สำหรับ FITNESS Tracker นั้นจริงๆเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจะมีกลุ่มลูกค้าชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นต้องการแบบ Smartwatch อะไรมาก คือใส่ออกกำลังโดยเฉพาะเลยและมีนาฬิกาตัวโปรดอยู่แล้ว ในกลุ่มลูกค้าในแนวนี้ก็บอกได้ว่ามันมีค่อนข้างเยอะและจึงทำให้หลายๆตัวยังคงนำเสนอ Smartband / Fitness Tracker ออกมาเรื่อยๆครับใช้งานอึดๆ จับได้แม่นๆ เบาสบายไม่เทอะทะนั้นเอง กลุ่มลูกค้าพวกนี้จึงไม่ได้มองไปที่ Smartwatch และแน่นอนว่าหลายๆตัวราคาไม่ได้แรงเลยและจับต้องง่ายครับ และเช่นกัน FITBIT Charge เป็นตระกูลที่ขายดีที่สุดของทาง FITBIT และในวันนี้สานต่อมารุ่นที่ 3 แล้ว มีการพัฒนามากมายและดีไซน์เป็นจุดเปลี่ยนหลักๆเลย

FITBIT CHARGE 3 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นคือดีไซน์พึ่งเปิดตัวในไทยได้ไม่นานครับ อย่างที่บอกคือการออกแบบในครั้งนี้ ขอยืมรูปจากเว็บมานะครับมันมีสายหลายแบบมากขึ้นและ มีทั้งสายหรูแบบหนัง สายผ้าสวยๆ หรือสายแบบออกกำลังก็มีมาให้เยอะกว่ารุ่นก่อนๆมากครับเป็นจุดที่ทำมาตอบโจทย์ได้ดี สายเปลี่ยนง่ายและ ตัวเรือนได้มีการอัพเกรดระบบสัมผัสหน้าจอมาดีขึ้น ปุ่มด้านข้างเป็นรองรับแรงกดไม่มีปุ่มจริงๆแล้ว สามารถว่ายน้ำได้ ลงน้ำได้ลึก 50 เมตร ครับ และ หน้าจอบอกข้อมูลแสดงผลใหญ่ขึ้น สวยขึ้นและเคลื่อนไหวเนียนตาขึ้นครับถือว่าพัฒนามาเยอะเลย

FITBIT CHARGE 3 เปิดราคาในประเทศไทยมาด้วย 4 รุ่นหลักๆครับ 

  • สีน้ำเงิน/เทา (รุ่นปกติ) : ขอบตัวเรือนสีทองโรสโกลด์ สายซิลิโคนคลาสสิคสีน้ำเงิน/เทา
  • สีดำ (รุ่นปกติ) : ขอบตัวเรือนสีเทา  สายซิลิโคนคลาสสิคสีดำล้วน ตัวที่รีวิว
  • สีขาว (รุ่นพิเศษ) : ขอบตัวเรือนสีเทา  สายซิลิโคนรูสีขาว และ สายซิลิโคนคลาสสิคสีดำ
  • สีลาเวนเดอร์ (รุ่นพิเศษ) : ขอบตัวเรือนสีทองโรสโกลด์ สายผ้าสีลาเวนเดอร์ และ สายซิลิโคนคลาสสิคสีดำ

UNBOX

  • ตัวเรือน Fitbit Charge 3
  • สายสำหรับเปลี่ยนคนข้อมือใหญ่ ขนาด L
  • ที่ชาร์จ หัว USB
  • คู่มือ

DESIGN

การออกแบบตัวนี้ได้มีการพัฒนาให้มีความหรูมากขึ้นสวยมากขึ้นและยังสามารถเปลี่ยนสายได้มากขึ้นครับ หน้าจอขนาดใหญ่กว่าเดิมแสดงผลแบบขาวดำ OLED และ ครอบทับด้วย Gorilla Glass 3 มาในการออกแบบเหลี่ยมๆตามแนวทางของ Fitbit มองไกลๆก็มองออกว่าแบรนด์นี้ครับแนวทางการออกแบบชัดเจนดี กระจกเรียบๆครับผม น้ำหนัก วัสดุโดยรวมทำได้ดีและแน่นหนารวมถึงการตัดปุ่มออกไปทำให้บอดี้แข็งแรงกว่าเดิมแน่ๆและกันน้ำได้ดีขึ้นครับ รวมถึงบอดี้เรียบสวยงามขึ้นเลยครับ

