การเปรียบเทียบในครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 4 แล้วครับและเป็นครั้งที่ 2 สำหรับงบไม่เกิน 4000 ซึ่งแอดมินจะอิงราคาที่ขายกันเป็นหลักครับและในวันนี้นั้นก็เป็นรอบของทาง Vivo Y81i ที่จะมาเจอกับทาง Realme C1 ในครั้งที่แล้วนั้นได้ทำการเปรียบเทียบกับ Xiaomi Redmi 6A กันไปและมีหลายๆอย่างนั้นก็ค่อนข้างสูสีกันเลยครับในเรทราคาเท่าๆกัน ในครั้งนี้หลายๆคนอาจจะสงสัยกันว่าทำไมเลือกมานั้นสเปคไม่ค่อยจะเท่ากัน หรือ CPU ไม่เหมือนกัน ต้องบอกกันก่อนครับว่าหลักการในเลือกหลักๆนั้นแอดมินจะหารุ่นที่ ราคาใกล้ๆกันมากที่สุดครับ เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ใช้งานว่าถ้าเรามีงบ เท่านี้มีตัวเลือกอะไรให้ซื้อกันบ้าง กำเงินไปเท่านี้ได้ตัวไหนบ้าง จึงเป็นรุ่นที่แอดมินได้ทำการเลือกๆมาเทียบนั้นเองครับ และ ในครั้งนี้เราจะมาดูว่า VIVO – REALME จะเป็นยังไงกันบ้างครับเมื่อเอามาเทียบกัน ค่อนข้างสูสีในด้านการออกแบบ และ ดีไซน์โดยรวมเลยแหละครับ
ในคู่นี้ต้องบอกว่าเมื่อมองจากด้านหน้านั้นใกล้เคียงกันอย่างมากทั้งขนาดการออกแบบ หน้าจอ รวมถึงตัวรอยบากหน้าจอก็ทำออกมาคล้ายๆกันด้วยครับ สำหรับทาง Vivo Y81i ตัวนี้เป็นรุ่นทำตลาดออกมาที่จับต้องได้ง่าย เน้นกล้องที่มี AI Beauty เข้ามาช่วยต่างๆ การดีไซน์อะไรที่บางและรับกับมือรวมถึง มีสีแดงสวยงามให้เลือก ในด้านของ Realme C1 นั้นหน้าจออะไรค่อนข้างเท่ากันเลยครับแต่จะแตกต่างกันที่ กล้องหลังที่มาให้ถึง 2 ตัวและรองรับการถ่ายละลายหลัง และยังมาพร้อมกับ CPU Snap 450 ครับอาจจะเป็นจุดที่ตัดสินใจกับใครหลายๆคนได้แต่ก็มีให้เลือกแค่สีเดียวเท่านั้นนะครับ ในตัว Realme C1
SPEC
ทางด้านของสเปคทั้งคู่ตัวนี้ หน้าจออะไรมาในขนาดที่เท่ากัน มีการออกแบบอะไรเหมือนกันครับ ทางด้าน RAM 2 GB เท่ากัน ความจำตัวเครื่องก็ 16GB เท่ากันครับ และระบบอะไรต่างๆก็ยังเป็น Android 8.1 เหมือนกันทั้งคู่ ส่วนที่แตกต่างกันหลักๆนั้นจะเป็นในด้านของกล้องหลัง ที่ทาง Realme C1 นั้นมีมาให้ 2 ตัว แต่ทาง Vivo Y81i นั้นมีมาให้ตัวเดียว และในด้านของ CPU นั้นทาง Vivo Y81i นั้นเป็นของค่าย MTK MT6761 Helio A22 แต่ทาง Realme C1 นั้นมาพร้อมกับ Snapdragon 450 ครับผม ส่วนทางด้านแบตก็แตกต่างกันประมาณ 1000 mAh ที่ทาง Realme