ทำออกมาได้ดีกว่าเล็กน้อยครับ เพราะมีเสียงที่ดังกว่า และ อีกอย่างคือรุ่นนี้เราก็สามารถกดปุ่มเพิ่มเสียง 1 ครั้งเเละเปิดโหมดกลางเเจ้งเพื่อเพิ่มความดังของเสียงและมิติเสียงที่ดีมากขึ้นครับ
ระบบ GPS
Zenfone Zoom S เรื่องของการจับ GPS ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคผมลองใช้แผนที่ของ Google Maps และ ขึ้นไปบนรถไฟฟ้าที่ออกตัวตลอดเวลาซึ่งในรุ่นนี้ทำออกมาได้ดีมีความเเม่นยำอยู่ในระดับที่รับได้เลยครับ
ทดสอบใช้งานในการเล่นเกมส์
เรื่องเล่นเกมส์รุ่นนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีครับเเต่ถ้าคนที่หาสมาร์ทโฟนที่เปิดกราฟฟิคเกมส์แบบสุดจริงๆรุ่นนี้ถือว่ายังไม่ตอบโจทย์เพื่อนๆอย่างแน่นอนครับ แต่ถ้าใครที่หาเล่นเกมส์เเบบกลางๆกราฟฟิคเกมส์ไหลลื่นเล่นได้นานเเละเครื่องไมาร้อนมากรุ่นนี้ตอบโจทย์เพื่อนๆอย่างแน่นอน ต้องบอกก่อนเลยว่าหลังจากทีี่ผมได้เครื่องนี้มาเกมส์ L2 Revolution
ก็เปิดเกมส์มาพอดีเเละผมก็ได้ทดสอบเล่นเกมส์นี้ผลที่ได้คือในรุ่นนี้สามารถเล่นเกมส์นี้ได้อย่างไหลลื่นเเละก็สามารถเปิดกราฟฟิคเกมส์ได้สูงสุดเเละไม่กระตุก อีกทั้งเเบตเตอร์รี่ 5,000 mAh ของรุ่นนี้ผมสามารถบอทเกมส์ไว้นานๆโดยที่ไม่ต้องกลัวแบตหมดเลย เเละในอีกหลายๆเกมส์ที่ผมทดสอบก็เล่นได้ลื่นเช่นกันครับเรื่องความร้อนก็ไม่ต้องกลัวมันอาจจะร้อนเเค่เวลาชาร์จเเละเล่นไปด้วยงับ
และรุ่นนี้เราก็สามารถจะบันทึกเป็นคลิปวีดีโอเวลาเล่นเกมส์ได้อีกเช่นเคยครับ โดยโปรแกรมที่มีชื่อว่า Game Tool bar ซึงเป็นตัวช่วยในการเล่นเกมส์เร่งความเร็วตัวเครื่องให้เร็วขึ้น
หรือไม่ว่าเราจะทำการอัดเกมส์เพื่อเก็บไว้ดูหรือส่งให้เพื่อนเจ้าโปรแกรมนี้ก็สามารถทำการสตรีมเกมส์สดๆผ่านทางช่องทาง Youtube หรือ ทวิตเตอร์ เราก็สามารถทำได้ ( แต่เสียดายเรื่องความละเอียดที่น้อยไปหน่อย )
ทดสอบเกมส์ต่าง ๆ
Battery
Zenfone Zoom S ผมบอกได้เลยว่าเป็นสมาร์ทโฟนหนึ่งรุ่นที่เพื่อนๆจะลืมพาวเวอร์แบงค์ไปเลยครับ เเละจะขอเล่าให้ฟังยาวๆหน่อยผมว่าเพื่อนๆคงจะหลงรักมันมากๆ กับการใช้งานที่สามารถอยู่ได้ทั้งวันหรือเกือบถึงสองวันเลยถ้าเล่นเเค่ตอบแชทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Line , Facebook , IG หรือดู Youtube ในส่วนที่ผมทดลองบอกได้เลยว่าสบายๆครับถ้าใช้งานเเค่นี้ แต่ถ้าในส่วนของคนที่จะเอาไปเล่นเกมส์หรือบอทเกมส์ผมบอกได้เลยว่ารุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคุณแน่นอน ผมเป็นคนที่ชอบเล่นเกมส์บนสมาร์ทโฟนมากๆเเละได้มีโอกาศนำเจ้ารุ่นนี้มาโหลดเล่นเกมส์ใหม่มาเเรงอย่าง Lineage 2 Revolution และลองปล่อยบอทภายในเกมส์โดยเปิดไฟหน้าจอแสดงผลแบบสุดๆและกราฟฟิคภายในเกมส์แบบสุดๆ ผลที่ออกมาก็คือสามารถเล่นเกมส์ได้ต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 5 – 6 ชั่วโมง เเละยังเหลือแบตเตอร์รี่เอาไว้ใช้ถึงกลับบ้านประมาณ 20 % แบตเตอร์รี่ 5,000 mAh สุดยอดจริงๆครับ เเละใช้เวลาชาร์จเเบตเตอร์รี่อยู่ที่ 2 ชั่วโมง 30 นาทีตั้งเเต่ 1% – 100% ครับ