ด้านหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลักๆคือส่วนของการออกแบบหน้าจอนั้นมีขนาดเต็มตามากขึ้น ดูเรียบและสวยกว่าเดิมครับหน้าจอสีดำทั้งชิ้นและขอบเหลี่ยมรอบตัวจอสวยงาม โลโก้แบรนด์อยู่ในด้านล่าง จอแสดงผล ใหญ่กว่าเดิม สว่างกว่าเดิม และ มีอนิเมชั่นเคลื่อนไหวได้ดีเนียนตากว่าเดิมครับ จอใช้กระจก Gorilla Glass 3 ครอบทับครับ จอสีดำจะไม่ได้โค้งลงขอบทั้ง 2 ข้างแบบเดิมแล้วนะครับ เป็นกรอบล้อมรอบแทนทั้ง 4 ด้านเลยทำให้ดูหรูเป็นสัดส่วนมากกว่าเดิมด้วยครับ ว่าส่วนของสายกับตัวหน้าจอนั้นแยกกันชัดเจน และถ้าบอดี้สีทองก็จะสวยงามเลยแหละ

มาที่ด้านข้างกันบ้าง นี่ก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนหลักๆเลยคือมันไม่ใช่ปุ่มแบบกดลงไปแล้วนะครับ ไม่เหมือนในรุ่นที่แล้วอย่างแน่นอน มันคือปุ่มรองรับแรงกด หรือ ง่ายๆคือคล้ายๆปุ่ม Home บน iPhone 8 นั้นแหละครับที่กดลงไปแล้วจะสั่นตอบมา ไม่สามารถกดลงไปจริงๆ ตัวนี้ไม่มีปุ่มเป็นแค่รอยเว้าบอกว่ากดตรงนี้เฉยๆเมื่อกดแล้วจะสั่นเบาๆตอบกลับมาครับ แน่นอนว่ามันจะสั่นทั้งตัวเรือนเลย อาจจะรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหาการใช้งานแต่อย่างใดกดได้ทั้งในน้ำ และ บนบกทั่วไปครับตอนสนองได้ดี และ สามารถใช้งานได้ค่อนข้างดีเลยแหละ ทำให้บอดี้แข็งแรง เป็นชิ้นเดียวกันมากขึ้นกว่าเดิมและแน่นอนว่าความทนทานมากขึ้นครับในการใช้แบบนี้ ส่วนความหนาบอดี้นั้นไม่ได้หนามาก

มาที่ด้านขวากันบ้างครับในด้านนี้จะไม่มีอะไรเลยเรียบๆจะเห็นวัสดุของตัวเรือนที่เป็นสีเทาด้านสวยงามครับและเส้นสายการเล่นลวดลายของตัวสาย กับ ตัวเรือนเข้ากันได้อย่างลงตัว คือดูมีดีไซน์สัดส่วนสวยกว่ารุ่นเดิมจริงๆนะ และตัวเซนเซอร์วัดชีพจรจะนูนออกมาเล็กน้อยเพื่อจะได้ผลการวัดที่แม่นยำ และ แนบกับผิวหนังของเราได้ดีสุดครับ งานวัสดุออกแบบนั้นต้องบอกว่าเนี้ยบสมราคาเลย

ตัวสายรุ่นนี้ยังคงมีสายลายคลาสสิคมาเช่นเคยกับลาย 4 เหลี่ยมสวยงามแต่มาในลักษณะที่มีความเรียบง่ายมากขึ้น แต่ครั้งนี้ดีอย่างที่สายสามารถเปลี่ยนได้ง่าย มีสายผ้า สายหนัง สายแบบเจาะรูให้เลือกค่อนข้างเยอะครับ ตัวตะขอล็อคอะไรก็แข็งแรงมีขนาดเล็กลงแต่กว้างขึ้น โค้งมนขึ้นครับ วัสดุที่สายทำมาใส่สบาย แน่นและไม่เกิดอาการแพ้