นั้นให้มามากกว่า แต่ไม่รองรับชาร์จไวทั้งคู่นะครับ ส่วนทางด้านอื่นๆก็คล้ายๆกันทั้ง พอร์ตต่างๆ เซนเซอร์อะไรพวกนี้ให้มาเหมือนๆกันครับ รวมถึงการรองรับถาดใส่ซิม +MicroSd 3 Slot ก็รองรับเหมือนกัน ทางด้านหล้องหน้านั้น สเปคเดียวกันเลย 5 ล้านพิกเซลพร้อมรูรับแสง F2.2 ทั้งคู่ครับ แต่อย่าดูแค่สเปคอย่างเดียวกล้องหน้ามุมกว้างก็แตกต่างกันครับ รวมถึงการใช้งานด้านอื่นๆด้วย มาดูกันเลย
PRICE
- REALME C1 RAM 2 GB STORAGE 16 GB – BLACK SEA ราคา 3,990 บาท
- VIVO Y81i RAM 2 GB STORAGE 16GB – BLACK ราคา 4,499 บาท
DESIGN
การออกแบบทั้ง 2 รุ่นใช้วัสดุที่คล้ายๆกันครับเงาสวยงามทั้งคู่แต่แตกต่างกันที่การออกแบบความโค้งมนอะไรต่างๆนั้นแตกต่างกันรวมถึงตำแหน่งวางโลโก้อะไรพวกนี้ครับ จริงๆเมื่อลองมาเทียบกันนั้นถือเทียบทาง Vivo Y81i จะดูจับได้ถนัดกว่าบางเบากว่านิดหน่อยครับเพราะความโค้งมนลงขอบข้างทั้ง 2 ทำให้จับได้ง่ายขึ้นกว่าแบบเรียบๆของทาง Realme แต่บางคนก็อาจจะชอบฝาหลังแบบเรียบๆของทาง Realme ก็เป็นอีกแนวนึงได้ครับ ส่วนการจับถือความกว้างยาว ไม่ต่างกันมากเลยครับทั้ง 2 รุ่นนี้
หน้าจอของทั้ง 2 รุ่นนั้นมีขนาดเท่ากันที่ 6.22 นิ้วความละเอียดแบบ HD+ และจอเป็นอัตราส่วน 19:9 ครับผม ขอบความหนาบาง รวมถึงขนาดของติ่งหน้าจอเหมือนกันมากๆครับจนบางทีแอบคิดว่ามันใช้จอตัวเดียวกันไหมเลยแหละ ตัวหน้าจอทั้ง 2 รุ่นนี้มีฟิลม์หน้าจอแบบ พลาสติกติดมาให้จากโรงงานทั้งคู่นะครับ ด้านหน้านั้นเรียกได้ว่าใกล้เคียงกันมากๆเลยไม่เจอจุดแตกต่างนัก
มาส่องกันที่ขอบด้านบนส่วนหน้าจอกันครับในส่วนนี้คือเป็นหน้าที่เป็นรอยบากทั้งคู่ และ ไม่สามารถปิดติดได้ทั้งคู่นะครับ ติ่งหน้าจอมีควาลึกความโค้งแบบเดียวกันเป๊ะเลยแหละ และยังรวมถึงตำแหน่งการวางกล้องหน้า เซนเซอร์ และตัวลำโพงอีกด้วยครับ ทางด้านของความหนาขอบจอทั้งรอบๆและขอบบนนั้นก็ทำได้ใกล้เคียงกันทั้งหมดครับทั้งขอบข้างและขอบด้านบนตัวข้างๆติ่งจอ
ส่วนทางด้านขอบล่างตัวหน้าจอทั้ง 2 รุ่นมีขนาดใกล้ๆเคียงกันครับความโค้งมนของตัวขอบจอ รวมถึงความหนาของตัวขอบข้างล่างนั้นก็ทำได้ระยะความหนาเท่ากันทั้งหมดเลย ตัวปุ่มควบคุมทั้ง 3 ปุ่มอยู่ในจอทั้งหมด และ รองรับการปรับเปลี่ยน ปรับแต่งการใช้งานหน้าจอใช้งานเต็มหน้าจอได้ โดยไม่มีปุ่มก็ทำได้ทั้งคู่ครับผม