สเปค Asus Zenfone Zoom S (ZE553KL)
- หน้าจอแสดงผล : AMOLED ขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล กระจก Corning Gorilla Glass 5
- CPU Snapdragon 625 CPU Octa-core 2.0GHz
- GPU Adreno 506
- RAM 4 GB
- ROM 64 GB
- MicroSD Card สูงสุด 2TB
- กล้องถ่ายรูปหลักคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ตัวแรก ระยะโฟกัส 25 มิลลิเมตร รูรับแสง f/1.7 เซ็นเซอร์ Sony IMX362 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.55 นิ้ว จุดพิกเซล 1.4um มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 82 องศา ส่วนเลนส์ตัวที่สองระยะโฟกัส 59 มิลลิเมตร ซูมปกติได้ 12 เท่า และออปติคอล 2.3 เท่า พร้อมระบบจับโฟกัสด้วย TriTech+ และมีไฟแฟลช รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K และ FullHD 60 fps
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX214 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.06 นิ้ว จุดพิกเซล 1.12um มีไฟแฟลชแบบ Screen Flash และ ซอฟต์แวร์ปรับหน้าสวย รองรับการบันทึกวิดีโอ FullHD
- ระบบปฏิบัติการ 6.0 Marshmallow ครอบทับ ZEN UI 3.0
- รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด (Nano SIM) แบบ Hybrid
- รองรับการเชื่อมต่อ 3G, 4G, 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, GPS, A-GPS, Glonass, Bluetooth 4.2 , USB Type – C, USB OTG
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
ผลทดสอบประสิทธิภาพ / เชนเซอร์
ประสิทธิภาพในการทำงาน
สำหรับคุณสมบัติตัวเครื่องของ Asus Zenfone Zoom S จะมาพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core 64 Bit Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 ชิพขนาด 14 nm มีความเร็วประมวลผล 2.0 GHz ,ชิปเซ็ตประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 506 , หน่วยความจำแรม (RAM) 4GB ,หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง (ROM) 64 GB และยังรองรับหน่วยความจำเพิ่มเติม MicroSD ได้สูงสุด 2 TB และยังทำงานในระบบ Android 6.0 และ Zenui 3.0 และยังรองรับ Android 7.0 ในอนาคตอีกด้วยครับ
หน้าตา Ui และ ฟังก์ชัน
หน้าโฮมล็อก : สิ่งที่เราจะเห็นเป็นอันดับแรกก็คือหน้าเมนูจอหน้าจอเพื่อทำการ Swipe up to unlock หรือทำการกวาดนิ้วขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่เมนูหน้าจอหลักนั้นเอง
หน้าตา Ui : สำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อม Ui อย่าง Zenui 3.0 และ Android 6.0 รูปแบบ Ui ก็ยังคงความเรียบง่ายในแบบฉบับของ Zenfone
