ปอร์เช่ 911 (รุ่นตัวถัง 992):
ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC: อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย : 7.5 – 10.6 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 13.3 – 9.4 ลิตรต่อ100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย : 304 – 215 กรัมต่อกิโลเมตร
ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP: อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย : 7.6 – 9.9 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 13.0 – 10.1 ลิตรต่อ100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย : 294 – 229 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ 781 เคย์แมน จีที4 (718 Cayman GT4):
ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC: อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย : 9.1 – 9.8 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.9 – 10.2 ลิตรต่อ100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย : 249 – 232 กรัมต่อกิโลเมตร
ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP: อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย: 9.0 – 9.3 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 11.1 – 10.7 ลิตรต่อ100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย : 251 – 242 กรัมต่อกิโลเมตร
บทสัมภาษณ์ Emma Raducanu นักหวดลูกสักหลาดมืออาชีพระดับโลก หนึ่งบุคคลสำคัญของ Porsche Brand Ambassador
“ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะลงเล่นในรายการ Porsche Tennis Grand Prix”
สตุ๊ทการ์ท. Emma Raducanu นักเทนนิสสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี กลายเป็นผู้เล่นรายแรกของประวัติศาสตร์ในวงการกีฬาเทนนิส ที่ผ่านเข้ามาจากรอบคัดเลือก จากรายการแข่งขัน US Open เมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2021 และเธอสามารถเอาชนะในรายการ Grand Slam นี้ได้ โดยในฤดูกาลนี้ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของเธอในรายการแข่งขัน Porsche Tennis Grand Prix ก่อนที่เธอจะไปปรากฎตัวในสนามPorsche Arena ณ เมืองสตุ๊ทการ์ท โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคาดหวังของเธอในทัวร์นาเมนต์นี้ รวมไปถึงสิ่งที่ทำให้เธอชื่นชอบในแบรนด์รถยนต์ปอร์เช่ ตลอดจนกีฬามอเตอร์สปอร์ต และความรู้สึกของเธอเมื่อได้รับตำแหน่ง PorscheBrand Ambassador
Emma เคยมาเยือนเยอรมนีหลายครั้ง อะไรคือความทรงจำของคุณที่มีต่อประเทศนี้?
“ฉันมีหลายความทรงจำที่ดีในประเทศเยอรมนี นั่นคือหลังจากที่ฉันได้แชมป์ในรายการระดับจูเนียร์ที่ Duren และตามด้วยทัวร์นาเม้นท์ใน Hamburg เมื่อปี 2017เราได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวในแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ (Rhein) และเมืองโรแมนติกที่เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ในหุบเขาแม่น้ำ Moselle และสิ่งที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำ คือ น้ำตกด้านหน้ามหาวิหารที่เป็นสัญลักษณ์ ประจำเมืองโคโลญจน์ นั่นคือมหาวิหารโคโลญ ซึ่งถือเป็นความงดงามที่โลกตะลึงอันน่าประทับใจเป็นอย่างมาก”
คุณกำลังจะลงแข่งครั้งแรกในรายการ Porsche Tennis Grand Prix คุณคาดหวังผลการแข่งขันครั้งนี้ในระดับไหน?
“ฉันตื่นเต้นมากที่ได้ลงเล่นคอร์ทดินครั้งแรกในทัวร์นาเม้นท์ WTA ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก และนี่คือรายการแข่งขัน Porsche Tennis Grand Prix ที่ฉันติดตามมาตั้งแต่ในวัยเด็ก อีกทั้งยังเป็นความพิเศษของทัวร์นาเมนต์นี้ โดยที่ผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นรถยนต์ปอร์เช่ ซึ่งแตกต่างจากรายการอื่น ทำให้การแข่งขันในรอบนี้ยังคงอยู่ภายในใจของฉันตลอดมา และนับตั้งแต่เข้าร่วมรายการแข่งขันฉันได้ยินเรื่องราวดี ๆ มากมายเกี่ยวกับการแข่งขันในสนาม Porsche Tennis Grand Prixทำให้ฉันยิ่งมั่นใจอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือหนึ่งในทัวร์นาเม้นต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปฏิทินการแข่งขัน และหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่า ผู้เข้าแข่งขันอยากเป็นผู้ชนะที่จะได้รับรางวัลพิเศษ นั่นคือรถยนต์ปอร์เช่ที่ใครหลาย ๆ คนอยากครอบครอง”
ผู้แข่งขันเก้าคนมาจากมือวาง 10 อันดับแรกของโลก ทำให้ทัวร์นาเม้นต์นี้กลายเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด สิ่งนี้สร้างแรงกระตุ้นอะไรให้แก่คุณหรือไม่?
