เปรียบเทียบกลับมาอีกครั้งสำหรับเรทราคา 4 พัน +- ประมาณนี้ครับ แน่นอนว่า สำหรับคู่นี้นั้นต้องบอกว่าเหมือนจะทำออกมาแข่งขันกันตรงๆไปเลยทั้งเรื่องของราคาและสเปคต่างๆนั้นทำออกมาใกล้กันมากๆ โดยเฉพาะราคาที่ ใกล้กันมากๆช่วงเปิดตัว สำหรับ realme C3 และ Vivo Y11 เป็นตัวเลือกชนกันไปเลยสำหรับใครที่กำลังมองหามือถือใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นอะไรมากนัก ใช้จอใหญ่ แบตอึดๆและหาซื้อง่าย แน่นอนว่า ในงบนี้หลายๆคนอาจจะมองว่าทำไมไม่หามือ 2 อะไรมาใช้คุ้มๆ จริงๆเราอยากจะนำเสนอรุ่นที่ถ้าคนต้องการมือ 1 ใช้ยาวๆประกันไว้ใจได้และไม่ยุ่งยากสำหรับงบเท่านี้จะมีตัวเลือกอะไรบ้าง จึงได้หยิบนำ 2 รุ่นนี้มาเทียบกันให้ชมกันครับ และทั้ง 2 รุ่นนี้จะเป็นยังไง มีดีเด่นอะไรด้านไหนกันบ้างมาชมกันได้ในรีวิวการเปรียบเทียบครับ ทั้งเรื่องหน้าจอ ลำโพง เสียง ประสิทธิภาพเน้นๆ
ในแง่ของสเปคนั้น อย่างที่บอกกันไปเลยคือใกล้เคียงกันอย่างมากคือในช่วงเรทราคาที่ต่างกันไม่ถึง 400 บาทครับแน่นอนว่าในเรื่องของหน้าจอนั้นจะแตกต่างกันในเรื่องของขนาดหน้าจอที่ทาง VIVO จะเล็กกว่าครับแต่ในเรื่องความละเอียดเท่ากันเพราะตัว VIVO Y11 6.35 นิ้ว และตัว realme IPS 6.52 นิ้วครับ เป็นจอ IPS HD+ เหมือนกัน ส่วนตัวกระจกนั้น realme ให้ Gorilla 3+ มาเลย ทางด้าน CPU นั้นให้มาคนละค่ายเลย ในตัว realme นั้นจะให้ MTK G70 มา และทาง VIVO นั้นจะเป็นค่าย Snapdragon 439 ครับผมแต่ทางด้าน RAM-STORAGE เท่ากันและใช้งาน EMMC 5.1 เหมือนกัน มาที่ส่วนตัวแบตนั้นเท่ากันที่ 5,000 mAh และชาร์จไวเข้าเท่ากันที่ 10W ส่วนจุดแตกต่างใหญ่ๆคืองานออกแบบฝาหลัง และ ตัวกล้องหลังที่ realme ให้มาที่ 3 ตัว และ Vivo ให้มา 2 ตัวเท่านั้นครับ จะแตกต่างกันที่ Super Macro ที่ realme ใส่เข้ามา ส่วนกล้องหน้านั้นจะแตกต่างกันที่ความละเอียด realme ให้มาที่ 5 MP F2.4 ส่วนทาง Vivo นั้น 8MP F1.8 ครับถือว่ารูรับแสงกว้างพอสมควรเลยรอบนี้ ส่วนพวก Wifi 2.4Ghz รองรับเหมือนกันครับ แต่เรื่องของ Bluetooth นั้นจะไม่เหมือนกัน 5.0 ในตัว realme c3 และ 4.0 ใน Vivo Y11 ครับ ทางด้านราคานั้นอย่างที่แจ้งไปคือ 3,999 สำหรับ realme และ 4,299 สำหรับ VIVO Y11
PRICE
REALME C3
- RAM 3 GB STORAGE 32 GB :: 3,999 บาท // มีโปร AIS เหลือ 1,490 บาท
VIVO Y11
- RAM 3 GB STORAGE 32 GB :: 4,299 บาท // มีโปร AIS เหลือ 3,000 บาท
UNBOX
ตัวกล่องนั้นมีความแตกต่างกันชัดเจนครับในเรื่องของงานออกแบบการดีไซน์การใช้โทนสีแน่นอนว่าทาง realme ยังคงเน้นในเรื่องของสีเหลืองส้มเด่นๆพร้อมกับชื่อรุ่นตรงกันไปเลยไม่มีรูปตัวเครื่อง แต่ของ VIVO เองนั้นจะเป็นรูปตัวเครื่องชัดๆว่าสีอะไรพร้อมกับชื่อรุ่นและมุมกล่องเขียนบอกสเปคด้วยว่า RAM STORAGE อะไรเท่าไรกันบ้างครับ