แถบการใช้งานลัด ,Notifications : ถ้าหากเราทำการรูดหน้าจอลงมาหนึ่งครั้งก็จะเห็นแท็บของการเเจ้งเตือนบน ( Notifications ) ในการเเจ้งเตือนของแอพต่างๆและถ้าเราทำการรูดลงมาอีกทีก็จะเห็นแถบเมนูการใช้งานในการเปิดปิดปุ่มทางลัดของฟังก์ชันต่างๆเช่น โหมดถนอมสายตา , ใช้งานมือเดียว , เครื่องคิดเลข , Wifi , Mobile Data เป็นต้น จัดการหน้าจอโฮม : แต่เมื่อเราทำการกดหน้าจอค้างเอาไว้ก็จะแสดงตัวเลือกจัดการหน้าโฮม ที่มีเมนูให้เราเลือกแก้ไขหรือเลือกเปลี่ยนแปลงแก้ไข ธีม,ไอคอน,วอลเปเปอร์ หรือเมนูต่างๆตามภาพ
หน้า All Apps , วิดเจ็ต : แต่ถ้าเราทำการกดเข้าไปในปุ่มของหน้า All Apps เราก็จะเห็นแอพต่างๆที่เราทำการโหลดเอาไว้บนตัวเครื่องและก็ยังมีหน้าวิดเจ็ตทั้งหมดที่เราสามารถเลือกใช้เป็นทางลัดได้อีกด้วย
คลังธีม : แต่สำหรับคนที่ชอบในการตกเเต่ง ธีมหรือไอคอนบนสมาร์ทโฟน Asus เขาก็มีคลังธีมสำหรับโหลดธีมสวยๆหรือไอคอนสวยๆทั้งในแบบฟรีและก็ทั้งในแบบเสียเงินมาให้เราได้โหลดกันอีกด้วยและเราก็ยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบของฟ้อนตัวหนังสือเพิ่มเติมได้ใน playstore
ไฟฉาย,เครื่องคิดเลข : แอพไฟฉายเราก็ยังสามารถเลือกใช้ได้อย่างสบายพร้อมกับปุ่ม SoS สำหรับการเปิดไฟขอความช่วยเหลือและสำหรับหน้าตาของเครื่องคิดเลขก็จะเหมือนในรุ่นก่อนๆแต่ความพิเศษของเครื่องคิดเลขใน Zenfone สามารถกด .12345+= เพื่อกดทดสอบหรือเช็คตัวเครื่องตอนที่เราซื้อได้ด้วย
โหมดง่าย : เป็นอีกฟังก์ชันที่ไม่พูดถึงไม่ได้ด้วยในการใช้งานที่มีไอคอนและตัวหนังสือขนาดใหญ่จึงจำเป็นมากๆสำหรับคนที่มีปัญหาทางด้านสายตาอีกทั้งยังใช้ง่าย
ฟังก์ชันลายนิ้วมือ : สำหรับรุ่นนี้นั้นได้เพิ่มความสามารถในการใช้งานลายนิ้วมือในการปลดล็อกอุปกรณ์โทรศัพท์และ Asus ก็ยังใส่ความสามารถอื่นๆมาให้อีกอย่างเช่น แตะสองครั้งบนเชนเซอร์สแกนนิ้วเพื่อเปิดกล้อง , แตะค้างไว้เพื่อรับสาย ,แตะเพื่อถ่ายภาพ , แตะเพื่อใช้ลายนิ้วปลดล็อกหน้าจอ อีกทั้งเรายังสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือเลยทีเดียว
ฟังก์ชัน ZenMotion (เจสเจอร์สัมผัส) : สำหรับฟังก์ชันนี้เป็นอีกฟังก์ชันที่ทำให้เราสามารถใช้งานบนตัวเครื่องได้สะดวกมากยิ่งขึ้นโดยที่เราไม่จำเป็นต้องพึงปุ่ม Power ของตัวเครื่องอีกต่อไปมันยังช่วยเซิฟปุ่ม Power ของเราแค่เรา เคาะสองครั้งที่หน้าจอเพื่อทำการเปิด,ปิด เเละเราก็ยังสามารถวาดตัวอักษรในตอนที่มือถือทำการปิดหน้าจอเพื่อเขาแอพต่างๆที่เราได้ทำการบันทึกไว้ได้เลยโดยมีตัวอักษรหกตัวได้แก่ W,S,E,C,Z,V โดยไม่ต้องทำการเปิดตัวเครื่องๆ ดูตัวอย่างตามรูปด้านล่างครับ
ดูสิมันสะดวกมากๆเลยใช่ไหมหละ
ฟังก์ชัน ZenMotion (เจสเจอร์เคลื่อนที่) : ก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่สำคัญและทำให้เราใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นไม่ต่างจากการเคาะหน้าจอเพื่อเปิดสำหรับโหมดนี้จะเน้นการใช้งานแบบพลิกมือถือเพื่อปิดเสียงเงียบในช่วงที่เราประชุมหรือยกมือถือแนบหูเพื่อทำการรับสายได้เลยโดยไม่ต้องรูดรับ ดูตัวอย่างตามรูปด้านล่างเลยครับ
