BYD ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนกันยายน 2024 บริษัทขายรถ NEV (รถที่นับรวมไฟฟ้าและไฮบริดทั้งหมด) ได้ถึง 419,426 คัน ทำสถิติขายได้สูงสุดเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน ตัวเลขที่น่าประทับใจนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้น 45.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 12.42% จากเดือนสิงหาคม 2024

ยอดขายของ BYD ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แบ่งเป็น

  • รถปลั๊กอินไฮบริด PHEV ได้ 252,647 คัน ทำสถิติสูงสุดเป็นครั้งที่เจ็ดติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 (เพิ่มขึ้น 86.17% ปีต่อปี และเพิ่มขึ้น 13.61% เทียบกับเดือนสิงหาคม)
  • รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ BEV ขายได้ 164,956 คัน (เพิ่มขึ้น 9.1% ปีต่อปี และเพิ่มขึ้น 11.1% จากเดือนสิงหาคม)

การตัดสินใจของ BYD ในการหยุดผลิตยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปในเดือนมีนาคม 2022 ยังคงให้ผลตอบแทนอย่างงาม การมุ่งเน้นผลิตรถ NEV ได้ช่วยให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด

จากยอดขาย NEV ทั้งหมด แบ่งตามประเภทรถได้ดังนี้

  • รถนั่งส่วนบุคคล ยอดขาย 417,603 คัน ในเดือนกันยายน (เพิ่มขึ้น 45.56% เปีต่อปี และเพิ่มขึ้น 12.61% จากเดือนสิงหาคม)
  • รถเชิงพาณิชย์ ยอดขาย 1,823 คัน (เพิ่มขึ้น 230.85% ปีต่อปี)

สำหรับนอกตลาดจีน BYD ขายรถยนต์ได้ 33,012 คันในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 17.74% เมื่อเทียบกับปีต่อปี

เมื่อมองเป็นรายไตรมาส ไตรมาสที่ 3 (เดือนมิ.ย.-ก.ย.) บริษัทขาย NEV ได้ 1,134,892 คัน ซึ่งเกินระดับ 1 ล้านคันในไตรมาสเดียวเป็นครั้งแรก (เพิ่มขึ้น 37.73% ปีต่อปี และเพิ่มขึ้น 15.02% จากไตรมาสที่สองของปี 2024)

รถตระกูล Song ของ BYD ยังคงเป็นผู้ทำผลงานยอดเยี่ยม โดยมียอดขาย 89,135 คันในเดือนกันยายน ไลน์ผลิตภัณฑ์นี้ เช่น Song L EV, Song L DM-i, Song Pro DM-i, Song Plus EV และ Song Plus DM-i

ตระกูล Qin ตามมาอย่างใกล้ชิด โดยขายได้ 75,785 คัน ซึ่งยกระดับตำแหน่งที่แข็งแกร่งของ BYD ในตลาด NEV

นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดแบตเตอรี่พลังงาน ในเดือนกันยายน ฐานการติดตั้งแบตเตอรี่พลังงานและการจัดเก็บพลังงานของ BYD เพิ่มขึ้นประมาณ 19.8 GWh แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับปีต่อปี

SOURCE