ในส่วนของด้านหลังตัวนี้เป็นที่อยู่ในด้านเซนเซอร์ทั้งหมด วัดชีพจรต่างๆครับ มีขนาดใหญ่พอสมควร และครอบทับด้วยกระจกอีกชั้นนึง รวมถึงเป็นที่สำหรับชาร์จไฟเข้าตัว Fitbit Charge 3 อีกด้วยครับ และ ตัวเซนเซอร์มีเปลี่ยนแปลงรูปทรงแตกต่างกับ รุ่น 2 เล็กน้อยครับ บอดี้ด้านหลังเป็นสีเดียวกับขอบด้านข้าง และเป็นขึ้นรูปทั้งชิ้นแข็งแรงและสวยเลยครับ และตรงข้อต่อสายทั้ง 2 ข้างอันนั้นจะเป็นสลักสำหรับการเปลี่ยนสายที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิมครับเป็นอีกจุดที่มีการพัฒนามามากขึ้นจากรุ่นเดิมด้วย

โดยรวมด้านดีไซน์แอดมินยกให้เป็นการพัฒนาที่ชัดเจนดีขึ้นและสวยงามขึ้นแน่นอนว่ามันดูเป็น Smartband มากขึ้นมากกว่าแค่สายรัดข้อมือเรียบๆแบบตัวก่อนครับ ตัวเรือนมีนูนขึ้นมาจากตัวสาย การออกแบบให้ดูดีขึ้นในส่วนของหน้าจอ สาย ขอบหน้าจอ รวมถึงบอดี้ที่เป็นชิ้นเดียวกัน และสายที่เปลี่ยนได้ง่ายและหลายแบบครับ จุดนี้ทำมาได้ดีจริงๆ

SPEC 

  • กันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร
  • รองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน (ภาษาอังกฤษ)
  • รองรับการใช้งาน GPS (เมื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเท่านั้น)
  • ใช้งานได้สูงสุดถึง 7 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • เซนเซอร์วัดชีพจร ตลอด 24 ชั่วโมง
  • จัดการชำระเงินได้ด้วย Fitbit Pay
  • หน้าจอระบบสัมผัส ปรับแสดงหน้าจออัตโนมัติ
  • หน้าจอกระจก Gorilla® Glass 3 ป้องกันรอย
  • ติดตามคุณภาพการนอนหลับอัตโนมัติ

SOFTWARE

ทางด้าน Software ยังใช้แอพ FITBIT เช่นเคย สามารถกดเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปได้เลยครับ ตัวแอพนั้นยังคงใช้พื้นฐานเดิมๆถ้าใช้กันอยู๋แล้วคงไม่ต้องปรับอะไรมากครับผม ตัวแอพนั้นก็จะเป็นตัวที่คอยสรุปข้อมูลแต่ละวันพวกนี้ให้เรารับชมกัน แต่ถ้าดูข้อมูลนั้นแบบแค่ตัวเลขก็จะสามารถดูบน นาฬิกา เราได้ครับ หรือจะกดให้มัน แทรก การวื่ง วายน้ำ พวกนี้มันก็จะสามารถกดได้ผ่านตัวนาฬิกาได้เลยครับไม่ต้องใช้มือถือ แต่พวก GPS นั้นยังคงต้องเชื่อมกับมือถือไว้ตลอดนะครับผม และ มันจะมีการจับอัตโนมัติว่าเรา หยุดวิ่ง หรือ เริ่มวิ่งเวลาติดข้ามถนนพวกนี้เราไม่ต้องมากดเอง รวมถึงการใช้งานมันจะเริ่มโดยอัตโนมัติถ้าเราไป วิ่ง หรือว่ายน้ำครับผม มันจะจับโดยการสังเกตุว่าเราวิ่งนานเกิน 15 นาที หรือว่ายน้ำนานๆมันก็จะเริ่มจับให้เราเลย แต่เราก็ตั้งค่าได้ครับว่าจะให้เริ่มสังเกตเราว่าวิ่งนานเกินกี่นาทีนั้นเอง