“สำหรับโอกาสที่ได้มีรายชื่อเพิ่มเข้าไปในลิสต์ของนักเทนนิสระดับหัวแถวของโลกซึ่งเป็นความท้าทายของฉันอย่างสูง ที่ต้องพยายามเอาชนะพวกเขาให้ได้ โดยเฉพาะบนคอร์ทดิน ซึ่งฉันแทบไม่มีประสบการณ์ได้ลงเล่นอย่างจริงจัง และในการแข่งขัน ณ สหราชอาณาจักร French Open เป็นอีกหนึ่งการแข่งขันบนคอร์ทดินที่เป็น highlight สำคัญของฤดูกาลในอนาคต ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก แต่ฉันเคยเอาชนะในการแข่งขันกับผู้เล่นบางคนด้วยประสบการณ์ที่มีไม่มากนัก เรียกได้ว่าการแข่งขันในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นแรงกระตุ้นที่ยิ่งใหญ่”
หากเวลาเอื้ออำนวย คุณจะไปเดินชอปปิ้งรอบตัวเมืองสตุ๊ทการ์ท หรือเลือกที่จะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Porsche Museum?
“ฉันคิดว่าพิพิธภัณฑ์ Porsche Museum น่าจะเป็นตัวเลือกแรกของฉันมากกว่าการไปชอปปิ้ง ในกรณีที่มีเวลาเหลือพียงพอ หรือบางทีฉันอาจจะไปที่โรงงานปอร์เช่เลยก็เป็นได้”
คุณเป็นแฟนตัวยงของกีฬามอเตอร์สปอร์ต อะไรที่ทำให้คุณชื่นชอบกีฬาประเภทนี้?
“ฉันคิดว่ามันเป็นกิจกรรมที่สุดยอดมาก ฉันหลงรักความเร็ว และการขับรถแข่ง การได้สัมผัสช่วงเวลาเร่งเครื่องสุดพลัง และการเบรกอย่างหนักหน่วง นอกจากนี้ฉันยังสนใจในเรื่องของช่างเทคนิค รวมทั้งงานวิศวกรรมอีกด้วย”
คุณเข้ามาข้องเกี่ยวกับวงการมอเตอร์สปอร์ตตั้งแต่ยังเยาว์วัย
“ฉันเริ่มขับรถคาร์ทเมื่ออายุได้ 6 ปี และมันทำให้ฉันแตกต่างจากเด็กหญิง รวมทั้งเด็กชายคนอื่น ซึ่งมันพิเศษ แตกต่าง และยอดเยี่ยมเอามาก ๆ ที่สุดยอดไปกว่านั้นคือความสนุกสนานอันล้นเหลือ และความเชื่อมั่นในตัวเอง จากนั้นฉันยกระดับความท้าทายต่อจากรถคาร์ทมาที่การขับขี่มอเตอร์ครอส ซึ่งฉันรู้สึกสนุกมาก และคิดว่าไม่มีเด็กคนไหนที่จะไม่ชอบการได้เล่นเลอะเทอะในบ่อโคลน”
มันมีส่วนไหนที่เหมือนกัน ระหว่างกีฬามอเตอร์สปอร์ต และเทนนิส?
“มอเตอร์สปอร์ตคือกีฬาที่เกี่ยวข้องกับกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือส่วนที่ฉันชื่นชอบ และมันมีความสัมพันธ์หลายปัจจัยที่คล้ายคลึงกับกีฬาเทนนิส โดยเฉพาะในคอร์ท คุณต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยู่ตลอดเวลา และจะต้องมีสัญชาตญาณที่ไว เพื่อตอบสนองได้ทันต่อสถานการณ์ใหม่ๆ รวมทั้งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้โดยเร็วที่สุด และจะต้องทุ่มเทเวลา รวมถึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากสำหรับการเตรียมตัวให้พร้อม และการฝึกฝนเพื่อเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว แต่ความแตกต่างในกีฬามอเตอร์สปอร์ตกับกีฬาเทนนิส ยังมีจุดสำคัญเล็กๆที่ยังแตกต่างกันมาก เพราะเราจะคุยกันในระดับมิลลิวินาที และวินาที และเหนือไปกว่านั้น ยังมีปัจจัยสำคัญคือ สำหรับกีฬาเทนนิส เมื่อคุณทำผิดพลาด ผลกระทบที่ตามมาจะไม่ได้รุนแรงมากนัก”
ตอนที่อยู่บนถนนล่ะ? คุณเป็นนักขับประเภทไหน?
“ฉันอยากจะพูดว่า ฉันขับขี่ด้วยความปลอดภัยอย่างมาก และเป็นผู้ใช้รถใช้ถนนที่สุภาพ มีความสุขกับการขับรถเร็วเท่าที่กฎหมายกำหนด เมื่อกลับไปที่บ้าน ฉันขับรถสามชั่วโมงต่อวันเพื่อไปฝึกซ้อม ในระหว่างเดินทางฉันไม่มีโอกาสได้ขับรถบ่อยเท่ากับเมื่อสมัยเด็กที่ยังเช่ารถขับ”
ปอร์เช่ เข้าร่วมการแข่งขันแบบ endurance racing และรายการ Formula E การแข่งขันแบบไหนที่คุณอยากเข้าไปมีประสบการณ์แบบจริงจังจากขอบสนาม?