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ VIVO จะมีจุดที่มากกว่า realme คือในเรื่องของเคสใสที่แถมมานั้นเองครับแค่นั้น ส่วนอุปกรณ์อื่นๆจะเป็น ที่ชาร์จ 10W / สายชาร์จ Micro-USB / คู่มือ ที่จิ้มซิม / ตัวเครื่อง
Realmeจะเป็น ที่ชาร์จ 10W / สายชาร์จ Micro-USB / คู่มือ ที่จิ้มซิม / ตัวเครื่อง แต่ไม่มีเคสมาให้
DESIGN
การออกแบบแตกต่างกันหลักๆคงเป็นในส่วนของด้านหลังตัวเครื่องเมื่อสัมผัสแล้วแตกต่างกันชัดเจน วัสดุแบบเงาและด้าน ตัวทางด้าน realme จะทำออกมาโค้งรับมือได้ดีกว่าดูบางเบากว่าเวลาจับถือ และเล่นลวดลาย 3 มิติ ไม่เป็นรอยและทนทานต่อรอยนนิ้วมือมากๆ แต่ส่วนของ Vivo นั้นฝาด้านหลังเรียบๆไม่โค้งรับมือเท่าไรนัก แต่ที่ชอบคือการเล่นแสงสีแบบมีเล่นกับแสงได้สะท้อนสวย ไล่เฉดสีครับอันนี้แหละทำให้มันสวยและไม่เหมือนใคร แต่ก็แอบเป็นรอยนิ้วมือง่ายมากและเช็ดยากเพราะมันไม่ใช่กระจกนั้นเองครับ ซึ่งขนาดรวมๆไม่ต่างกันมากนักแต่ในเรื่องของหน้าจอความใหญ่นั้น realme ทำได้ดีกว่าในเรื่องของขนาดหน้าจอและมีพื้นที่ในการใช้งานมากกว่านั้นเองครับในครั้งนี้
หน้าจอทั้ง 2 รุ่นนี้มีความคมชัดขนาดพอๆกันครับที่ 6.35 และ 6.52 HD+ พร้อมติ่งแบบหยดน้ำเหมือนกันไม่สามารถปิดติ่งได้นะครับสำหรับในทั้ง 2 รุ่นนี้ดีไซน์ใกล้กันมากๆเลย รวมถึงขนาดตัวเครื่องก็ใกล้เคียงกันไม่ได้หนีกันไปมากครับ แต่จะรู้สึกว่าขอบหน้าจอรวมๆนั้นจะทำได้บางเท่ากันเลยครับในครั้งนี้ถือว่าไม่แตกต่างกันมากนัก
เรามาดูขอบด้านบนส่วนหน้าจอกันครับในส่วนบนนี้คือเป็นติ่งแบบหยดน้ำ ทั้งคู่ และ ไม่สามารถปิดติ่งได้ทั้งคู่นะครับ ติ่งหน้าจอนั้นมีความโค้งอะไรแบบเดียวกันเป๊ะๆ น่าจะไม่ได้หนีกันเลยในเรื่องนี้ แต่ที่แตกต่างกันชัดๆคือรูลำโพงครับของทาง realme นั้นจะเปิดช่องรูลำโพงไว้ยาวกว่า และดูใหญ่กว่าครับแต่ใช้งานจริงๆก็ไม่เจอจุดที่แตกต่างกันเท่าไรนักเวลาใช้งานสนทนาพวกนี้ กล้องหน้ามาที่ 5 ล้านพิกเซล F2.0 ในตัว realme C3 และ8 ล้านพิกเซล F1.8 ในตัว Vivo Y11 ครับ แน่นอนว่าถ้ากล้องหน้านั้นทาง VIVO ทำได้ดีกว่าในเรื่องของสเปคที่ให้มารูรับแสงกว้างกว่า
ในตัวขอบล่างมีองศาที่คล้ายๆกันอยู่บ้าง ในเรื่องของมุมขอบโค้งพวกนี้และใช้งานได้ค่อนข้างดีครับไม่ได้หนาเกินไป ทั้งขอบข้างและขอบด้านล่างครับ ส่วนตัวปุ่มนั้นเป็นปุ่มบนจอทั้งหมดและสามารถสลับตำแหน่ง เปลี่ยนแปลงได้ และสามารถใช้งานเต็มจอแบบไม่มีปุ่มได้เช่นกัน จะเห็นของ realme นั้นมีความหนากว่าเล็กน้อยครับตรงพื้นที่สีดำนิดนึง
