รายงานล่าสุดจาก Canalys ได้เผยว่าภาพรวมของยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 นั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยการดิ่งลงของตลาดสมาร์ทโฟนนั้นดำเนินมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 แล้วเนื่องมาจากวิกฤต COVID-19 นั่นเอง ซึ่งมีอยู่หนึ่งแบรนด์ที่มียอดขายเติบโตขึ้นสวนทางกับภาพรวมนั่นก็คือ Apple ที่มียอดขายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ สูงกว่ายอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาเสียอีก
ภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนภาพรวมในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 นั้นถือว่าลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาถึง 14% ซึ่งยอดขายสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้อยู่ที่ 284.7 ล้านเครื่อง (ตัวเลขโดยประมาณ) ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 331.8 ล้านเครื่อง โดยบริษัทที่มียอดขายที่ลดลงมากที่สุดในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาได้แก่ Samsung ที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 30% ตามมาด้วย Oppo ที่ลดลง 16%, Xiaomi ลดลง 10% และ Huawei ลดลง 5%
สำหรับสาเหตุที่ Apple มียอดขายสมาร์ทโฟนเติบโตสวนทางกับแบรนด์อื่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะ iPhone SE 2020 ที่เป็นการนำ iPhone 8 มาอัพเกรดนั้นมียอดขายที่ดีแบบถล่มทลาย ประกอบกับการที่มันมีราคาเริ่มต้นเพียง 14,900 บาทเท่านั้น จึงทำให้ยอดขายเจ้า SE 2020 คิดเป็น 28% ของยอดขายทั้งหมดของ Apple ในไตรมาสที่ผ่านมา และ iPhone 11 นั้นยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดของ Apple โดยมียอดขายคิดเป็น 40% ของบริษัทเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยอดขายสมาร์ทโฟนของ Apple ในประเทศจีนนั้นยังเพิ่มขึ้นถึง 35% ด้วยยอดขายจำนวน 7.7 ล้านเครื่องแค่ในประเทศจีนเท่านั่น อีกทั้ง Apple ยังตอบสนองต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นได้อย่างว่องไว โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการขายและการบริการทางออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Apple จึงเป็นผู้ที่สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ในช่วงเวลาแบบนี้