FEATURE

  • หน้าจอระบบสัมผัส ปรับแสดงหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม
  • ตัวเรือนทำจากอลูมิเนียมมีน้ำหนักเบา หน้าจอกระจก Gorilla® Glass 3 ป้องกันรอย
  • เซนเซอร์วัดชีพจรที่ข้อมือ ติดตามตลอด 24 ชั่วโมง แสดงผลชีพจรบนหน้าจอหลัก
  • เลือกปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าปัดนาฬิกาได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์
  • แสดงปริมาณแคลอรี่เผาผาญตลอดทั้งวัน และ เป้าหมายของการออกกำลังกาย
  • ติดตามคุณภาพการนอนหลับอัตโนมัติ พร้อมข้อมูลเชิงลึก และ ระยะเวลาการนอน
  • โหมดฟิตเนสกว่า 15 ชนิด เช่น วิ่ง,จักรยาน,ว่ายน้ำ พร้อมรับคำแนะนำแบบ Real-Time
  • กันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร ติดตามการว่ายน้ำสระอัตโนมัติ
  • โหมดผ่อนคลายความเครียด รับคำแนะนำการกำหนดลมหายใจจากระดับชีพจร
  • ระบบแจ้งเตือนให้แอคทีฟ เมื่อนั่งอยู่กับที่นานเกินไป ลุกขึ้นขยับตัวเพื่อเคลื่อนไหว
  • รองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน Smartphone Notifications (ภาษาอังกฤษ)
  • รองรับการใช้งาน GPS ติดตาม ระยะทาง และ Pace (เมื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเท่านั้น)
  • เปลี่ยนสายได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ปรับเปลี่ยนสายได้ตามความต้องการ
  • ใช้งานได้สูงสุดถึง 7 วัน ต่อการแบตเตอรี่ชาร์จ 1 ครั้ง
  • รับคำแนะนำการใช้งานด้วยทีมงานทีเอสเอ็มแอคทีฟ
  • ภายในกล่องมีสายให้เลือกเปลี่ยน 2 ขนาด (S & L)

ฟีเจอร์ในการใช้งานตัวนี้มีค่อนข้างหลากหลายยมากกก และแน่นอนว่าใช้งานได้ดีครับเด่นๆคือในเรื่องของการวัดชีพจรการแทรคกิจกรรมต่างๆทำได้ดีเลยนะแม่นและทำงานสม่ำเสมอดีครับไว้ใจได้เลยแหละ แต่ในด้าน GPS อาจจะยังต้องพึ่งการใช้งานร่วมกับมือถือครับ จากที่แอดมินได้ลองแม้จะไม่ได้ไปออกกำลังกายเต็มที่อะไรมากเอาแค่ใช้งานทั่วไปกันก่อนครับ พวกการแจ้งเตือนอะไรพวกนี้สั่นแรงแจ้งเตือนได้ดี แต่ !! ภาษาไทยพี่ยังไม่รองรับซะที นานแล้วนะสำหรับค่ายนี้ ออกมารองรับเร็วๆหน่อยนะ ตั้งแต่ Fibit Versa – Ionic ก็บ่นเรื่องนี้ไปหลายรอบเลยทางเราก็หวังว่าจะอัพเดทมาให้ลูกค้าชาวไทยเร็วๆนะครับแล้วชีวิตจะดีขึ้นมาก นอกจากเรื่องนี้ก็ยังไม่ค่อยมีเรื่องให้ขัดใจครับ ทั้งการแจ้งเตือน ตอบกลับต่างๆก็เป็นสิ่งที่ใช้งานได้จริงถ้ามันรองรับภาษาไทย สามารถลากลงมาและกดเคลียร์ได้ หรือจะเป็นการใช้งานหน้าจอสัมผัสนั้นค่อนข้างไวและลื่นดีครับ และ การแจ้งเตือนมันเปลี่ยนเพลงได้เวลาเราเปิดเพลงบน Spotify ครับผมสามารถเปลี่ยน แทร็คได้ผ่านทางหน้า  Noti กดหยุดเล่นอะไรได้ ถือว่าสะดวกแม้จะไม่มีแอพมาให้ครับ แต่ก็อยากให้มีแอพออกมาเต็มๆนะ สามารถเปิดเพลงเลือกเพลงอะไรได้ผ่านนาฬิกาน่าจะดีมากเลย