ในด้านล่างของตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นนั้นพอร์ตต่างๆก็ให้มาครบ ไม่ว่าจะเป็น ช่องหูฟัง 3.5มม. รูไมค์ ช่องเสียบชาร์จแบบ Micro-USB รวมถึงลำโพงหลักด้วยครับ ตัววัสดุเงานิดหน่อยในรุ่น Vivo ครับ แต่จะเห็นความโค้งอย่างที่บอกกันไปครับว่า realme จะโค้งรับได้ดีกว่า และดูเหมือนจะบางกว่านิดหน่อย ส่วนของ VIVO นั้นจะเป็นแบบตัดตรงๆและขอบล่างจะเป็นสีดำเงาครับ เพราะเป็นเครื่องแบบไล่สีดำไปแดงก็เลยบนล่างสีไม่เท่ากันนั้นเองครับในส่วนนี้
ส่วนขอบด้านบนนั้นทั้งคู่ ไม่มีรูไมค์มาให้ ตัวกล้องความนูนออกมาด้วยเล็กน้อย แต่ความโค้งมนนั้นก็แตกต่างกันแต่ถือว่าทาง realme นั้นดีกว่ารุ่นก่อนตรงที่ตัดฝาหลังตรงๆ ทำให้จับถนัดมือมากกว่าเดิมครับแต่ครั้งนี้ VIVO ปรับมาใช้ฝาหลังแบบเรียบๆตรงๆทำให้เรื่องของการจับถือนั้น รุ่นที่ทำได้ดีกว่าจะเป็นทาง realme ที่จับได้ดีกว่าเยอะเลย ส่วนขอบเครื่องการไล่สีนั้นทาง VIVO แอบดูดีกว่านิดหน่อยโทนสีแดงแบบเข้มๆครับและมีความเงานิดหน่อย
ในด้านขวาของตัวเครื่องนั้น ทางด้าน Vivo เป็นส่วนของของปุ่ม Power – เพิ่ม-ลดเสียง และใช้วัสดุแบบเงาไล่สีดำแดงเข้มก็รู้สึกแปลกตาและสวยเหมือนกันครับ ส่วนทางด้านของ realme นั้นเป็นส่วนของปุ่ม Power เพียงอย่างเดียวเพราะปุ่มที่เหลือได้ถูกย้ายไปอีกฝั่งทั้งหมด และขอบเครื่องจะเป็นสีแดงด้านทั้งหมด ทั้งคู่เป็นพลาสติกทั้งหมด
ในมด้านซ้ายกันบ้างครับ จะเป็นส่วนของช่องใส่ซิมเป็นหลักของทั้ง 2 รุ่น แต่ในฝั่ง realme นั้นจะมีปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงอยู่ด้วย ส่วนทางด้าน Vivo นั้นจะไม่มีนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่คนถนัดเลยครับว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน
ถาดซิมนั้นเป็นแบบ Triple Slot ทั้งคู่รองรับการใช้งาน 2 ซิม และ 1 Micro-SD เหมือนกันครับผมทั้ง 2 รุ่น และรองรับการใช้งาน Dual Standby ทั้งคู่ในเรื่องของซิมครับ ส่วนของ realme จะกันน้ำกระเซ็นได้
กล้องหลังนั้นให้มาไม่เหมือนกันแบบชัดเจนเลยครับ ทางด้าน realme นั้นมาพร้อมกับกล้องหลังที่มีการเล่น ลวดลายวงแหวนเล็กน้อยพร้อมกับ 12 MP f/1.8 + กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 + Super Macro 2 MP f/2.4 แต่ของ Vivo จะมาพร้อมกับ 2 เลนส์เท่านั้น มาพร้อมกับกล้องหลัง 13MP F2.2 + เลนส์ตรวจจับความลึก 2MP F2.4 ถือว่าถ้าว่ากันด้วยตามสเปคแล้วนั้นทาง realme ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจเลยครับ
ฝาหลังนั้นแตกต่างกันชัดเจนอย่างที่บอกกันไปว่าแบบเงาและแบบด้านครับ ตัวกล้องที่ให้มาไม่เท่ากันรวมถึงการเล่นกับฝาหลังของ realme นั้นเหมือนจะเป็นแบบ 3 มิติ แบบลวดลายวนไปมาและทำให้ไม่เป็นรอยและจับถือได้ดีกว่า ง่ายและไม่มีรอยนิ้วมือครับดูมีมิติขึ้นเยอะจากรุ่นเดิม ส่วนของ Vivo นั้นก็คุ้นเคยกันดีกับการไล่เฉดสีและวัสดุเงา แต่ก็จะแลกกันด้วยฝาหลังที่เป็นรอยง่ายกว่าค่อนข้างชัดเจนเลยแหละ และรอยนิ้วมือเช็ดออกยากพอสมควร ส่วนกล้องนั้น realme ให้มาที่ 3 เลนส์ พร้อมกับ เลนส์ Super Macro ที่แตกต่างกับ VIVO ชัดเจนครับในส่วนของเลนส์นี้
realme C3 และ Vivo Y11 ทั้ง 2 รุ่นนี้มีความใกล้เคียงกันมากๆใกล้สุดคงเป็นราคาที่เปิดมาเท่ากันเป๊ะๆ 3,999 บาท แต่หลังจากนั้น Vivo ปรับราคาล่าสุดเป็น 4,299 แทนครับ ซึ่งในเรื่องของสเปคนั้นก็แตกต่างกันในหลายๆจุดเลย ทั้งเรื่องของหน้าจอ ขนาดที่แตกต่างกันครับ realme จะใหญ่กว่า และในเรื่อง CPU ก็ใช้งานคนละค่ายกัน MTK G70 ในตัว realme และ Snap 439 ในตัว Vivo ครับ ส่วน RAM – STORAGE นั้นเท่ากันรวมถึงความเร็วการอ่านเขียนด้วยเช่นกัน ทางด้านกล้องก็แตกต่างกันในเรื่องจำนวนและสเปคครับ และในส่วนของ Wifi รองรับเท่ากัน แต่ Bluetooth จะคนละรุ่นกันนั้นเองทาง realme จะใช้งาน 5.0 แล้ว ส่วนแบตนั้นให้มาเท่ากันเลยครับ
SPEC VIVO Y11
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.35 นิ้ว (720 x 1,544 พิกเซล) HD+
- ชิปเซต Snapdragon 439 พร้อมการ์ดจอ Adreno 505
- RAM 3GB + Storage 32GB ที่ใส่ microSD เพิ่มได้ถึง 256GB
- Dual SIM (nano + nano + microSD)
- Android 9 ที่ครอบด้วย Funtouch 9.1
- กล้องหลัง 13MP ถ่ายวิดีโอได้ 1080p 30fps + เลนส์ตรวจจับความลึก 2MP
- กล้องหน้า 8MP
- เซนเซอร์สแกนนิ้วด้านหลังตัวเครื่อง
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.4 x 76.8 x 8.9mm; น้ำหนัก: 190.5 กรัม
- รูแจ็ค 3.5mm, วิทยุ FM
- 4G LTE, WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 5, micro USB
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่ชาร์จเร็ว 10W
- ราคา 4,290 บาท
SPEC REALME C3
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว (1600 x 720 พิกเซล) HD+ ที่ใช้กระจก Gorilla Glass 3+
- ชิปเซต MediaTek Helio G70 12nm พร้อมการ์ดจอ ARM Mali-G52 2EEMC2
- RAM LPDDR4x 3GB + Storage eMMC 32GB ที่ใส่ microSD เพิ่มได้ถึง 256GB
- Dual SIM (nano + nano + microSD)
- Android 10 ที่ครอบด้วย realme UI
- กล้องหลัง 12MP (f/1.8) พร้อมแฟลช LED, PDAF, ถ่ายวิดีโอได้ 1080p 30fps + เลนส์ตรวจจับความลึก 2MP (f/2.4) + Super Macro 2 MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้า 5MP
- ขนาดตัวเครื่อง : 164.4x75x8.95mm; น้ำหนัก: 195 กรัม
- รูแจ็ค 3.5mm, วิทยุ FM
- ตัวเครื่องกันละอองน้ำ
- Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 5, micro USB
