ทุกวันนี้ เทรนด์การใช้หูฟังเปลี่ยนไปแทบจะทุกปี โดยในช่วงปีหลังมานี้จะสังเกตได้ว่าผู้บริโภคส่วนมากหันมาใช้หูฟังแบบไร้สายเยอะขึ้นมาก ทั้งแบบสวมหูและครอบหู บวกกับไลฟ์สไตล์การทำงานนอกสถานที่ที่เป็น new normal ไปแล้ว ล่าสุดหัวเว่ยได้ปล่อย HUAWEI FreeBuds 5 หูฟังที่นับว่าเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ได้ใช้เทคโนโลยี Open-fit ANC 3.0 ที่พัฒนาขึ้นให้ตอบโจทย์การใช้งานทั้งฟังเพลงและพูดคุยอย่างตรงใจผู้ใช้ ควบคู่ไปกับการออกแบบให้เข้ากับสรีระและความสะดวกสบาย ทั้งยังสะดุดตามากกว่าเดิม
เราจึงขอเลือก HUAWEI FreeBuds 5 มาเล่าให้คนที่กำลังหาหูฟังที่เข้ากับตัวเองอยู่ว่ามีความล้ำสมัย อัจฉริยะ และดีไซน์โดดเด่นอย่างไรบ้าง
ครั้งแรกของหูฟังหัวเว่ยมาพร้อม ANC 3.0 ที่พ่วงนวัตกรรมมาอีกมายมาย
HUAWEI FreeBuds 5 นำเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน ANC 3.0 มาแจ้งเกิด โดยจะทำงานร่วมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนถึง 3 ตัวในหูฟังแต่ละข้างที่ทำหน้าที่ดักเสียงรอบข้างได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย 2 ไมค์ด้านนอกจะรับเสียง และไมค์ด้านในจะเก็บเสียงในช่องหู และส่งเสียงคลื่นความถี่ต่ำเพื่อลดเสียงรอบข้างลง ยกระดับประสบการณ์การใช้หูฟังในทุกด้าน
- สวมสบายยิ่งขึ้น การใช้ ANC บนหูฟังแบบ Open-fit จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงแรงดันอากาศในหูน้อยกว่ากว่าแบบอินเอียร์
- เข้ากับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น HUAWEI FreeBuds 5 จะสามารถเรียนรู้สรีระหูและวิธีการสวมใส่ของผู้ใช้ แล้วจึงปรับการรูปแบบการส่งเสียงให้รับกับการสวมใส่ เพื่อประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับผู้ใช้มากขึ้น
- ชาญฉลาดยิ่งขึ้น หูฟังจะจับเสียงและปรับโหมดต่างๆ ได้อัตโนมัติตามสถานที่ ได้แก่
- โหมดสูงเป็นพิเศษ (Dynamic) สำหรับสถานที่ที่มีเสียงดังและบรรยากาศโดยรอบจอแจ
- โหมดทั่วไป (General) สำหรับสถานที่ที่มีเสียงปานกลาง
- โหมดสบาย (Cozy) สำหรับสถานที่ที่มีเสียงรบกวนน้อย
ขณะเดียวกัน ระบบตัดเสียงรบกวน ANC 3.0 ก็ทำงานกับอัลกอริทึม Deep Neutral Network (DNN) ซึ่งช่วยตัดเสียงรบกวนระหว่างการพูดโทรศัพท์ในที่สาธารณะ และยังออกแบบโครงสร้างมาให้กันเสียงลมในอัตราเร็ว 3.5 เมตรต่อวินาที เพื่อการประชุมแบบไม่ติดขัด และยังมี AI เรียนรู้การจับเสียงได้มากถึงกว่า 500 สถานการณ์
มิติใหม่แห่งคุณภาพเสียง Hi-res ที่รองรับทั้ง L2HC และ LDAC
หัวเว่ยได้พัฒนาให้ HUAWEI FreeBuds 5 รองรับระบบแปลงสัญญาณเสียงแบบ L2HC และ LDAC ที่ช่วยส่งสัญญาณเสียงผ่านสมาร์ทดีไวซ์ EMUI และแอนดรอยด์ ได้เร็วถึง 960-990 kbps และมี Sampling Rate กับ Bit Depth สูงถึง 96 kHz ต่อ 24 bit เทคโนโลยีนี้ทำให้ HUAWEI FreeBuds 5เป็นผู้บุกเบิกการแปลงสัญญาณตั้งแต่ความเร็ว 144 kbps ถึง 960 kbps ได้ โดยขึ้นอยู่กับสัญญาณของสมาร์ทดีไวซ์ในขณะฟัง เพื่อลดสัญญาณเสียงขาดหายในที่สัญญาณน้อย
จากการวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ย พบว่าผู้บริโภคล้วนฟังเพลงที่เน้นเสียงเบสหนักๆ จึงพัฒนาหูฟัง HUAWEI FreeBuds 5 ให้เบสมีความก้องกังวาน โดยมี Ultra-Mag Dynamic Driver ความไวสูง 10 มม. ทำงานผสานกับเทคโนโลยีการจูนเสียง เพื่อถ่ายทอดเสียงเบสได้ต่ำถึง 16 Hz[1] มีไดอะแฟรมคอมโพสิทโพลีเมอร์ขนาด 11 มิลลิเมตร และได้เพิ่มเอฟเฟกต์ Multi-EQ ให้ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างดีฟอลต์ บูสต์เบส และบูสต์เสียงแหลมเพื่อสร้างประสบการณ์การฟังในแบบของตนเอง