สำหรับขอบข้างล่างของตัวเครื่องนั้นมีพอร์ตรูต่างๆมาให้เหมือนกันครับทั้งตัว ลำโพง รู 3.5มม. และ พอร์ตชาร์จแบบ Micro-USB แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของการออกแบบขอบโค้งของตัวบอดี้ และ การใช้วัสดุที่แตกต่างกันครับของทาง Realme จะเป็นวัสดุแบบด้านสีดำด้าน แต่ของ Vivo นั้นจะเป็นวัสดุเงาแบบเดียวกันฝาหลังของตัวเครื่องครับ
ส่วนของเครื่องด้านบนนั้นจะเป็นเรียบๆเหมือนกันทั้ง 2 รุ่นจะเห็นความแตกต่างกันได้แบบชัดเจนว่าการออกแบบนั้นแตกต่างกันความโค้งของ Vivo นั้นทำได้มากกว่าจึงจับถนัดมือและดูบางกว่าครับ ส่วนความหนานั้น Realme จะหนากว่านิดหน่อยครับผมเทียบได้เมื่อวางในระนาบเดียวกัน
ในด้านขวาของตัวเครื่องนั้น ทางด้าน Vivo เป็นที่อยู่ของปุ่ม Power – เพิ่ม-ลดเสียง และใช้วัสดุแบบเงาครับ ส่วนทางด้านของ Realme นั้นเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power เพียงอย่างเดียวเพราะปุ่มที่เหลือได้ถูกย้ายไปอีกฝั่งทั้งหมด
ในด้านขอบซ้ายกันบ้างครับจะเป็นที่อยู่ของภาพซิมเป็นหลักของทั้ง 2 แต่ทางด้าน Realme นั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง ครับ ส่วนทางด้าน Vivo นั้นไม่มีปุ่มอื่นๆอยู่ในด้านนี้ อันนี้ก็แล้วแต่คนถนัดเลยครับว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน
ทางด้านถาดซิมของทั้ง 2 รุ่นเป็นแบบ Triple Slot ทั้ง 2 ตัวเหมือนกันครับสามารถใส่ซิมได้ 2 ซิมและรองรับการเพิ่ม Micro-SD Card เข้ามาพร้อมกันไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างนึงซึ่งหลายๆรุ่นก็มาใช้แบบนี้กันหมดแล้ว รวมถึงช่วยเพิ่มความจุ ความจำให้กับเครื่องด้วยเพราะให้มา 16GB ไม่พอแน่ๆครับในการใช้งานทั่วไปถ่ายรูปอะไรพวกนี้
ทางด้านกล้องหลังของทั้ง 2 รุ่นนี้จะแตกต่างกันชัดเจนเลยเพราะเป็นกล้องคู่และกล้องเดี่ยวครับ ตำแหน่งการวางอะไรคล้ายๆกันมีการเล่นกรอบสีเงินล้อมรอบตัวเลนส์กล้องทั้งคู่ มีไฟแฟลชอะไรมาให้ครับแต่ของ Vivo จะนูนออกมามากกว่าน่าจะด้วยการออกแบบฝาหลังโค้งๆทำให้กล้องต้องนูนออกมากกว่าและ ตัว Realme นั้นเองครับ