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่ชาร์จเร็ว 10W
- ราคา 3,999 บาท // โปรโมชั่นร่วมกับ AIS จากราคาปกติ 3,999 บาท เหลือ 1,490 บาท
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพของทั้ง 2 รุ่นเมื่อดูจากสเปคนั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของ แบรนด์ที่ใช้งาน และแน่นอนส่งผลถึงความแรงครับ คือทางด้าน Vivo นั้นทำไปได้ 98,957 คะแนน ในการใช้ Snap439 แต่ของ realme นั้นทำไปได้ 181,374 ถือว่าแตกต่างกันเยอะมากในเรื่องของประสิทธิภาพในการทดสอบครับและมีผลต่อการใช้งานด้วย ส่วนเรื่องของความจำยังเป็น EMMC 5.1 ทั้งคู่ในการบันทึกเก็บข้อมูลต่างๆ คะแนนดูใกล้กันมากๆ และเรื่องการหันมาใช้ MTK อันนี้ต้องบอกว่ามีความแรงที่ดีต่างกับ Snapdragon ชัดเจนเลย แต่ที่หลายๆคนห่วงอาจจะเป็นเรื่องของ GPU ที่ใช้ในการเล่นเกมอะไรต่างๆจะดีขึ้นขนาดไหนต้องทดสอบในด้านเกมส์กันต่อไป แต่ CPU ไม่ต้องกังวล และในด้านเซนเซอร์นั้นมีอะไรให้มาเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงรองรับ Winevine L3 เท่านั้นสำหรับดู Netflix SD
SOFTWARE UI
ด้านซ้าย Vivo และ ด้านขวา realme : ทางด้านของระบบ Vivo Android 9 และ realme Android 10 ครับ หน้าตาแน่นอนว่าแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจนทางด้าน realme นั้นมาพร้อม realme UI 1 และ ทาง Vivo นั้นใช้ Funtouch 9 realme ครั้งนี้มี Appdrawer มาให้แล้วส่วนของ Vivo นั้นยังไม่มีนะครับ ตัวนาฬิกาที่โชว์นั้นแตกต่างกันไป การจัดวางตัวเลขต่างๆ ส่วนธีมรวมๆโทนสีก็สดใสค่อนข้างสว่างส่วนการแจ้งเตือนต่างๆก็เด้งดี เตือนได้ดีทั้งคู่ในหลายๆแอปส่วนหน้าล็อคนั้นก็มีการแบ่งหมวดหมู่เป็นปกติของระบบ สามารถลากลงมาเพื่อดูเพิ่มเติมได้ รวมถึงสามารถปัดเคลียร์หัวข้อต่างๆได้
ด้านซ้าย Vivo และ ด้านขวา realme หน้าตาเมนูนั้นก็แตกต่างกันไม่มาก แต่มีการแยกโซนให้ดูง่ายเหมือนกันครับ ในหน้าการตั้งค่าแบบเร่งด่วนนั้นจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ของทาง Vivo นั้นจะปัดจากด้านล่าง และมีแอปที่ใช้บ่อยๆ การตั้งเสียง ความสว่าง และ ตั้งค่าแบบด่วนให้ใช้งานกัน ส่วนของ realme นั้นลากจากด้านบน ปกติปรับแสงและตั้งค่าด่วนครับหน้าตาจะแตกต่างกับรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจนเปลี่ยนมาเป็นวงกลมอีกครั้งและคลีนขึ้นเยอะมาก
ด้านซ้าย Vivo และ ด้านขวา realme หน้าตาการตั้งค่าการใช้งานอื่นๆพวกฟีเจอร์เสริม โคลนแอป โหมดเกม แบ่งหน้าจอ ล็อคแอป อะไรพวกนี้นั้นมีมาให้คล้ายๆกันในการใช้งานครับ ส่วน การปรับแต่งเสียงนั้นหน้าตาของทาง Vivo จะมีการเลือกปรับได้มากกว่าทั้งเสียงแบบทิศทางต่างๆและตัวหูฟังรวมถึง EQ แต่ในด้านของ realme นั้นปรับแต่งในเรื่องของ EQ ได้เหมือนกันครับแต่ไม่มี Effect และปรับย่านเสียงแถบต่างๆนั้นได้น้อยกว่าของ Vivo ครับผม
