BYD มียอดขายรถยนต์ในปีนี้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว หลังจากทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน
โดยมียอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) 506,804 คันในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าสถิติเดิม 502,657 คันที่ทำไว้เมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ BYD มียอดขายทะลุ 500,000 คัน
จากยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 504,003 คัน ในเดือนที่ผ่านมา 305,938 คัน เป็นรถยนต์ไฮบริดปลั๊กอิน (PHEV) ส่วนที่เหลือ 198,065 คัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (EV)
ยอดขายรถ EV ของ BYD เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบปีต่อปี (YoY) และเพิ่มขึ้น 4% จากประมาณ 190,000 คันที่ขายได้ในเดือนตุลาคม 2024 แม้ว่ายอดขาย PHEV จะเพิ่มขึ้น 133% YoY แต่ก็ลดลงเล็กน้อยจาก 310,912 คันที่ขายได้เมื่อเดือนที่แล้ว ทำลายสถิติติดต่อกันแปดเดือนของ BYD ที่มียอดขาย PHEV เพื่มขึ้น
ยอดขายเดือนพฤศจิกายนที่ทำลายสถิติเพียงพอที่จะผลักดัน BYD ให้เกินเป้าหมายการส่งมอบปี 2024 แล้ว แม้จะยังเหลืออีก 1 เดือนกว่าจะหมดปี 2024
ด้วยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 3,740,930 คันตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ทำให้ BYD ทำยอดเกินเป้าหมายในการส่งมอบ 3.6 ล้านคันในปีนี้แล้ว
ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก BYD ผลิต NEV ครบ 10 ล้านคัน เมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน BYD ประกาศว่าเป็น “ผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลกที่บรรลุเป้าหมายการเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ 10 ล้านคัน”