สำหรับด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมกับสีดำสนิท ดำเงาพร้อมกับโลโก้ด้านหลังครับ อย่างที่แจ้งไปคือทางด้านหลังจะแตกต่างกันทางการออกแบบความโค้งขอบทั้ง 2 ข้าง และการวางตำแหน่งกล้อง อะไรพวกนี้ใกล้เคียงกันแตกต่างกันแค่จำนวนกล้องเท่านั้นเอง แต่ของทาง Vivo มีเขียน Design by Vivo และมีตุ่ม 2 ตุ่มออกมาน่าจะออกแบบมาเพื่อกันฝาหลังเวลาลางเอาด้านหลังลงนิดหน่อยไม่ให้มันแตะกับตัวพื้นก็เป็นได้ครับ
PERFORMANCE
ในเรื่องของประสิทธิภาพของทั้ง 2 รุ่นนั้นแตกต่างกันชัดเจนในเรื่องของ CPU ในตระกูลที่แตกต่างกันในค่าย Snapdragon และทาง Mediatek ครับผมทางด้านของ Realme นั้นมาด้วย CPU Snap450 ทำคะแนนไปได้ 73888 และในเรื่องของหน่วยความจำนั้นเป็น Emmc5.1 เช่นเดิมครับ มาดูในส่วนของ Vivo นั้นเป็นตัว MTK 6761 ทำคะแนนไปได้ 65716 และใช้หน่วยความจำเป็น Emmc5.1 เหมือนกันครับ เรียกได้ว่าทางด้านคะแนนก็แตกต่างกันอยู่พอสมควรครับ แต่ในแง่ของการใช้งานจริงความลื่นไหลนั้นจะแตกต่างกันมากไหมต้องรอดูกันไปครับ
SOFTWARE UI
ทางด้านของระบบ Software นั้นจะเป็น Android 8.1 กันครับ แต่หน้าตาอะไรต่างๆก็เรียกได้ว่าแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจนทางด้าน Realme นั้นมาพร้อม Colour OS 5.2 และ ทาง Vivo นั้นใช้ Funtouch 4.0 ครับหน้าตาการใช้งานก็แตกต่างกันแต่ไม่มี Appdrawer ทั้งคู่นะครับจะแตกต่างกันที่ตัวนาฬิกาที่จะโชว์แตกต่างกันไปการจัดวางตัวเลขต่างๆครับ ส่วนธีมรวมๆโทนสีก็สดใสค่อนข้างสว่างๆครับ
ในเรื่องการปรับแต่งเสียงนั้นหน้าตาของทาง Vivo จะมีการเลือกปรับได้มากกว่าทั้งเสียงแบบทิศทางต่างๆและตัวหูฟังรวมถึง EQ แต่ในด้านของ Realme นั้นปรับแต่งในเรื่องของ EQ ได้เหมือนกันครับแต่ไม่มี Effect อื่นๆส่วนในหน้าการตั้งค่า นั้นจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ของทาง Vivo นั้นจะปัดจากด้านล่าง และมีแอพที่ใช้บ่อยๆ การตั้งเสียง ความสว่าง และ ตั้งค่าแบบด่วนให้ใช้งานกัน ส่วนของ Realme นั้นลาดจากด้านบนปกติปรับแสงและตั้งค่าด่วนครับ
การตั้งค่าปุ่มการนำทางต่างๆนั้นเหมือนกันสามารถสลับตำแหน่งได้ ใช้งานแบบเต็มจอได้ครับไม่ได้หนีกันมากรวมถึง Gesture การควบคุมการสั่งงานเวลาปิดหน้าจออะไรก็มีมาให้คล้ายๆกันครับ