ด้านซ้าย Vivo และ ด้านขวา realme คีย์บอร์ดที่มากับเครื่องนั้นทาง Vivo และ realme จะเป็นคีย์บอร์ดของ Google ครับอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบเลยครับว่าจะถนัดอันไหน แต่แน่นอนว่าพวกนี้สามารถโหลดเพิ่มได้ถ้าเราไม่ถนัด ยังไงก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ไม่ต้องห่วงครับ ส่วนตัวปุ่มการนำทางทั้งหมดนั้นมีมาให้เหมือนกัน สามารถสลับตำแหน่งได้ สามารถใช้งานแบบเต็มจอได้ แต่ Vivo สามารถปรับแต่งตัวไอคอนได้ครับว่าจะชอบหน้าตาแบบไหน และของ realme Android 10 จะมีแบบใหม่มา 2 แบบ คือเหลือ 2 ปุ่มนั้นเองครับ
SPEEDTEST
SCREEN
ในส่วนของหน้าจอทั้ง 2 รุ่น เป็นแบบ HD+ เท่ากัน และมีขนาด 6.52 นิ้ว และ 6.35 นิ้ว ทางด้านการออกแบบก็ไม่ต่างกัน เมื่อลองใช้งานจริงๆ เทียบกันตรงๆจะเห็นว่ามันมีอะไรที่ต่างนิดหน่อย ในเรื่องของสีสัน ความสว่างก็แตกต่างกันชัดเจนรวมถึงมุมมองด้วย จริงๆถ้าไม่เทียบกันมันก็ไม่ได้หนีกันมากเลยนะในเรื่องของความสว่างหรือสี แต่ถ้าเทียบกันแล้วจะเห็นชัดเจนเลย สีของ Realme ทำได้กว้างกว่า เก็บได้ครบกว่า และมีความสว่างมากกว่าแบบชัดเจนครับ สีจะเข้มและสดกว่าด้วย ซึ่งฝั่งของทาง Vivo นั้นจะตุ่นๆหน่อยไม่ค่อยสดนัก และใช้งานกลางแจ้งอาจจะยากกว่า
ส่วนทางด้านของมุมมองของตัวจอนั้นเรียกได้ว่าเมื่อมองในระดับเอียงแบบภาพจอ Vivo นั้นจะดรอปลงแบบชัดเจนในมุมเดียวกันระยะเดียวกันครับ ความสว่างหายไปพอสมควร และเรื่องของสีก็ดรอปลงไปด้วยครับ น่าเสียดายมากๆในจุดนี้ เรื่องจอทั้งสเปคและในการใช้งานจริงอาจจะต้องยอมให้ realme เค้าไปครับ แต่ดีที่เวลาซูมนั้น Vivo ก็จะไม่ได้ไปกินถึงตัวติ่งของจอ ซึ่งหน้าจอต้องบอกว่าทาง realme ทำได้ค่อนข้างดีมาตลอดนะในแง่การใช้งานทั้ง ความสว่าง ความสดของสี แต่เรื่องของการสัมผัสนั้นไม่ได้แตกต่างกันกับรุ่นแรกเท่าไรครับ แต่ทั้ง 2 ตัวสัมผัสให้ความรู้สึกแบบเดียวกันครับจะหน่วงๆแบบแปลกๆนิดหน่อย แต่ก็ด้วยราคาส่วนใหญ่จะเจอปัญหานี้ครับ
SPEAKER
ทางด้านลำโพงนั้นบอกเลยว่าทำได้น่าสนใจครับแน่นอนว่าทาง VIVO เองนั้นเสียงจะมิติความใสอะไรนั้นแอบด้อยกว่าทาง realme พอสมควรครับแต่ถ้ามองในเรื่องของความดังนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไรเลย ถ้าไม่เอามาเทียบกันนั้นเราอาจจะไม่ได้รู้สึกแตกต่างกันมากนักระหว่าง 2 รุ่นนี้แต่เมื่อเอามาเทียบแล้วก็แอบให้ไปทาง realme ทำได้ดีกว่าในเรื่องภาพรวมทั้งความใส ความดัง แน่นของตัวลำโพงที่ดีกว่าในการฟังเพลง เล่นเกมอะไรพวกนี้ครับ