ยกมือถือแนบหูเพื่อรับสาย
สำหรับมีสายเรียกเข้าถ้าเราพลิกอุปกรณ์ก็จะทำให้มือถือของเราเงียบทันที
ในเวลาที่เราฟังเพลงถ้าเราทำการพลิกมือถือตัวเครื่องมันก็จะทำการพักเพลงที่เล่นให้เราทันทีสะดวกมากเลยใช่ไหมหละ
ฟังก์ชัน ZenMotion (โหมดมือเดียว ) : สำหรับฟังก์ชันนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ขับรถถือของเยอะๆไม่สะดวกในการใช้งานมือเดียวหรือในรุ่นที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ไปมันก็จะสามารถทำการย่อส่วนของหน้าจอการใช้งานให้เราสามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้ ตัวอย่างตามรูปด้านล่าง
พื้นที่จัดเก็บภายใน : สำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อมความจำเครื่อง สูงถึง 64 GB และสามารถเพิ่มความจำภายนอกอย่าง MicroSD ได้สูงสุดถึง 2 TB และมันเหลือใช้ทั้งหมดประมาณ 56 GB
Asus ตัวจัดการมือถือ : เป็นแอพที่สำคัญมากๆเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการ การใช้งานบนมือถือของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ แบตเตอร์รี่ , ความเร็วตัวเครื่อง , ตัวช่วยในการล้างค่าแคลชต่างๆ คือเราไม่ต้องไปโหลดโปรแกรมมาเพิ่มใน Playstore ให้นักเครื่องอีกเลย
Asus AudioWizard : สำหรับแอพนี้เป็นแอพที่เอาไว้สำหรับปรับเเต่งค่าเสียงต่างๆเหมาะสำหรับคนที่ชอบปรับเสียงอย่างเสียง เบส ไม่ว่าจะเป็นเสียงในการเล่นเกมส์หรือเสียงในตอนที่เราดูหนังเราก็สามารถเข้ามาปรับได้ในแอพนี้เลย รุ่นนี้ยังคงมีวิทยุ FM อยู่นะครับ
APP ASUS MY ASUS : เป็นอีกหนึ่งแอพที่ไม่ควรพลาดเพราะเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยให้คำแนะนำ ไม่เข้าใจหรือมีปัญหาอะไรสามารถแชทคุยออนไลน์ได้เลย หรือ จะเป็นเรื่องศูนย์ซ่อมหรือนัดช่างก่อนซ่อมก็ทำได้ รวมถึงตรวจเช็คสถานะของสินค้าที่ส่งไปที่ศูนย์ของ ASUS ที่มีศูนย์บริการทั้งหมด 48 สาขาทั่วประเทศ ได้อีกด้วยอีกทั้งยังสามารถตรวจสอบศูนย์ใกล้บ้านเราได้อีกด้วยนะครับ และ สามารถส่งเมลร้องเรียนต่างๆได้โดยตรงในแอพนี้เรียกได้ว่าดีมากๆครับ
โหมดเด็ก : โหมดนี้เป็นอีกหนึ่งโหมดการรักษาความปลอดภัยสำหรับเวลาน้องๆที่บ้านมาจับเล่นโทรศัพย์เป็นการล็อคจัดการเข้าถึงอุปกรณ์ของเรา เพื่อเข้ากำหนดการเล่นแอพต่่างๆของเราได้ด้วย เอาง่ายๆครับเอาไว้ไม่ให้เด็กเล่นเกมส์นั้นเอง
Asus Zenfit : เป็นแอพสำหรับคนที่ชอบการออกกำลังกายโดยตรงเลยไม่ว่าจะเป็น นับก้าว , หัวใจเต้น และจะมีกราฟบอกด้วยว่าเเต่ละวันเราเดินกี่ก้าวเผ่เเคลอรี่ไปเท่าไร
คุณภาพกล้องหลัง