หน้าตาการตั้งค่าต่างๆนั้นไอคอนอะไรก็มีแยกสัดส่วนกันครับใช้งานไม่ยุ่งยาก แต่จะแตกต่างกันที่คียบอร์ดที่มากับเครื่องนั้นทาง Vivo จะเป็นคีย์บอร์ดอีกแบบนะครับถ้าใครใช้ Vivo ก็น่าจะคุ้นเคยกันดี แต่ทาง Realme จะเป็นคียบอร์ดของ Google ครับอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบเลยครับว่าจะถนัดอันไหนอะไรมากกว่า แต่แน่นอนว่าพวกนี้ก็โหลดได้ถ้าเราไม่ถนัดยังไงก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ไม่ต้องห่วงครับ
SPEEDTEST
SCREEN
มากันที่หน้าจอของทั้ง 2 รุ่นกันบ้างครับแม้จะมีสเปคอะไรใกล้กัน และ มีขนาดใกล้ๆกันมาก IPS LCD HD+ 6.22 นิ้ว แต่เมื่อลองเอามาดูกันจริงๆแล้วนั้นมันก็ยังมีจุดแตกต่างกันพอสมควรครับจากที่ตอนแรกอาจจะะเป็นจอรุ่นเดียวกัน แต่ก็ยังแตกต่างในเรื่องของความสว่าง ที่ทาง Realme ทำออกมาได้สว่างกว่านิดหน่อยสู้แสงได้ดีกว่าครับ และมุมมองของภาพนั้นทำได้ดีกว่า แต่ในด้านของจอ Vivo นั้นจะออกอมแดงเล็กน้อยเมื่อเปิดจอขาว ส่วน Realme จะไปทางโทนเหลืองนิดหน่อยครับ ตัวสีดำเมื่ออยู่กลางคืนของทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่ใช่ LED เลยทำให้เห็นส่วนสีดำชัดหน่อย และทาง Realme จะคุมเรื่องนี้ได้ดีกว่าครับผม ส่วนของ การสัมผัสอะไรนั้นทำได้ใกล้เคียงกันทั้งคู่นะครับ อาจจะไม่ได้ลื่นติดมืออะไรมากเมื่อเทียบกับตัวราคาของมันแต่ที่แอดมินลองก็ถือว่าไม่ได้แย่หรือไม่ได้หน่วงจนน่าเกลียด
SOUND
Vivo กำลังขับมาน้อยกว่านิดหน่อย เสียงเบสบางกว่า เสียงร้องชัดกว่า Realme เสียงมามากกว่า1ระดับ ในระดับเสียงเดียวกัน เสียงเบสมาดีแน่นกว่า และ นุ่มกว่าโดยรวม เวทีเสียงใกล้ๆกัน เป็นอะไรที่ค่อนข้างสูสี และตัวปรับเสียงนั้นมีมาให้ทั้ง คู่ของ Vivo นั้นสามารถปรับได้มากกว่านิดหน่อย รวมถึงเลือกหูฟังของทางค่ายได้ หน้าตาการปรับจริง หรือฟีเจอร์ให้ทาง Vivo นั้นทำได้ดีกว่าในจุดนี้แต่เรื่องของเสียงจริงๆเป็นอะไรที่ยากนะครับเพราะว่าแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน แต่ในมุมมองของแอดมินในเรทราคานี้คงไม่ต้องเน้นอะไรมากครับ เพราะคงไม่เอามาฟังเพลงเทพอะไรกันมาก แต่ให้มันมีแรงขับเยอะๆเข้าไว้ก่อน เสียบลำโพง วิทยุบนรถอะไรพวกนี้ได้ดังเสียงดีก็เป็นพอแล้ว จึงทำให้ Realme นั้นอาจจะใช้งานได้ง่ายกว่าขับได้มากกว่าในการใช้งานหลายๆแบบนั้นเองครับในเรื่องของเสียงเวลาใช้หูฟัง
SPEAKER
