หลังจากที่ Meta ประกาศในรายงานฉบับใหม่ว่าอาจหยุดให้บริการ Facebook และ Instagram ในโซนสหภาพยุโรป (EU) เนื่องจากข้อบังคับฉบับใหม่ที่บังคับให้บริษัทที่เก็บข้อมูลผู้ใช้งานจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในสหภาพยุโรปเท่านั้น ไม่สามารถถ่ายโอนออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอกได้ ดังที่ Meta ได้ส่งข้อมูลจากยุโรปไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐ ฯ
ในวันนี้ตัวแทนของทางการ EU จำนวน 2 คนคือ Robert Habeck รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเยอรมนี และ Bruno Le Maire รัฐมนตรีกระทรวงการเงินของฝรั่งเศสได้ออกมาแสดงความเห็นกับข้อบังคับข้างต้นของ Meta เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการยุติการให้บริการ Facebook และ Instagram ในโซน EU
Habeck กล่าวว่า “ชีวิตของเขาที่ไม่มี Facebook ถือเป็นชีวิตที่ดีมาก” พร้อมทั้งระบุว่า EU เป็นตลาดที่ทรงพลัง หากว่ากระทำสิ่งต่าง ๆ รวมกันเป็นหนึ่งเดียวจะก็ไม่ถูกข่มขู่จากสถานการณ์เช่นนี้ นอกจากนั้นทาง Maire ยังได้แสดงความเห็นว่า “ผู้คนจะมีชีวิตที่ดีมากเมื่อปราศจาก Facebook” และได้ยืนยันว่าทาง EU จะไม่หยุดการปกป้องสิทธิของประชาชนของตัวเอง
อย่างไรก็ตามทาง Meta ได้ออกมาระบุว่าทางบริษัทไม่ได้ข่มขู่จะหยุดทำธุรกิจในสหภาพยุโรปแต่อย่างใด พร้อมตอบโต้ข่าวลือก่อนหน้านี้ว่าทางบริษัทได้ประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ และแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบอย่างละเอียด ซึ่งปัจจัยข้อบังคับที่ห้ามถ่ายโอนข้อมูลจากสหภาพยุโรปไปยังสหรัฐ ฯ ก็เป็นหนึ่งในความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจของบริษัท
อีกทั้งบริษัทอื่น ๆ อีกกว่า 70 แห่งก็ออกมาเปิดเผยความเสี่ยงเรื่องข้อบังคับเกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูลดังกล่าวด้วยเช่นกัน และ Meta ยังได้ระบุว่าการถ่ายโอนข้อมูลข้ามชาติอย่างเสรีถือเป็นปัจจัยสำคัญในเศรษฐกิจการเมืองในปัจจุบัน ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องการกฎระเบียบข้อบังคับที่มีความชัดเจนในระยะยาว และทาง Meta ได้ทำการติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้คนนับล้านและธุรกิจต่าง ๆ ที่ให้ข้อมูลแก่ทางบริษัทอย่างใกล้ชิด