เรื่องกล้องของรุ่นนี้หรือรูปแบบกลางใช้งานของรุ่นนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า มีการปรับเปลี่ยนหน้าตารูปแบบของการใช้งานของกล้องต่างจาก Zenfone 3 5.5 ที่พวกเราเคยรีวิวมา และ ในส่วนของรายละเอียดต่างๆของรุ่นนี้ในส่วนของกล้องคงจะต้องคุยกันอีกยาว ก่อนอื่นเลยต้องมาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีระบบออโต้โฟกัส ASUS TriTech+ ซึ่งถ้าใน Asus Zenfone 3 จะเป็นเเค่ระบบ ASUS TriTech โดย TriTech+ จะมีการเพิ่มระบบ Dual Pixel PDAF แบบใหม่ล่าสุด ( ออโต้โฟกัสแบบ Phase Detection ) ที่ใช้เทคโนโลยีที่เดียวกล้องถ่ายภาพ DSLR โดยการทำงานจะสามารถโฟกัสภาพอัตโนมัติได้เร็วยิ่งขึ้นเพียง 0.03 วินาทีในทุกสภาพแสง
ซึ่ง Asus Zenfone Zoom S อาจจะมาพร้อมกับกล้องหลังเลนส์คู่จริงๆแต่รุ่นนี้ไม่ได้เน้นไปทางการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอเหมือนกับสมาร์ทโฟนบางค่าย ที่ออกมาก่อนแต่ในรุ่นนี้หลังจากทีมงานได้เอาไปลองใช้งานเเละลองถ่ายภาพดูกันสักพัก กล้องหลังเลนส์คู่ของรุ่นนี้จะเน้นใช้งานไปทางการซูมภาพโดยมากกว่าเเละภาพที่ได้จะไม่เสียรายละเอียดมากถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ในรุ่นนี้จะมีการทำงานของก็ทั้งสองตัวที่จะเเตกต่างกัน โดยกล้องตัวเเรกเป็นเลนส์มุมกว้าง 82 องศา 25 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสง f/1.7 เเละ กล้องตัวที่สองจะเป็นเลนส์แบบเทเล 25 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสง f/2.6 โดยการซูมจะเป็นการใช้งานผ่าน PixelMaster 3.0 ของ Asus ทำให้เวลาเราใช้งานจะเป็นการซูมแบบออปติคอล หรือ มันเป็นการซูมจริงๆผ่านเลนส์กล้องโดยไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ โดยระบบจะมีให้เรากดตั้งเเต่ 1.0 เท่า , 2.3 เท่า , 5 เท่า หรือ จนถึง 12 เท่า โดยการจีบนิ้วเข้าเเละออก แต่ในส่วนของกล้องหลังเลนส์การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอก็สามารถทำได้เช่นกันโดยเข้าไปที่โหมด ระยะชัดลึกเเละชัดตื้น แต่ส่วนตัวผมว่าไม่เท่าไรคงต้องรออัพเดท อีกทั้งยังสามารถถ่ายวีดีโอในระดับ 4K และ วีดีโอแบบ FHD แบบ 60 fps ได้อีกด้วยครับ
หน้าตาโหมดกล้อง
ซูม 2.3x
ซูม 5.0x
ซูม 12.0x
หน้าตาโหมดโปร สำหรับโหมดนี้เรียกได้ว่าเอาใจได้คนที่ชอบถ่ายรูปโดยเฉพาะก็สำหรับโหมดนี้ก็จะมีลูกเล่นทั้งหมดมาให้เราปรับถึง 5 ลูกเล่นได้แก่การปรับค่า MF,S,ISO,EV,WB ตรง AUTO จะเป็นการซูมภาพนะครับ
AF(Auto Fous)/ MF(Manual Focus) ( ช่วยในการโฟกัสเอาหน้าชัดหลังเบลอ )สำหรับ AF จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดภาพเวลาที่เราต้องการโฟกัสหน้าเบลอหลังชัดหรือหน้าชัดหลังเบลอนั้นเอง
S (Speed Shutter) [สปีดชัตเตอร์ สโลซัตเตอร์] สำหรับโหมดนี้มันเป็นอีกโหมดที่สำคัญมากๆสำหรับคนที่ชอบถ่าบรูปสำหรับรุ่นนี้นั้นเราก็ยังสามารถเปิดสปีดชัตเตอร์ได้สูงถึง 32 วิ และ สโลชัตเตอร์ได้ถึง 1/16000 เลยทีเดียวสำหรับโหมดนี้มีเอาไว้สำหรับเอาไว้ลากท้ายไฟรถวิ่งที่วิ่งในช่วงกลางคืนหรือหยุดหยดน้ำนั้นเอง