ในการทดสอบลำโพงสำหรับคู่นี้มาพร้อมกับลำโพงตัวเดียวในด้านล่างทั้งคู่ครับ เสียงที่ได้นั้นก็ค่อนข้างชัดเจนว่าในคู่นี้เสียงของทาง Realme มาดีกว่า ดังกว่าแน่นกว่าในการใช้งานฟังเพลง ดูหนัง หรือจะเป็นเล่นเกมครับ เสียงกำลังดีไม่แห้ง หรือ แหลมเกินไปรวมถึงทำได้ดังกว่าในระดับเสียงสูงสุดเมื่อเทียบกับทาง Vivo ครับ ในด้านของ Vivo นั้นเสียงจะออกมาแบบไม่สุดเท่าไรแห้งๆและแหลมสูงไปครับ เหมือนตัวลำโพงไม่ได้เด่นมากสำหรับในรุ่นนี้ของทาง Vivo ลองไปฟังกันดูครับว่าชอบของตัวไหนมากกว่ากันน่าจะตัดสินใจกันได้ไม่ยาก สำหรับคู่นี้ในด้านของลำโพงครับ
GAMING
สำหรับการเล่นเกมส์สองรุ่นนี้อาจดูเหมือนว่าจะมาพร้อมกับราคาใกล้เคียงกัน เเต่หลังจากที่ได้ลองทดสอบเรื่องของ FPS โดยรวมความลื่นไหลในเกมส์ต่างๆต้องยกให้ Realme C1 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับภาพกราฟฟิคที่ได้เยอะ ความลื่นไหลของภาพในเกมส์ PUBG MOBILE Freefire , ROV Realme C1 ทำออกมาได้ดีกว่า สำหรับใครที่เน้นเล่นเกมส์เเนะนำในรุ่น Realme C1 เลยครับในส่วนนี้รับรองไม่ผิดหวัง เอาเป็นว่าดูในคลิปวีดีโอที่ผมนำมาฝากละกันนะครับ จะได้เห็นข้อเเตกต่าง
GPS
ในด้านการทดสอบการจับ GPS ทั้งการนำทางจริงๆและใช้แอพทดสอบในหลายๆครั้งครับ ก็พบว่าเมื่อนำทางทั้งในเมือง หรือ ใต้สะพานลงอุโมงค์ต่างๆแล้วนั้นแอดมินพอจะสรุปออกมาได้ว่าทาง Vivo นั้นจะมีแอบเพี้ยนเล็กน้อยเมื่อใช้งานคือจะชอบหันไปทางอื่นหรือเขยิบออกไปในหลายๆจังหวะส่วนในการทดสอบในแอพนั้น จากทั้งหมด 44 ดวง จับได้24 ดวง สำหรับทาง Realme จับได้ทั้งหมด 28 ดวง จาก 46 ดวง VIVO ครับระยะเวลาการเปิดจับอะไรนั้นทำได้เหมือนกันใกล้ๆกันครับ แต่จะมีด้านการใช้งานที่อย่างที่บอกกันไปครับว่าแตกต่างกันแบบเห็นชัดเมื่อมาเทียบในการใช้งานนำทางทั้งคู่ครับผม ผ่านแอพ Google Maps และใช้ Internet ตัวเดียวกันทั้งคู่ครับ
CAMERA
กล้องหลังเป็นอีก 1 จุดที่แตกต่างกันอย่างมากและเด่นๆเลยคือ Realme มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัวพร้อมกับการรองรับการถ่ายละลายหลัง ซึ่งทาง Vivo ไม่มีครับ ส่วนในด้านของสเปคนั้นมาเริ่มกันที่ Realme กันก่อนเลยคือมาพร้อมกับกล้อง 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซลสำหรับจับระยะ รูรับแสงที่ F2.2 ส่วนกล้องของ Vivo นั้นมาพ้รอมกับความละเอียดเท่ากัน 13 ล้านพิกเซล และรูรับแสงเท่ากันเลย แค่ไม่มีกล้องตัวที่ 2 เท่านั้นครับ ในการใช้งานระยะเวลาเปิดกล้อง