ในด้านการรับสายนั้นเมื่อมีคนโทรมาแน่นอนว่าต้องเชื่อมไว้ตลอด สามารถแจ้งเตือนในส่วนนี้ได้ดีครับสั่นแรง จอมีบอกชื่อถ้าภาษา อังกฤษนั้นก็จะโชว์แบบในภาพเลย สามารถ กดวางสาย รับสายได้ เราเลื่อนตัวเลือกขึ้นมาได้เลย  ส่วนฟีเจอร์อื่นๆก็สามารถใช้งานพวก การกด นับเวลา สภาพอากาศอะไรได้ผ่านตัวนาฬิกา กด แทรคกิจกรรมได้เลยไม่ต้องผ่านมือถือครับ หรือเช็คพวกชีพจรก็เลื่อนดูได้เลย การนับก้าวข้อมูลทั้งหลายแต่จะเข้าไปดูแต่ละส่วนไม่ได้ ดูแค่ตัวเลขล่าสุด ครับผม ข้อมูลเยอะๆต้องผ่านแอพ ส่วน Fitbit pay กดข้างๆค้างไว้ครับจะเข้าหน้าจ่ายตัง ตอนนี้รองรับ SCB-KBANK-KTC ครับผมแค่ 3 ธนาคารก่อน ในอนาคตน่าจะมีอัพเดทเพิ่มที่รองรับครับผม

ส่วนตัวการแทร็คกิจกรรมโดยอัตโนมัติมันจะจับให้เองถ้ามันรู้ว่าเราวิ่งนานเกิน 15 นาที หรือเราสามารถตั้งได้ครับว่าจะให้มันสังเกตตอนที่วิ่งนานเกินกี่นาทีมันก็จะจับให้เลย ควบคุมใช้งานง่ายขึ้นและสะดวกมากๆในการเข้าเมนูต่างๆครับ

FEELING 

ในการสวมใส่ตัว Fitbit Charge 3 ตัวนี้น้ำหนักเบา ขนาดไม่ใหญ่เกินไปเช่นในภาพสาวๆตัวเล็กใส่ก็ยังดูดีและไม่ได้เทอะทะเกินไปครับ การสวมใส่นั้นค่อนข้างสบายครับทั้งวัสดุสายทำมาดีแน่นอนอยู่แล้ว การรัดข้อมือพอดีและรับกับทรงข้อมือได้ดีทั้งผู้ชาย ผู้หญิงใส่ได้ทั้งหมดและมีสายมาเปลี่ยนให้ด้วยกัน 2 ขนาดครับผม เรื่องของการใส่นั้นไม่เจอปัญหาหรืออะไรครับใส่สบายและไม่รู้สึกหนักหรือเทอะทะเลย แต่ได้หน้าจอใหญ่ขึ้นและสวยกว่ารุ่นเดิมครับผม ในเรื่องของแบต  ตัวนี้อายุการใช้งานถ้าเปิด Sync ไว้ตลอดทั้งนอนทั้งตื่นแบบทั้งวันได้ประมาณ 2-4 วันครับผมแล้วแต่การใช้งานของแต่ละท่านว่าแจ้งเตือนเยอะขนาดไหน หรือแทร็คกิจกรรมบ่อยแค่ไหนครับ ก็ขึ้นอยู่การใช้งานของแต่ละท่านเลย ส่วนเวลาชาร์จเข้าค่อนข้างไวนะครับถือใช้เวลาไม่นานเลย บางทีลืมชาร์จรีบๆชาร์จก่อนไปวิ่งก็ใช้ได้จนจบการวิ่งของวันนั้นได้ครับ ไม่รู้สึกนานเท่าตัวอื่นๆเท่าไรนะ