“การแข่งขันแบบเอนดูรานซ์ เป็น 1 ในประเภทของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแบบ Circuit (วิ่งวนรอบสนาม) เป็นการแข่งขันแบบระยะยาวที่มีขึ้นเพื่อทดสอบความทนทานของรถยนต์ ความอดทนของนักแข่งทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งทีมงานทุกคนที่ต้องเตรียมความพร้อมตลอดการแข่งขัน คล้ายกับการแข่งเทนนิสแบบ3 เซต ซึ่งท้ายที่สุดแล้วชัยชนะจะตกเป็นของผู้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีทักษะ มันยังคงเป็นจุดน่าสนใจสำหรับแฟนกีฬา แต่ในส่วน Formula E ก็มีความดึงดูดเช่นเดียวกัน เนื่องจากมันเป็นนวัตกรรมซีรี่ย์การแข่งขันรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและฉันรู้ว่ามอเตอร์ไฟฟ้าสามารถสร้างแรงบิด รวมทั้งอัตราเร่งได้มากมายขนาดไหน ในขณะที่รถแต่ละคันไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกันนัก ถือได้ว่าการแข่งขัน Formular E เป็นการยกระดับการแข่งขันให้เหนือชั้นกว่ารายการอื่นได้ และเห็นได้ชัดว่านี่ถือเป็นส่วนหนึ่งที่น่าสนใจที่สุดของกีฬามอเตอร์สปอร์ต”
นักแข่งรถคนไหน ที่คุณอยากจะเข้าหลักสูตรอบรมการขับขี่ด้วย และคุณอยากจะขับรถอะไร?
“ฉันอยากที่จะนั่งหลังพวงมาลัยของปอร์เช่ 911 เพราะเป็นรถยนต์ที่ฉันชอบ และอีกรุ่นที่ฉันให้ความสนใจมากคือ รุ่น 718 เคย์แมน จีที 4 (718 Cayman GT4) รถสปอร์ตตัวแรงของปอร์เช่ ในส่วนของนักแข่งในดวงใจคือ Daniel Ricciardo ถือเป็นคนโปรดที่ฉันชื่นชอบ และฉันคิดว่าฉันอยากเรียนรู้ทักษะการขับขี่ และสไตล์ที่เรียบง่าย น่าจะทำให้การขับขี่นั้นสนุกขึ้น รวมไปถึงการสื่อสาร และการเรียนรู้ที่จะช่วยให้พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว”
รถยนต์ปอร์เช่ที่คุณชอบคือ 911 เพราะอะไร?
“อดีตผู้ฝึกสอนของฉันทั้ง 2 คนขับรถยนต์ปอร์เช่ 911 เมื่อใดก็ตามที่ฉันเดินทางไปยังสนามซ้อมในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน ฉันจะเห็นรถยนต์ปอร์เช่ มันทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น หลงรักและชอบรถคันนั้นมาก และอยากที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของจริงๆ เมื่อโตขึ้นฉันได้ไปที่สนาม Brands Hatch และชมการแข่งขันรายการ Porsche Carrera Cup รอบชิงชนะเลิศ ทำให้ฉันเห็นว่าปอร์เช่ 911 ในทุกเจเนอเรชั่นนั้นล้วนเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ งามสง่าในวิถีทางที่แตกต่างไม่เหมือนใคร และรถคันนี้คือตำนาน เปรียบเสมือนกับตัวแทนของสมรรถนะ ภาพลักษณ์ และสไตล์ของปอร์เช่”
ตอนนี้คุณเดินทางถึงฝั่งฝันทั้งในสนาม และนอกสนาม อะไรที่ทำให้คุณรักษาความกระตือรือร้นเอาไว้ได้?
“ฉันคิดว่าความท้าทายใหม่ จะปรากฏออกมาอยู่เสมอ และคุณจะต้องเปลี่ยนเป้าหมายของคุณไปเรื่อยๆ โดยส่วนตัวฉันจะโฟกัสไปที่การพัฒนาตัวเองเพื่อการแข่งขัน และนั่นคือสิ่งที่ผลักดันฉันเป็นอย่างมาก”
คุณเพิ่งจะได้รับโอกาสให้เป็น Porsche-Brand Ambassador มีสิ่งไหนที่คุณชื่นชอบ?
“การได้รับโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ที่ฉันหลงไหล มันมีความสำคัญสำหรับฉันอย่างมาก และฉันรู้สึกพิเศษที่ ได้ร่วมงานกับปอร์เช่ นั่นถือเป็นเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ และแน่นอนว่าฉันตื่นเต้นจนแทบจะอดใจรอไม่ไหวกับกิจกรรมต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้”