สำนักวิเคราะห์ IDC (The International Data Corporation) ได้เปิดเผยรายงานการติดตามตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่ 2 (เมษายน-มิถุนายน) ของปีนี้ว่าได้มีการเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 13.2% ด้วยยอดส่งมอบกว่า 313.2 ล้านเครื่อง และผู้ครอบส่วนแบ่งตลาดมากเป็น 5 อันดับแรกได้แก่ Samsung, Xiaomi, Apple, OPPO และ Vivo
Samsung ครองอันดับหนึ่งของตลาดในไตรมาสที่ 2 ด้วยยอดส่งมอบกว่า 59 ล้านยูนิต ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 9.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ Xiaomi ขึ้นเป็นอันดับสองครั้งแรก ด้วยยอดส่งมอบกว่า 53.1 ล้านยูนิต ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมาถึง 86.6% ทำให้สามารถเอาชนะ Apple ได้
ในส่วนของ Apple ครองอันดับที่ 3 โดยมียอดส่งมอบ 44.2 ล้านหน่วย ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 17.8% และทางด้านของ OPPO และ vivo ได้อันดับ 4 และ 5 ด้วยยอดส่งมอบ 32.8 ล้านยูนิตและ 31.6 ล้านยูนิตตามลำดับ ส่วนแบรนด์อื่น ๆ มียอดส่งมอบรวมกับ 92.4 ล้านยูนิตซึ่งเติบโต -15.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกกำลังพบกับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ทั้งการที่ LG ออกจากตลาดสมาร์ตโฟน Huawei กำลังอยู่ในช่วงกับขาลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แบรนด์อย่าง Motorola, TCL และ OnePlus ก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จในตลาดประเทศจีนที่ Xiaomi, OPPO, vivo และ Apple ครองส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศมากที่สุด
นอกจากนี้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จีนยังเป็นภูมิภาคเดียวที่มีการเติบโตของตลาดสมาร์ตโฟนติดลบเนื่องจากไม่ค่อยมีสมาร์ตโฟนเรือธงเปิดตัวมากนัก และความต้องการสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Huawei ที่ค่อนข้างสูงนั่นเอง
อย่างไรก็ดีตลาดสมาร์ตโฟนยังถือว่าโชคดีกว่าตลาด PC, อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิตหน้าจอ เนื่องการตลาดสมาร์ตโฟนได้รับผลกระทบจากปัญหาซัพพลายเชนที่เบาบางกว่าอุตสาหกรรมเหล่านั้น