GAMING
GPS
การทดสอบการจับ GPS ในทั้ง 2 รุ่นนี้ จากที่ทดสอบทำได้ใกล้ๆกันครับ อาจจะไม่ได้จับแม่นยำหรือไวมากนัก ในการนำทาง ทั้งใต้ทางด่วน หรือ ลงอุโมงค์จริงๆไม่เจออาการรวนอะไรนะ เมื่อจับเวลาและลองใช้งานจริงๆ Vivo นั้นจะช้ากว่าแบบชัดเจน และ บางทีจะอัปเดตช้ากว่า realme แบบรู้สึกได้เลย และเมื่อใช้แอปทดสอบนั้นความไวในการจับนั้น realme ทำได้ไวกว่า 1 วิโดยประมาณครับมาขึ้นเร็วกว่า แต่จำนวนนั้นไม่แตกต่างกันเท่าไรครับ ทางด้านของ realme เจอทั้งหมด 26 และจับได้ 13 ส่วนของ Vivo นั้นเจอทั้งหมด 46 และจับได้ 14 ดวงครับแต่จำนวนที่เห็นนั้นแตกต่างกันพอสมควรเลยครับจากที่ลองใช้งานมันใกล้ๆกันเวลากดนำทางแล้ว มีหน่วงมีหันผิดสลับกันไปครับ ไม่ได้มีตัวไหนเด่นกว่ามากนักแต่ถ้านับจากเปิดแอปแน่นอนว่าตามที่แจ้งไปคือ realme จับได้ไวกว่าครับผม
CAMERA
กล้องหลังนั้นจะเป็นจุดที่แตกต่างกันครับในเรื่องของจำนวนกล้อง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ Software อีกทีว่าจะดึงมาได้มากน้อยแค่ไหนกัน แต่ด้วยจำนวนที่มากกว่าย่อมทำได้ดีกว่าเพราะมีมาโครแบบระยะใกล้เข้ามาช่วยเลยทำให้ได้เปรียบไปอย่างชัดเจนสำหรับทาง realme ครับและในตัวนี้จะมาพร้อมกับ 12 MP f/1.8 + กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 + Super Macro 2 MP f/2.4 แต่ของ Vivo จะมาพร้อมกับ 2 เลนส์เท่านั้น มาพร้อมกับกล้องหลัง 13MP F2.2 + เลนส์ตรวจจับความลึก 2MP F2.4 ถือว่าถ้าว่ากันด้วยตามสเปคแล้วนั้นทาง realme ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจเลยครับ มาดูกันเลยว่าในเรื่องของการใช้งานจริงถ่ายในหลายๆสภาพแสงแบบทั่วไปและละลายหลังนั้นจะมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ แต่ทั้ง 2 รุ่นก็ไม่มีกล้องมุมกว้างและไม่มีโหมดกลางคืนนะ
SELFIES
ส่วนกล้องหน้านั้นจะแตกต่างกันที่ความละเอียด realme ให้มาที่ 5 MP F2.4 ส่วนทาง Vivo นั้น 8MP F1.8 ครับถือว่ารูรับแสงกว้างพอสมควรเลยรอบนี้ ในเรื่องของมุมกล้องนั้นไม่ได้แตกต่างกันเยอะแต่ที่ชัดๆคือความกว้างของกล้องดูเหมือนทาง VIVO นั้นทำได้ดีกว่านิดหน่อยในระยะแขนเท่ากัน และกลางคืนจะสว่างกว่าด้วยรูรับแสงที่กว้างกว่าครับ แต่ถ้านับฟีเจอร์ realme จะมีละลายหลังเข้ามาให้ แต่ของ VIVO นั้นไม่มีใส่เข้ามาครับ ทางด้านโทนสีนั้นก็มีความแตกต่างกันครับ vivo จะอมเหลืองนิดหน่อยส่วนภาพรวม realme จะเน้นดัน Contrast แน่นไปเกินจริงไปหน่อยครับแต่ก็ทำให้ภาพมันดูเข้มมีมิติขึ้นอันนี้ก็แล้วแต่แนวทางแนวโทนที่ชอบเลย กล้องหน้าแต่ละค่ายมีความแตกต่างกันแล้วแต่แนวโทนของแต่ละยี่ห้อ แต่เรื่องของคุณภาพก็มีสลับกันไปครับแต่ถ้าในคู่นี้ vivo ทำได้ดีกว่า
