BYD ประกาศว่ายอดการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) รวมกันถึง 5 ล้านคันแล้ว (นับรวมทั้งรถ BEV และ PHEV) ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่สามารถทำได้ ถึงแม้ว่า Tesla จะตามมาติดๆ โดยมียอดการผลิตสะสมอยู่ที่ 4.6 ล้านคัน จนถึงสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2023
ในกรณีของ BYD ยอดขายถูกแบ่งแยกอย่างเท่าๆกันระหว่าง BEV และ PHEV โดย BEVs ถูกผลิตราว 2.5 ล้านคันและ PHEVs อีกราว 2.5 ล้านคัน
อ้างอิงข้อมูลจาก BYD ทางบริษัทใช้เวลาเพียง 9 เดือนในการผลิตรถ NEV จาก 3 ล้านคันไปยัง NEV 5 ล้านคัน โดยไทม์ไลน์คร่าวๆ ของบริษัทมีดังนี้
- 1995: ผลิตแบตเตอรี่ (เริ่มต้นด้วย NiMH)
- 2003: BYD Auto ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์
- 2008: เริ่มต้นผลิตรถ NEV ครั้งแรก
- เดือนพค. 2021: ผลิต NEV 1 ล้านคันหลังจาก 13 ปี
- เดือนพย. 2022: ผลิต NEV 3 ล้านคัน (หลังจากผลิตคันที่ 1 ล้านเพียง 1 เดือน)
- เดือนสค. 2023: ผลิต NEV 5 ล้านคัน (9 เดือนหลังจากผลิต NEV คันที่ 3 ล้าน)
ล่าสุด BYD ทำลายสถิติโดนการขายรถไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กถึง 260,000 คันในเดือนเดียว ในขณะที่ปริมาณการผลิตระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมมากกว่า 1.5 ล้านคัน (เป็นไปได้ที่จะผลิตได้ 3 ล้านคันในปี 2023)
นอกจากนั้น BYD ยังเน้นไปที่การส่งออกด้วย โดยมีรถที่ถูกขายไปนอกประเทศจีนถึง 92,469 คันในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งตัวเลขนี้มากกว่าปี 2022 ทั้งปี
ทั้งนี้จำนวนของรถ NEV 5 ล้านคันที่ผลิตได้นั้น นับรวมทั้งรถยนต์ (แบรนด์ BYD และ Denza) และรวมถึงรถยนต์พาหนะเชิงพาณิชย์อื่นๆ (รถตู้ รถบรรทุก และรถบัส) ตามข้อมูลจาก BYD รถบัสของบริษัทถูกใช้ในกว่า 400 เมืองใน 70 ประเทศ (แต่ส่วนใหญ่อยู่ในจีน) ในขณะที่รถยนต์ของบริษัทถูกใช้งานในกว่า 54 ประเทศ