f/2.6 ปรับ S.1/125 , ISO 50
ISO สำหรับโหมด ISO ก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักในการถ่ายรูปเช่นกันสำหรับโหมดนี้เราสามารถปรับ ISO ต่ำสุดได้ถึง 50 และสูงสุด 12800 เลยทีเดียวครับ
EV [ชดเชยเเสง สว่าง + มืด ] สำหรับโหมดนี้ก็มีเอาไว้ช่วยในการปรับแสงให้ดูสว่างขึ้นหรือช่วยในการลดเเสงในดูมืดลงให้เหมาะสมกับสภาพเเสงที่เรากำลังจะถ่ายสามารถปรับได้ตั้งเเต่ -2 ถึง +2
WB [ไวท์บาลานซ์สี]สำหรับโหมดนี้จะเป็นการปรับสีที่เราสามารถเลือกปรับได้ตามที่เราต้องการนั้นเอง
โหมดตัวช่วยต่างๆ
ตัวอย่างภาพ
AUTO / HDR
HDR
ตัวอย่างการถ่ายวีดีโอ
คุณภาพกล้องหน้า
เรื่องของกล้องรุ่นนี้จะ มาพร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX214 ความละเอียดภาพ 13 ล้านพิกเซลมาพร้อมรูรับแสง f/2.0 สำหรับกล้องหน้าของเจ้ารุ่นนี้ก็ยังจัดโหมดในการถ่ายรูปมาถือว่าไม่น้อยเหมือนเช่นเคย ครับและได้มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาเล็กน้อย มีโหมดต่างๆให้ได้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเซลฟี่อีกทั้งเราก็ยังสามารถวีดีโอในโหมด TimeLapse และ Slowmotion ด้วยกล้องหน้าได้อีกด้วยนี้มันสุดยอดมากๆเลยอีกทั้งยังมีโหมดการถ่ายรูปแบบ HDR ที่ช่วยในการถ่ายย้อนแสงอีกด้วย เเละ มีในส่วนของเซลฟี่พาโนรามามาอีกด้วย
อีกทั้งกล้องหน้าก็ยังสามารถถ่ายโหมดบิวตี้ที่สามารถเพิ่มความเนียนของใบหน้าได้สูงสุดถึงระดับ 10 และยังมีการเเบ่งโหมดต่างๆให้เลือกปรับไม่ว่าจะทำตาโต , หน้าเนียน , ปรับโทนสีบนเเก้ม ปรับหน้าเรียวขึ้นเป็นต้น
ข้อสังเกตุข้อเสีย
- สเปคเหมือนตัวก่อน
- โหมดชัดตื้นชัดลึกยังทำออกมาได้ไม่ดี
- ราคาสูงไปถ้าเน้นสเปค
- ถ่ายกลางคืนภาพฟุ้งไปนิด
- กล้องเวลาเราซูมแบบ 12 เท่าภาพจะสั่นต้องมือนิ่งๆถึงจะออกมาชัด
- กล้องเวลาถ่ายวีดีโอแบบ 4K ยังทำออกมาได้ไม่ดี
ข้อสังเกตุข้อดี
- แบตเตอร์รี่อึดมากๆๆ
- ดีไซต์สวย บาง น้ำหนักเบา
- เล่นเกมส์ลื่นในระดับกลาง
- หน้าจอสวยสีสด
- กล้องคู่ซูมเทพมากและมีโหมดกล้องให้ปรับเยอะ
- ถ่ายวีดีโอ WB ออกมาดี สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียด FHD แบบ 60 fps ได้
- กล้องหน้าสวยกว่ารุ่นก่อนอย่าง Zenfone 3
- ลำโพงเสียงดังขึ้นมีมิติมากขึ้น
ก็จบไปเเล้วนะครับสำหรับรีวิวในรุ่นนี้ที่ผมเอามาฝากเเต่ถ้ามีภาษาที่ผิดพลาด ผมต้องขออภัยด้วยนะครับและสำหรับรีวิวนี้ผมก็ขอฝากเพื่อนๆด้วยนะครับ เอาไว้เป็นอีกหนึ่งรุ่นในการเลือกเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเเล้วกันนะครับ สำหรับรีวิวนี้ผมต้องขอลาไปก่อนพบกันรีวิวหน้าถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลค์กดเเชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราทำรีวิวใหม่ๆต่อไปด้วยนะงับสำหรับครั้งนี้ขอบคุณ และ สวัสดีครับบ
ฝากกดไลค์ กดติดตาม เพจเราด้วยนะครับ — TECHHANGOUT
By : Maxmoreji