เป็นการยากสำหรับ Huawei ที่จะสูญเสียการสนับสนุนจาก Google แต่มันจะยิ่งท้าทายมากขึ้นในการขายในตลาดที่ซบเซาในปัจจุบันท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 แต่ซีรีย์ P40 กำลังเปิดตัวแม้จะมีวิกฤตด้านสุขภาพระดับโลกและ P40 Pro ก็ดูเหมือนว่าพร้อมจะยืนหยัดได้แล้ว เรามาดูกันเลยว่ารูปร่างหน้าตา สเปค อะไรต่างๆจะเป็นอย่างที่มีข่าวหลุดๆมาก่อนหน้านี้หรือไม่
หน้าจอ
P40 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของ Huawei ที่มีหน้าจออัตราการรีเฟรชที่มากกว่ารุ่นก่อนๆ ด้วยขนาดหน้าจอ 6.58 นิ้ว Flex OLED มีความละเอียดสูง 2640×1200 และ 90Hz อัตราการรีเฟรชที่ค่อนข้างคมชัด กล้อง selfie 32MP พร้อมโฟกัสอัตโนมัติ อัตราส่วนหน้าจอ 19:8:9 ทำให้การแสดงผลสี DCI-P3 HDR และลดแสงสีฟ้า พร้อมทั้งใส่เทคโนโลยีช่วยสำหรับการปลดล๊อคใบหน้าแบบ 3มิติ
ดีไซน์
ขอบหน้าจอค่อนข้างบางมีเพียง 1.7 มม มุมขอบเป็นแบบโค้งมนทั้ง4ด้าน และขอบด้านบน ด้านล่างหน้าจอบางแค่ 2.4 มม นับว่าแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
ทางด้านของกล้องนั้นในรุ่น P40 ธรรมดาจะมีจำนวน 3 ตัวประกอบด้วย
- เลนส์ UltraVision 50MP (f/1.9) ที่มี optical stabilization
- เลนส์กว้าง ultra-wide 16MP
- เลนส์เทเล 8MP ที่มี optical stabilization ซึ่งซูมแบบดิจิทัลได้ 30x และมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine
ในรุ่น P40 Pro จะมีจำนวน 4 ตัวประกอบด้วย
- เลนส์ UltraVision 50MP (f/1.9) ที่มี optical stabilization
- เลนส์สำหรับถ่ายวิดิโอและเลนส์กว้าง ultra-wide 40MP
- เลนส์เทเล 5x SuperSensing 12MP สามารถซูมแบบดิจิทัลได้ 50x
- เซ็นเซอร์ ToF อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine
ในรุ่น P40 Pro+ จะมีจำนวน 5 ตัวประกอบด้วย
- เลนส์ UltraVision 50MP (f/1.9) ที่มี optical stabilization
- เลนส์สำหรับถ่ายวิดิโอและเลนส์กว้าง ultra-wide 40MP
- เลนส์เทเล 3x SuperSensing 12MP ในรุ่น
- เลนส์เทเล 10x optical 8MP
- เซนเซอร์ ToF อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine
สำหรับกล้องของรุ่น P40 Pro และ P40 Pro+ จะมีความพิเศษคือเป็นเลนส์ SuperSensing แบบโคนรุ่นแรก ๆ ในอุตสาหกรรม และการถ่ายภาพจะเป็นการถ่ายเป็น 16 รวมเป็น 1 และมีขนาดพิกเซล 4.48 μm นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดิโอในระยะไกลและสามารถซูมเสียงเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถถ่าย bokeh (ละลายหลัง) ได้แบบ real time ด้วย
สเปคของ Huawei P40
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว (2340×1080พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 รีเฟรชเรท 60Hz
- ชิปเซต Kirin 990 5G
- RAM 8GB + ความจำ 128GB
- Android 10 ที่ครอบด้วย EMUI 10.1
- ซิมคู่
- กล้องหลัง UltraVision 50MP (f/1.9) ที่มี optical stabilization + เลนส์กว้าง ultra-wide 16MP + เลนส์เทเล 8MP ที่มี optical stabilization และซูมแบบดิจิทัลได้ 30x และมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine
- กล้องหน้า 32 MP (f/2.2) ที่มีเซนเซอร์อินฟราเรดตรวจจับความลึก
- ขนาดตัวเครื่อง:148.9 x 71.06 x 8.5 mm, น้ำหนัก175กรัม
- WiFi 6, NFC, GPS, AGPS. Glonass, Galileo, QZSS, Bluetooth 5.1 – 3G / 4G / 5G
- แบตเตอรี่ความจุ 3800 mAh ที่รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 40W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 27W
- มีให้เลือกในสีเงิน, ทอง, ขาว และดำ
สเปคของ Huawei P40 Pro และ Pro Plus
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.58 นิ้ว (2640×1200พิกเซล) อัตราส่วน 19.8:9, รีเฟรชเรท90Hz
- ชิปเซต Kirin 990 5G
- RAM 8GB + ความจำ 128/256GB
- Android 10 ที่ครอบด้วย EMUI 10.1
- ซิมคู่
- กล้องหลัง UltraVision 50MP (f/1.9) ที่มี optical stabilization + เลนส์สำหรับถ่ายวิดิโอและเลนส์กว้าง ultra-wide 40MP + เลนส์เทเล 3x SuperSensing 12MP ในรุ่น P40 Pro Plus หรือ เลนส์เทเล 5x SuperSensing 12MP ในรุ่น P40 Pro + เซนเซอร์ ToF อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine และสามารถซูมแบบดิจิทัลได้ 50x
- ในรุ่น P40 Pro Plus จะมีเลนส์ 10x optical telephoto 8MP เพิ่มมาอีก 1 ตัวทำให้ในรุ่นดังกล่าวมีกล้องหลังถึง 5 ตัว
- กล้องหน้า 32 Mp (f/2.2) ที่มีเซ็นเซอร์อินฟราเรดตรวจจับความลึก
- ขนาดตัวเครื่อง: 158.2 x 72.6 x 8.95mm, น้ำหนัก203กรัม
- WiFi 6, NFC,GPS, AGPS. Glonass, Galileo, QZSS, Bluetooth 5.1 – 3G / 4G / 5G
- แบตเตอรี่ความจุ 4200mAh ที่รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 40W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 40W
- มีให้เลือกในสีเงิน, ทอง, ขาว และดำ
ส่วนราคาจะอยู่ที่
- รุ่นธรรมดา – 799 ยูโร (ประมาณ28,600บาท) ในรุ่น 8GB+128GB โดยเริ่มวางขายในวันที่ 7 เมษายนนี้
- รู่น Pro – 999 ยูโร (ประมาณ35,900บาท) ในรุ่น 8GB + 256GB โดยเริ่มวางขายวันที่ 7 เมษายนนี้
- รุ่น Pro Plus – 1,399 ยูโร (ประมาณ50,100บาท) ในรุ่น 8GB + 512GB โดยเริ่มวางขายในเดือนมิถุยายนนี้