สลับกล้องอะไรทำได้ดีเหมือนกัน แต่ของ Vivo รองรับโหมดโปรด้วย ซึ่งของทาง Realme ไม่มีให้ปรับเลยครับ ในด้านคุณภาพ ความสวยงาม คมชัดนั้นจากที่ลอง Realme จะค่อนข้างตรงกับแสงจริงๆมากกว่า ส่วนสีของทาง Vivo นั้นจะติด Under มืดกว่านิดหน่อยถ่ายกลางคืนจะคมกว่าไม่ฟุ้งครับ แต่เสียรายละเอียดมากกว่าครับเวลาซูมภาพบางสภาพแสง ส่วนโทนสี Vivo จะแอบติดเหลืองไปนิดหน่อยครับ ของทาง Realme จะติดโทนเย็นไปนิดหน่อย แต่ที่น่าชมของ Realme เวลาย้อนแสงจะทำได้ค่อนข้างดีกว่า และรายละเอียดคมชัด เสียที่กลางฟืนจะฟุ้งมาดเวลาเจอหลอดไฟอะไรพวกนี้คือเน้นสว่างมากกว่า
CROP
SELFIES
ในเรื่องของกล้องหน้าทั้ง 2 รุ่นนี้เรียกได้ว่าสูสีมาพร้อมกับสเปคที่เหมือนกันเลยคือ มีความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ครับรองรับการปรับหน้าเนียนอะไรต่างๆทั้งคู่ แต่เมื่อมาลองใช้งานจริงๆแล้วภาพมุมกว้างก็เรียกได้ว่าแตกต่างกันชัดเจนทาง Vivo นั้นจะได้มุมภาพที่กว้างกว่าครับในการเก็บภาพ ซึ่งเป็นข้อดีในการถ่ายหลายๆคน แต่โทนสีต่างๆนั้นของทาง Vivo จะอมเหลืองไปนิดหน่อยในบางจังหวะแสง ซึ่งความตรงและโทนสีนั้นแอดมินจะให้ทาง Realme ทำได้ตรงและใกล้เคียงกว่า แต่เรื่องมุมกว้างให้ทาง Vivo ครับผมไม่มีการถ่ายละลายหลังทั้ง 2 ตัวนะครับในส่วนของกล้องหน้า การปรับหน้าเนียนอะไรพวกนี้ทั้ง 2 แบรนด์ก็ขึ้นชื่อกล้องหน้าอยู่แล้วนะครับทำได้ดีแต่จะแตกต่างแค่โทนสีเป็นหลักอย่างที่บอกไปครับ
VIDEO
สำหรับการถ่าย วีดีโอนั้นทั้งคู่สามารถถ่ายได้ 1080P 30FPS ทั้งคู่เท่ากันซึ่งแน่นอนว่าในเรทราคานี้ ระบบกันสั่น EIS OIS นั้นไม่มีมาให้ดูได้จากตัวอย่างที่เราถ่ายเลยครับเมื่อทดสอบเดินแล้วนั้นภาพสั่นพอสมควร จึงมาเทียบกันในเรื่องของเสียง คุณภาพ โทนสีกันดีกว่า ในเรื่องการวัดแสงจะเห็นได้ชัดว่า Vivo นั้น ทำได้ดีกว่า แสงไม่วูบวาบเลยครับดูดีกว่าพอสมควร แต่โทนสียังคงติดโทนอุ่นกว่าของจริงเล็กน้อย แต่ในด้าน เสียงนั้น Realme ถือว่าเสียงดีกว่าเล็กน้อยครับ น้ำหนัก ความแน่นของเสียงมาดีกว่า เท่าที่ได้ลองนะครับ
VIVO Y81I VS REALME C1