VIDEO
ในเรื่องของงานวีดีโอนั้นต้องบอกว่าทำได้ดีทั้งคู่แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของกล้องหน้าหลัง กลางวันกลางคืน สลับกันแล้วแต่ชอบครับ ในรุ่นของ VIVO Y11 นั้นจะมาพร้อมกับกล้องหน้าที่ดีกว่าเนื่องจากรูรับแสงที่กว้างกว่าเลยทำให้ในกลางคึน นั้นกล้องหน้าทำได้ดีกว่าในการถ่ายวีดีโอครับ ส่วนทางกล้องหลังนั้นอันนี้เรื่องของโทนสียังไม่มีตัวไหนแม่นแต่ที่ใกล้เคียงที่สุดนั้นทาง realme จะให้โทนสีที่ใกล้เคียงกว่า รวมถึงคุณภาพในหลายๆสภาพแสงนั้น realme c3 แอบทำได้ดีกว่าแบบรู้สึกได้เลย แต่ถ้าใครเน้นกล้องหน้านั้น vivo จะสว่างใสกว่าในเวลากลางคืน
REALME C2 VS VIVO Y11
สำหรับคู่นี้ทั้ง VIVO / realme ก็อยู่ในเรทที่เทียบได้สูสีที่สุดในทั้ง 2 แบรนด์ แต่ก็มีจุดดีเด่นแตกต่างกันแบบคนละด้านเลย แต่เอาจริงๆต้องบอกว่ามือถือแต่ละแบรนด์เค้าก็มีจุดดีเด่นของเค้าไม่มีรุ่นไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกคนแน่นอนครับ เราทำเทียบเพื่อจุดประสงค์ว่าจะให้คนที่กำลังดูและเน้นเรื่องไหน เค้าจะเหมาะกับรุ่นไหนมากกว่ากันนั้นเอง แอดมินจะไม่ชี้นำว่า อันนี้ดีสุด ต้องซื้อรุ่นนี้อะไรแบบนั้นนะ แต่จะนำข้อเท็จจริงของแต่ละรุ่นว่ารุ่นนี้เด่นอะไร รุ่นนี้ด้อยยังไงและไปตัดสินใจกันเองครับ แอดมินไม่สามารถตัดสินใจแทนทุกคนได้แน่นอน ได้แต่นำเสนอข้อเท็จจริงและสรุปจากประสบการณ์การใช้งานให้อ่านกันครับ เรามาดูข้อสรุปนิดหน่อยกันครับว่ารุ่นไหนเด่นอะไร และ มีจุดไหนที่ทำได้ใกล้กัน
VIVO Y11
ข้อเด่น
- กล้องหน้าทำได้ดีและเป็นจุดเด่นพอสมควร
- ตัวเครื่องมีการไล่สีสวยงามและเล่นกับแสงสวย
- มาพร้อมเคสใสในตัวกล่อง
- การใช้งาน GPS ทำได้ดี
- รักษาเรื่องความร้อนได้ดีแม้ใช้งานนานๆ
ข้อสังเกต
- ฝาหลังเงาเป็นคราบมันได้ง่าย
- BT 4.0 อยู่
- หน้าจอมุมมองอะไรยังไม่เด่น
- กล้องหลังยังทำได้ไม่ดีนัก
REALME C3
ข้อเด่น
- กล้องหลังทำได้ดีในภาพรวม
- กล้องหน้ามีถ่าย Portrait ให้มาด้วย
- มาพร้อม BT 5.0
- ประสิทธิภาพตัวเครื่องทำได้ดีแรงและเร็ว
- รักษาเรื่องความร้อนได้ดีแม้ใช้งานนานๆ
- การใช้งาน GPS ทำได้ดี
- งานวิดีโอจัดการได้ดี
ข้อสังเกต
- กล้องหน้ายังไม่ได้เด่นมากนัก
- ฝาหลังแบบด้านเล่นแสงอะไรอาจจะไม่สวยเท่าแบบเงา
ทำได้ใกล้เคียงกัน
- แบตเตอร์รี่ ทำได้พอกันในการใช้งานจริงอึดทั้งคู่
- รองรับ Wifi 2.4Ghz
- หน้าจอ การสัมผัสใกล้เคียงกัน
- ระยะเวลาการชาร์จไฟเข้าพอกัน
- การใช้งานความลื่นไหลไม่ต่างกันมาก
- ไม่รองรับ Netflix HD /DRM L1
- Sensor ต่างๆมีมาให้เหมือนกัน
- ไม่สามารถปิดติ่งได้ทั้งคู่
สำหรับรีวิวเปรียบเทียบนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget