เปรียบเทียบ ! iPhone 14 Pro Max vs Huawei Mate 50 Pro เรือธงต่างระบบ รุ่นไหนเด่นกว่า !

ห่างหายไปนานกับการเปรียบเทียบสมาร์ตโฟนรุ่นที่หลายๆคนจับตามอง ในวันนี้แอดจะพาทุกคนมาชมไปพร้อมกันว่าจุดไหนดี จุดไหนเด่นสำหรับ iPhone 14 Pro Max และ HUAWEI Mate 50 Pro สมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงที่มาพร้อมกับการใช้งานที่ต่างระบบ เดี๋ยวเราไปชมพร้อมๆกันเลยว่าระบบไหนจะดีกว่ากัน รวมไปถึงเรื่องของกล้อง การถ่ายภาพในโหมดต่างๆด้วยนะ เราไปชมกันเลย

แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีการใช้งานของระบบปฎิบัติการที่แตกต่างกันออกไป โดย iPhone นั้นก็จะใช้งานระบบปฎิบัติการ IOS ส่วนทาง HUAWEI นั้นใช้ระบบปฎิบัติการ Android ซึ่งความไหลลื่นในการใช้งานของทั้ง 2 รุ่นนั้นค่อนข้างที่จะใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ทั้งคู่เลย นี้เลยเป็นประเด็นหลักที่แอดอยากนำมาเปรียบเทียบว่าค่ายไหนจะทำออกมาได้เด่นกว่ากันในส่วนไหนบ้างนั้นเอง โดยตัว iPhone 14 Pro Max จะเด่นไปในเรื่องของความจุที่เพิ่มมากขึ้น สามารถใช้งานความจุได้ถึง 1TB เลยนะ อีกทั้งยังมีการเคลมว่าแบตอึดกว่ารุ่นธรรมดาถึง 3 ชม. ใช้งานได้ยาวนาน รวมไปถึงด้านของกล้องที่ให้ความละเอียดกล้องหลังที่สูงถึง 48MP พร้อมโหมดต่างๆที่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดีเลย และมาต่อกันที่ตัว HUAWEI Mate 50 Pro กันบ้างที่เจ้าตัวนี้จะเด่นไปในเรื่องของกล้องเป็นส่วนใหญ่ ที่ให้กล้องหลังมา 3 ตัว ความละเอียดมาสูงถึง 50MP ที่มาพร้องกับเทคโนโลยี XMAGE ที่ทาง HUAWEI ปรับพัฒนาขึ้นมาเอง รองรับ HUAWEI XD Optics ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดได้แบบจุใจ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นความแตกต่างที่น่าเปรียบเทียบสุดๆ สำหรับใครที่ลังเล บทความนี้ช่วยคุณตัดสินใจได้

IPHONE 14 PRO MAX 

การออกแบบดีไซน์ของรุ่นนี้นั้นดูหรูหรา ภูมิฐานสุดๆ เก็บงานดีเช่นเดิมและยังคงมีน้ำหนักตัวเครื่องที่เยอะ แต่ไม่ส่งผลต่อการใช้งาน การจัดวางดีไซน์ของกล้องนั้นยังคงวางในตำแหน่งเดิม ลักษณะกรอบสี่เหลี่ยม ในส่วนของกลางบริเวณฝาหลังจะเป็นการสลักโลโก้ Apple ไว้เท่ๆเช่นกัน ในส่วนของขอบเครื่องมีความโค้งมน ใช้กระจกทั้งเครื่อง จึงทำให้ดูหรูหรา น่าจับถือใช้งานมากๆ มีตัวเลือกสีของเครื่องมาให้เลือกเยอะ โดยการออกแบบดีไซน์แอดให้ 3 ผ่านเลยนะ สวยเนียนทุกจุดอย่างโดนใจ

หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Dolby Vision ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1290 x 2796 พิกเซล หน้าจอขนาดพอดีพร้อมกับความละเอียดที่สูงมากๆ ให้ภาพที่สวยคมชัดสุดๆ พร้อมระบบ LTPO Super Retina XDR OLED ค่ารีเฟรชเราอยู่ที่ 120Hz ทำงานตอบสนองตามนิ่งมือได้เป็นอย่างดีมากๆ มีค่า HDR10 ที่ช่วยมอบสีภาพที่สวย สดใส สมจริงมากๆ หน้าจอโค้งมนเป็นมิติเนียนๆตา ขอบหน้าจอบางเฉียบ ที่สำคัญไม่มีติ่งกล้องใหญ่ๆมากวนใจเลย

HUAWEI MATE 50 PRO

มาพร้อมกับการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ออกแบบโมดูลกล้องที่สวยสะดุดตา โดดเด่นไม่เหมือนใคร ให้กล้องหลังมาด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว วางไว้ในส่วนของกลางฝาหลังอย่างเป็นระเบียบ เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยสำหรับการออกแบบ ถัดลงมาจะเป็นในส่วนของการสลักโลโก้ค่ายไว้แบบเท่ๆ ฝาหลังเป็นแบบกระจกเงางามสวยๆเลย วัสดุอุปกรณ์แข็งแรงทนทานเกรดพรีเมียมมาก

หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 1212 x 2616 พิกเซล สามารถแสดงสีสันได้ถึงพันล้านสีเลยนะ มีอัตราค่ารีเฟรชเรทสูงถึง 120 Hz ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ตอบสนองตามมือได้ดีสุดๆ หน้าจอเป็นแบบจอโค้ง สีสันคมชัด ขอบหน้าจอบางมาก ใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่ ด้านบนมีติ่งลงมาสำหรับฝังกล้องหน้าและลำโพง ภาพรวมการใช้งานดี มองมุมไหนก็เก็บรายละเอียดได้ดีทุกจุด โดยราคาในรุ่นนี้อยู่ที่ 43,990 บาท

HUAWEI CAMERA 

ในส่วนของกล้องในรุ่นนี้นั้นให้กล้องหลังมาด้วยกันทั้งหมด 3 ตัวโดยกล้องหลักให้ความละเอียดมาสูงถึง 50 ล้านพิกเซล f/1.4-f/4.0 ตามมาด้วยกล้อง Periscope ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/3.5 และปิดท้ายกันที่กล้อง Ultra-wide ที่ให้ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล f/2.2 ภาพรวมแล้วความละเอียดค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีโหมดต่างๆอีกมากมาย บอกเลยว่าครบจบมากๆ สำหรับเรื่องกล้องในค่ายนี้

IPHONE CAMERA 

ทางด้านของกล้องในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวเช่นกัน โดยมีกล้องหลักที่ให้ความละเอียดมาอยู่ที่ 48 ล้านพิกเซล f/1.8 ตามมาด้วยกล้อง Telephoto ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล f/2.8 และมาปิดท้ายกันที่กล้อง Ultra-wide ที่ให้ความละเอียดมาที่ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 ภาพรวมรายละเอียดยังคงน้อยกว่า HUAWEI แต่ภาพรวมถือว่ายังโอเคอยู่นะ เก็บรายละเอียดได้ดี มุมกล้องต่างๆกำลังพอดีเลย ให้สีที่เสมือนจริงมากๆ โหมดต่างๆยังคงให้มาอย่างครบครันเช่นเดิม

SOFTWARE UI 

มาต่อในเรื่องของหน้าตา Software UI ของทั้ง 2 ค่ายที่มีหน้าตาที่แตกต่างกันบ้าง ในส่วนนี้แอดต้องพูดเลยว่าหน้าตา UI ของทางค่าย iPhone นั้นจะค่อนข้างมีหน้าตาที่เป็นระบบระเบียบ มีตัวเลือกเปิด/ปิดอย่างชัดเจน สามารถใช้งานได้ง่าย เข้าใจได้ง่ายกว่า รวมไปถึงมุมของภาพที่ทาง iPhone มอบตัวอย่างภาพก่อนถ่ายได้อย่างเต็มหน้าจอ ช่วยให้เรามองเห็นทุกจุดของภาพได้เป็นอย่างดีในส่วนของหน้าตากล้อง และในส่วนของหน้าต่อการใช้งานทั่วไปก็เช่นกัน มีการจัดวางให้สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวกสบายกว่าทางค่าย HUAWEI แต่ภาพรวมของทั้ง 2 รุ่นยังคงใช้งานได้ดี ไม่มีอะไรน่าห่วง

CAMERA COMPARE 

ในส่วนของกล้องนั้นเป็นอีกส่วนเด่นๆเลยที่หลายคนจะตัดสินใจเมื่อเลือกซื้อโทรศัพท์ เป็นหัวใจสำคัญเลยก็ว่าได้นะ  ในวันนี้แอดจะมาเปรียบเทียบกล้องของทั้ง 2 รุ่นชัดๆไปเลยว่าในแต่ละโหมด ในแต่ละเลนส์นั้นมีค่ายไหนเด่นค่ายไหนด้อยตรงไหนบ้าง ทั้ง 2 ค่ายนั้นยังคงให้กล้องหลังมาด้วยกัน 3 ตัว โดยความละเอียดของ HUAWEI Mate 50 Pro นั้นจะมีความละเอียดที่สูงกว่า iPhone 14 Pro Max ลายละเอียดที่ออกมายังไม่มีอะไรที่แตกต่างกันมาก แต่จะแตกต่างกันตรงโทนสีของภาพที่ทางค่าย HUAWEI จะมีความเร่งสีให้ดูสวยสดกว่าเดิม มีการปรับภาพต่างๆได้ดูเนียนตา ให้น่ามองมากขึ้น จัดเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีทุกจุดจริงๆ ในส่วนของค่าย iPhone ก็ทำออกมาได้ดี ภาพชัดสวยสมจริง เก็บรายละเอียดได้คมชัด ไม่ว่าจะเป็นถ่ายอาหาร ถ่ายวิว ถ่ายสัตว์หรือภาพบุคคล ก็ยังคงใช้งานได้อย่างลงตัว แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าในส่วนของกล้องทางค่าย HUAWEI Mate 50 Pro จะสามารถให้ความคมชัด โทนสีของภาพ โหมดต่างๆได้ดีกว่า และวันนี้แอดก็ไม่พลาดที่จะนำตัวอย่างภาพในแต่ละโหมดมาให้ทุกคนได้ชมกัน เราไปดูกันเลยว่าแตกต่างกันแค่ไหน

PORTRAIT 

FRONT CAMERA COMPARE 

มากันในส่วนของกล้องหน้ากันบ้าง โดยทาง iPhone 14 Pro Max ให้ความละเอียดมาสูงที่ 12MP ตามมาด้วย HUAWEI Mate 50 Pro ที่ให้กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 13MP โดยจะมีความละเอียดมากกว่า iPhone 14 Pro Max เพียงเล็กน้อย ภาพรวมของความละเอียดไม่ต่างกันมากนัก แต่ในเรื่องของมุมกล้อง โทนสีต่างๆ แตกต่างกันมาก แอดได้นำภาพจริงมาเทียบให้เห็น ในส่วนของโทนสี โหมดบิวตี้ ทาง HUAWEI ค่อนข้างที่จะกินขาดอยู่นะ ภาพออกมาโทนสวยสว่าง แต่ในกลางแจ้ง iPhone ยังคงกำจัด noises ได้ดี เดี๋ยวเราไปดูตัวอย่างภาพกันเลยว่าจะแตกต่างโดนใจใครมากน้อยแค่ไหนสำหรับ iPhone 14 Pro Max VS HUAWEI Mate 50 Pro

HUAWEI MATE 50 PRO  VS IPHONE 14 PRO MAX

“กล้องเด่นคนละด้าน ลงตัวทั้งคู่ ภาพรวมไว้ใจได้แต่โทนภาพแตกต่างกันชัดเจน ! “

บทสรุปของทั้ง 2 รุ่นนั้นเด่นๆที่เปรียบเทียบกันได้อย่างชัดเจนคือเรื่องของกล้องเลย โดยทั้งคู่มีการใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ตามแบบเฉพาะของค่าย ภาพสวยคมชัด มีลูกเล่นโหมดต่างๆที่ลงตัวทั้งคู่ ในส่วนของความแตกต่างคงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของโทนสีภาพที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ความเนียน การเก็บรายละเอียดก็ค่อนข้างต่างเลยนะ โดย iPhone จะออกไปในแนวที่เสมือนจริงสุดๆ โทนสีภาพปรับได้ใกล้เคียงสีจริง ลายละเอียดคมชัด การถ่ายจากกล้องหลังถือว่าโอเคเลยนะ ภาพชัดสวย แต่หากในโหมดถ่ายคนนั้นแอดชอบทางด้านของค่าย HUAWEI มากกว่าที่มีการปรับแต่งให้ดูสวย สว่าง เอาใจสายเซลฟี่ได้ดีกว่าอย่างชัดเจน โทนสีกล้องหลังสดใส สีสดสมจริง มีการเร่งสีเร่งความสดได้มากกว่าค่าย iPhone ส่วนตัวแล้วแอดว่าช่วยให้ภาพนั้นดูน่าดึงดูดกว่าเยอะเลยนะ สำหรับใครที่สายกล้องจริงๆทางค่าย HUAWEI น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ส่วนในเรื่องของการใช้งานความลื่นไหล หน้าตา UI ที่เป็นระบบระเบียบได้ดีกว่าในส่วนนี้คงต้องยกให้ค่าย iPhone ที่แน่นอนว่าต้องยอมรับกับการใช้งายที่สะดวกสบาย ลื่นไหล การออกแบบดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ดูหรูหรา ภูมิฐานและเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่ ทางค่าย iPhone ยังคงทำงานในส่วนของการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี

สำหรับรีวิวนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคถ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget