บริษัทวิจัยสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Fomalhaut Techno Solutions ได้ออกมาเปิดเผยผลการประเมินมูลค่าส่วนประกอบของ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยต้นทุนวัตถุดิบของ iPhone 12 อยู่ที่ 373 USD (ประมาณ11,300บาท) และ iPhone 12 Pro มีต้นทุนวัตถุดิบอยู่ที่ 406 USD (ประมาณ12,300บาท) เท่านั้น
ในขณะที่ราคาวางจำหน่ายของ iPhone 12 อยู่ที่ 29,900 บาท และราคาวางจำหน่ายของ iPhone 12 Pro อยู่ที่ 36,900 บาท ส่งผลให้ถึงแม้ว่าต้นทุนวัตุดิบของ iPhone 12 Pro จะสูงกว่ารุ่นธรรมดาเพียง 1,000 บาท แต่ราคาที่วางขายของรุ่น Pro นั้นสูงกว่ารุ่นธรรมดาถึง 7,000 บาท
อย่างไรก็ดีหลังจากหักต้นทุนการตลาด, การขนส่ง, การบรรจุ package และการพัฒนาซอร์ฟแวร์แล้ว Apple มีกำไรจาก iPhone 12 Pro อยู่ที่ไม่เกิน 593 USD (ประมาณ18,000บาท)
ในส่วนของวัสดุที่นำมาใช้ผลิต iPhone 12 Pro นั้นมีการใช้วัตถุดิบจากเกาหลีใต้ในอัตราส่วนที่สูงที่สุดคือ 26.8%, จากยุโรปและที่อื่น ๆ 21.9%, จากสหรัฐ ฯ 21.9%, จากญี่ปุ่น 13.6%, จากไต้หวัน 11.1% และจากจีน 4.6% แต่กระบวนการผลิตของส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศจีน
สำหรับรายละเอียดราคาของวัตถุดิบประกอบด้วย หน้าจอ OLED ที่ผลิตโดย Samsung มีราคาอยู่ที่ประมาณ 2,100 บาท, โมเด็ม Qualcomm X55 5G มีราคาอยู่ที่ประมาณ 2,700 บาท, ชิป A14 Bionic อยู่ที่ประมาณ 1,200 บาท และส่วนประกอบอื่น ๆ ทั้ง RAM (ประมาณ388บาท) หน่วยความจำ (ประมาณ582บาท) ถือว่าเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่มีราคาแพงที่สุด ส่วนเซ็นเซอร์กล้องที่ผลิตโดย Sony มีราคาอยู่ที่ระหว่าง 224-239 บาท
