แม้ว่ายอดขายรถโดยรวมจะลดลง 1.5% ในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ BMW Group ขายรถไฟฟ้าล้วนไปแล้วกว่า 64,000 คันในช่วงเวลาดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 80% ส่วนยอดขายรถ EV ของ BMW เพียงแบรนด์เดียวเพิ่มขึ้นถึง 112.3% ในไตรมาสแรกของปีนี้และจะเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของบริษัทต่อไป
BMW Group ที่รวมถึง MINI มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วนจำนวน 64,647 คันในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 83.2%
โดยภาพรวม MINI มียอดขายลดลง 10% แต่ทางผู้ผลิตเผยว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE ยังคงสูงอยู่ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ต้องการเปลี่ยนแบรนด์ดังกล่าวให้เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวภายในปี 2030
ทางฝั่งของ BMW มียอดขายรถ EV เพิ่มขึ้นเป็น 55,979 คันในไตรมาแรกของปีนี้ เติบโตขึ้นถึง 112.3% ท่ามกลางแบรนด์รถ EV เจ้าอื่นๆ ที่เจอช่วงเวลายากลำบากในช่วงเวลาดังกล่าว
ยอดขายรถ EV ที่สูงขึ้นของ BMW เกิดจากควาามนิยมของรถรุ่น iX, iX3, i4 และ i7 ซีดานหรูที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว
BMW มีแผนเปิดตัวรถ i5 ในปีนี้ ตามมาด้วย iX2 และ all-electric 5 Series Touring ทางบริษัทเผยว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนให้เลือกอย่างน้อยหนึ่งรุ่นในทุกๆ segment ใหญ่
ภายในปี 2026 BMW มีแผนให้ 1 ใน 3 ของรถยนต์ของตัวเองเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน
นอกจากนี้ BMW Group เตรียมเปิดตัวรถระดับ ultra-luxury super coupe แบบไฟฟ้าล้วนอย่าง Rolls Royce Spectre ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และตั้งเป้าเปลี่ยนให้ Rolls Royce กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าล้วนภายในทศวรรษนี้