ในด้านการใช้งานนั้นจริงๆการปรับเปลี่ยนปุ่มการปุ่มจริงๆมันเป็นบอดี้ที่รับแรงกดได้จากด้านข้างถือว่าต้องมีการพัฒนามาอย่างดีแล้วหละไม่ให้มันเอ๋อ หรือ ไปโดนง่ายๆตัวข้างๆนั้นต้องใช้แรงกด ถ้าเราแตะนั้นไม่ทำงานนะครับต้องออกแรงกดแบบปุ่มจริงๆเลยนั้นแหละเมื่อกดแล้วตัวเครื่องจะสั่นตอบสนองกลับมานิดหน่อย คล้ายๆใน HTC U12+ หรือตัว Apple Watch ตัวใหม่นั้นเอง จากที่ใช้งานมาซักพักไม่เจออาการ เอ๋อ กดยากหรือเผลอโดนอะไรครับผม ในด้านหน้าจอสัมผัส และหน้าจอแบบใหม่เวลา มีไอคอนเคลื่อนไหวนั้นทำออกมาได้เนียนตาขึ้นครับ และการสัมผัสหน้าจอนั้นไม่เจอปัญหาอะไรทำได้ลื่นและตอบสนองต่อนิ้วได้ดีครับ หน้าจอสัมผัสเต็มรูปแบบเลื่อนซ้ายขวา ขึ้นลง กดได้ครับผม ส่วนเป็นรอยง่ายไหมจริงๆ Gorilla Glass 3 แอบเป็นรอยง่ายนะถ้ามีฟิลม์ติดไว้ก็ดีเหมือนกันครับผม

FITBIT CHARGE 3
” พัฒนาชัด ทั้งดีไซน์ และ กันน้ำ ว่ายน้ำ แต่ ภาษาไทยยังเป็นปัญหา “

ทุกครั้งที่แอดมินรีวิวใช้งาน Fitbit แน่นอนว่ประทับมันทุกครั้งเลยนะ แต่มันมีจุดนึงที่ยังไม่ค่อยโอเคเลยคือภาษาไทยของมัน ไม่งั้นมันจะลงตัวมากๆอีกรุ่นเลย โดนทางแอดมินชอบดีไซน์ของค่ายนี้แบบเหลี่ยมๆสันคม เท่ เรียบๆแต่แฝงไปด้วยความหรูของทาง Fitbit อยู่แล้ว ยกเว้น Versa อันนั้นไม่เหลี่ยม 555 ฟีเจอร์การวัดความแม่นก็เชื่อถือได้ครับ ในรุ่นนี้รู้สึกได้ถึงการพัฒนาของดีไซน์ ฟีเจอร์ การใช้งาน  และตัวบอดี้ที่สวยดูดีขึ้นครับ แต่มันเกือบจะสุดแล้วขาดในบางส่วนเช่น ไม่มีแอพ 3rd Party หรือจะเป็น Gps ในตัวพวกนี้ยังแอบขาดไปนิดๆหน่อยครับ จึงทำให้มันเกือบจะสุดแล้วยิ่งสำหรับในไทยภาษาไทยยังไม่รองรับซะทีเลยยังทำให้มันใช้งานไม่เต็มที่ของมันเท่าไรด้วยครับผม

ข้อดี 

  • การออกแบบตัวเรือนสวยงาม รวมถึงวัสดุ สายต่างๆ
  • หน้าจอสู้แสงได้ดี คมชัด และ เนียนตา
  • ระบบสัมผัสทำงานได้ดีในการใช้งาน
  • ปุ่มรองรับแรงกดทำงานได้ดีไม่เจออาการเอ๋อ
  • แบตถ้าใช้งานทั่วไปเกิน 1 อาทิตย์ได้ครับ
  • กันน้ำได้ 5ATM ใส่ว่ายน้ำได้
  • สายเปลี่ยนได้ง่ายกว่าเดิม
  • ระบบการวัดทำได้แม่นและเชื่อถือได้

ข้อสังเกต

  • ยังไม่รองรับภาษาไทย ซะที..
  • ยังคงไม่มี GPS ในตัว
  • ยังไม่มีแอพภายนอกมากนัก
  • ยังไม่รองรับส่งข้อมูลไป Apple Healt Google Fit

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

ขอบคุณ น้องแพทนางแบบน่ารักๆ ในบทความนี้ด้วยนะครับ 

By Nineztr