ความชาญฉลาดที่มาในรูปแบบของดีไซน์ และโครงสร้าง
HUAWEI FreeBuds 5 ออกแบบมาโดยยึดการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก ตั้งแต่การออกแบบตัวหูเป็นเส้นโค้งที่ไร้รอยต่อเสมือนลูกอ๊อดแก้วที่ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์แบบ Prince Rupert’s Drop ซึ่งนับเป็นเบื้องหลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ในการคิดค้น Kunlun Glass ของนักพัฒนาหัวเว่ย แสดงถึงก้าวแรกในการริเริ่มสร้างหูฟังที่มีความล้ำสมัย นอกจากนี้รูปทรงโค้งเว้า และก้านที่เอียง 32 องศายังรับกับสรีระของหู ประกอบกับบริเวณลำโพงแบบ Open-fit ที่ลดขนาดตัวหูฟังลง 0.3 มม. ทำให้ผู้ใช้สวมใส่ได้สบายและแนบสนิทไม่หลุดง่าย โดยการออกแบบหูฟังทรงนี้ยังช่วยระบายอากาศให้รู้สึกไม่อึดอัดขณะใช้ นอกจากนี้ตัวเคสชาร์จยังเป็นทรงวงรีที่มีพื้นผิวด้านที่หรูหราจับได้ถนัดมือ ให้หูฟังสามารถถอดและใส่เข้าไปในเคสได้อย่างง่ายดายและรูปลักษณ์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์
ในส่วนของโครงสร้าง หัวเว่ยใช้สอยพื้นที่ภายในหูฟังอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ลำโพงอยู่บริเวณตัวหูฟัง แบตเตอรี่อยู่บริเวณก้านส่วนบน และแผงควบคุมอยู่ที่ก้านส่วนปลาย การแยกแต่ละส่วนอย่างอิสระจะช่วยให้หูฟังสามารถส่งสัญญาณเสียงได้เต็มที่ ใช้งานได้นานและชาร์จได้เร็ว และยังควบคุมได้รอบด้านอีกด้วยก้านทรงโค้งที่มอบพื้นที่สัมผัสมากขึ้น เพิ่มการควบคุมหลายจุด ได้แก่
- กดค้างเพื่อเปิดหรือปิดการตัดเสียงรบกวน หรือตัดสายที่ไม่รับ
- ลูบขึ้น–ลง เพื่อการเพิ่มหรือลดเสียง
- เคาะสองครั้งเพื่อรับ-วางสาย เล่น-หยุดเพลง ข้ามไปเพลงอื่น หรือเพื่อใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ
ความสะดวกสบาย ล้ำสมัย ใช้ต่อเนื่องทุกวัน
ความคล่องตัวเป็นหนึ่งคุณสมบัติที่หัวเว่ยทุ่มเทให้กับสมาร์ทดีไวซ์ของแบรนด์มาตลอด โดยไม่เพียงเชื่อมต่อได้ง่ายในทันทีที่เปิดใช้ แต่ยังต้องสามารถทำงานข้ามอุปกรณ์ได้อย่างไร้รอยต่อ HUAWEI FreeBuds 5 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป สมาร์ทวอทช์ หรือสมาร์ททีวีที่ใช้ EMUI 10.0 ขึ้นไป หากใช้อุปกรณ์ที่เป็นระบบปฏิบัติการอื่น เช่น Android, iOS หรือ Windows ก็เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 ได้อย่างมีเสถียรภาพ
ยิ่งกว่านั้น หัวเว่ยยังนำเทคโนโลยีชาร์จเร็วมาใช้กับหูฟังรุ่นนี้ โดยเมื่อฟังเพลงในโหมด ANC จะใช้งานได้ต่อเนื่อง 3.5 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จจะฟังได้ต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง หากปิด ANC ใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จจะฟังได้ต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง[1] และยังรองรับการชาร์จเร็ว เพียง 5 นาทีก็รองรับการฟังเพิ่มขึ้นถึง 2 ชั่วโมง และชาร์จเต็มเร็วภายใน 20 นาที
HUAWEI FreeBuds 5 วางจำหน่ายในราคา 5,299 บาท มาพร้อม 3 สีให้เลือก ได้แก่ Coral Orange สีใหม่สดใส มอบรูปลักษณ์ใหม่ที่มีสไตล์เฉพาะตัว และสีคลาสสิกอย่าง Silver Frost และ Ceramic White หากสั่งซื้อ HUAWEI FreeBuds 5 ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 – 8 พฤษภาคม 2566สามารถซื้อในราคาพิเศษเพียง 3,999 บาท หากซื้อกับร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazadaรับฟรี กระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท และ ร่ม Huawei มูลค่า 390 บาท สำหรับลูกค้า 100ท่านแรกเท่านั้น และนอกจากนี้ยังมีส่วนลดมูลค่า 100 บาท เมื่อใช้ร่วมกับคูปอง