ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2024 มีข่าวว่าแบรนด์รถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Honda และ Nissan จะควบรวมกิจการกัน ซึ่งดีลดังกล่าวมีมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) โดยเชื่อกันว่าเป็นความพยายามเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้ดีขึ้น แต่ล่าสุดดีลนี้ได้ถูกยกเลิกแล้ว
ทั้งสองบริษัทได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะไม่มีการควบรวมกิจการเกิดขึ้น โดย Honda และ Nissan ยืนยันการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ว่าด้วยการควบรวมกิจการแล้ว
ใน MOU ระบุว่าการควบรวมกิจการจะเกิดขึ้นภายใต้บริษัทโฮลดิ้งใหม่ อย่างไรก็ดี รายงานใหม่ระบุว่าการเจรจาติดขัดเมื่อ Honda เสนอว่า แทนที่จะเป็นหุ้นส่วนเท่าเทียมกัน Honda ต้องการเปลี่ยน Nissan ให้เป็นบริษัทย่อยของตนผ่านการแลกเปลี่ยนหุ้น ซึ่งจะทำให้ Nissan เสียเปรียบมากๆ
ในแถลงการณ์ร่วม ผู้ผลิตรถยนต์ให้เหตุผลในการยกเลิกดีลข้างต้นว่ามาจากความจำเป็นในการตัดสินใจและดำเนินการตามอย่างความเร็วในตลาดที่ผันผวนมากขึ้นจากการมุ่งหน้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า
หลังจากนี้ แทนที่จะควบรวมกิจการกัน Honda และ Nissan จะกลายเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ และร่วมมือกันในด้านยานยนต์อัจฉริยะและไฟฟ้า
การที่ดีลควบรวมกิจการล่มจะไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานทางการเงินในปัจจุบันของทั้งสองบริษัท Honda เพิ่งรายงานกำไรลดลง 7% ในช่วงเดือนเมษายนถึงธันวาคม โดยมีกำไร 8.05 แสนล้านเยน (ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท)
น่าเสียดายสำหรับ Nissan บริษัทคาดการณ์ว่าจะขาดทุนสุทธิ 467 ล้านยูโร (ประมาณ 1.64 หมื่นล้านบาท) ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม ลดลงอย่างมากจากกำไรในปีที่แล้วที่ 426.6 พันล้านเยน (ประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท)
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ Mitsubishi Motors ยังพิจารณาเข้าร่วมกิจการกับ Honda-Nissan และมีส่วนร่วมในการเจรจาระดับต้นด้วย