สำหรับคู่นี้นั้นทาง VIVO / REALME อาจจะไม่ได้ราคาใกล้เคียงกันแบบเป๊ะๆแต่ก็อยู่ในเรทที่เทียบได้สูสีที่สุดในทั้ง 2 แบรนด์ แต่ก็มีจุดดีเด่นแตกต่างกันแบบคนละด้านเลย แต่เอาจริงๆต้องบอกว่ามือถือแต่ละแบรนด์เค้าก็มีจุดดีเด่นของเค้าไม่มีรุ่นไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกคนแน่นอนครับเราทำเทียบเพื่อจุดประสงค์ว่าจะให้คนที่กำลังดูและเน้นเรื่องไหน เค้าจะเหมาะกับรุ่นไหนมากกว่ากันนั้นเอง แอดมินจะไม่ชี้นำว่า อันนี้ดีสุด ต้องซื้อรุ่นนี้อะไรแบบนั้นนะ แต่จะนำข้อเท็จจริงของแต่ละรุ่นว่ารุ่นนี้เด่นอะไร รุ่นนี้ด้อยยังไงและไปตัดสินใจกันเองครับ แอดมินไม่สามารถตัดสินใจแทนทุกคนได้แน่นอน ได้แต่นำเสนอข้อเท็จจริงและสรุปจากประสบการณ์การใช้งานให้อ่านกันครับ เรามาดูข้อสรุปนิดหน่อยกันครับว่ารุ่นไหนเด่นอะไร และ มีจุดไหนที่ทำได้ใกล้กัน
REALME C1
ข้อเด่น
- หน้าจอทำได้สว่างกว่า 1 ระดับ
- มาพร้อมกล้องหลังคู่ และ โหมด Portrait
- เสียงลำโพงดัง มิติมาดีกว่า แน่นกว่า
- การใช้งาน แบตทำได้ดีกว่าอึดกว่า
- กล้องหน้าโดยรวมทำได้ดีกว่าในเรื่องโทนสี
- กล้องหลังทำได้ดีทั้งย้อนแสง และ กลางวัน รายละเอียดมาดี
- มาพร้อม SNAPDRAGON 450
ข้อสังเกต
- ไม่มี Theme ให้ปรับเปลี่ยน
- กล้องหลังแสงน้อย Noise มาเยอะ และฟุ้งง่าย
- ตัวเครื่องตัดเหลี่ยมดูหนากว่า จับลำบากกว่า
- การปรับแต่งเสียงทำได้น้อยกว่า
- สัมผัสไม่ติดนิ้วเท่าไร
VIVO Y81I
ข้อเด่น
- ตัวเครื่องจับถนัดมือมากกว่าโค้งรับมือได้ดี
- กล้องหน้ามุมกว้างกว่า ถ่ายเก็บได้หมด
- มีหลายสีให้เลือกทั้งแดงและดำ
- กล้องหลังกลางคืนไม่ฟุ้งเท่าไร
- ปรับแต่งเสียงหูฟังได้หลากหลายกว่า
- วีดีโอถ่ายวัดแสงได้นิ่งดีกว่า
ข้อสังเกต
- คุณภาพกล้องโดยรวมทำได้ไม่ดีเท่าไรนักในเรื่องของรายละเอียด
- กล้องติดโทนเหลืองไปหลายๆภาพทั้งหน้าและหลัง
- ลำโพงมิติแบนและเสียงเบา
- กล้องหลังมีแค่ 1 ตัว ไม่มี Portrait
- GPS ไม่นิ่งเท่าไร
- แบตมาน้อยกว่า หมดไวกว่า
พอๆกันทั้ง 2 รุ่น
- ไม่รองรับ Wifi 5Ghz
- ไม่รองรับ Netflix HD /DRM L1
- ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ
- Sensor ต่างๆมีมาให้เหมือนกัน
- ยังคงมี รูหูฟัง 3.5 มม. ให้ทั้ง 2 รุ่น
- ดีไซน์หน้าจอ ขนาดต่างๆทำได้ใกล้เคียงกันมาก
- มีเคสแถมฟิลม์แถมในกล่องติดมาให้เรียบร้อย ไม่มีหูฟัง
- ไม่สามารถปิดติ่งได้ทั้งคู่
- RAM / STORAGE เท่ากัน
สำหรับรีวิวเปรียบเทียบนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
By Nineztr