Asus ได้เปิดตัว Zenfone 6 ด้วยดีไซน์ที่มีเป้าหมายให้ผู้ใช้งานได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งบริษัทก็ทำออกมาได้ดีมากๆในราคา 500 ยูโร(ประมาณ17,800บาท) ถือว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างสวนทางกับเรือธงแบรนด์อื่นๆที่มีราคาที่สูงขึ้น แต่ Asus กลับไม่ขึ้นราคาเรือธงตัวใหม่นี้เลย

ซึ่งมันจะมีหน้าจอ 6.4 นิ้วที่ไม่มีทั้งติ่งทั้งรูสำหรับกล้องหน้าเลย ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น แต่การที่ไม่มีกล้องหน้าก็ถูกทดแทนด้วยกล้องหลังคู่ที่หมุนได้ ที่ประกอบด้วยตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล Sony IMX586 (0.9ไมโครเมตร พิกเซล, รูรับแสง f/1.8) และอีกตัวที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลแบบเลนส์กว้าง 125° ultra-wide

และตัวกล้องสามารถถ่ายวิดิโอ 4K ได้ที่ 60fps ด้วย electronic image stabilization รวมไปถึงการถ่าย selfie ด้วย อีกทั้งตัวกล้องที่หมุนได้นั้นยังสามารถถ่ายพาโนรามาแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย หรือจะใช้ motion tracking ในการทำให้วัตถุอยู่ในเฟรมได้อีกด้วย และยังมี HDR+ ที่เพิ่มประสิทธิภาพ Night Mode โดยใช้ระบบ multi-frame synthesis นั่นเอง

กลับมาที่หน้าจอ 6.4 นิ้ว ที่เป็นแบบ IPS LCD ที่คิดเป็น 92% ของตัวเครื่องด้านหน้าเลยทีเดียว และยังมีความสว่างสูงสุดถึง 600 nits และรองรับ DCI-P3 ส่วนปุ่มสแกนนิ้วจะยังอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง

โดยมันจะไม่มีรุ่น z ในปีนี้ มีแต่เจ้า Zenfone 6 ที่ใช้ชิปเซต Snapdragon 855 ที่มี Ram 8 GB และ Storage UFS 2.1 สูงสุดถึง 256 GB อีกทั้งช่องใส่ซิมยังเป็นแบบ triple slot อีกด้วย

ในส่วนของเสียงนั้นจะมี amplifiers คู่ที่ผ่านการรับรอง Hi-Res อีกทั้งยังแถมหูฟัง ZenEar (ที่ได้รับรอง Hi-Res เช่นกัน) ที่สามารถเสียบกับรูแจ็ค 3.5mm และสามารถใช้แบบไร้สายได้ในคุณภาพเสียง aptX HD อีกด้วย

และมันจะมีแบตเตอรี่ 5,000mAh แต่ชาร์จได้แค่ 18W แต่ด้วยความจุที่มากทำให้มันสามารถชาร์จในโหมด constant current ได้นานขึ้น ซึ่งทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 3,300mAh ได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเทียบเท่ากับที่หัวชาร์จ 27W ทำได้ในเวลาเท่ากัน แต่จะไม่มีระบบชาร์จไร้สายเพราะ Asus บอกว่ามันจะส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่

ส่วนระบบปฏิบัติการจะใช้ android 9 Pie ที่ครอบด้วย ZenUI 6 ที่ถูกปรับปรุงใหม่ อีกทั้งทางบริษัทได้ประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับการอัพเกรด android เป็นเวอร์ชั่น 10 Q และจะอัพเป็น 11 R อีกในอนาคตอีก รวมไปถึงจะได้อัพเกรดแพทช์ความปลอดภัยอีกเป็นเวลา 2 ปี

หน้าจอของมันจะทำด้วยกระจก Gorilla Glass 6 และด้านหลังก็ทำด้วย Corning glass ส่วนตรงกลางจะเป็นอลูมิเนียม 6000-series และในส่วนของกล้องที่หมุนได้นั้นจะทำด้วย liquid metal ที่เบากว่าสเตนเลส แต่แข็งแรงกว่าถึง 4 เท่า ซึ่งมันจะปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อโทรศัพท์หล่น อีกทั้งยังหมุนได้ถึง 100,000 ครั้ง ซึ่งคิดเป็นการใช้งานวันละ 28 ครั้งเป็นเวลา 5 ปีเลยทีเดียว

ซึ่งมันจะถูกวางขายในยุโรปที่ราคา ประมาณ17,800บาท(ราคาเดียวกับ Zenfone 5z เมื่อปีที่แล้ว) และจะวางขายบนเว็บ Asus.com และตามช็อปทั่วไปในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้

GSMARENA