กฎหมายฉบับใหม่ในสหภาพยุโรปบังคับให้บริษัทที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานที่อยู่ภายในสหภาพยุโรป จำเป็นต้องเก็บและประมวลผลข้อมูลดังกล่าวบนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในยุโรปเท่านั้น แต่ข้อมูลที่ทั้ง Facebook และ Instagram ถูกจัดเก็บอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในสหรัฐ ฯ และยุโรป
จึงอาจสร้างปัญหาให้แก่ทางบริษัทในระดับหนึ่ง เพราะ อาจหลังจากนี้จะไม่สามารถย้ายข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐเพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มได้ ซึ่งหากเกิดปัญหาในกระบวนการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการแสดงผลโฆษณาและการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มเหล่านั้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามจากรายงานที่ถูกส่งไปให้แก่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เผยว่าหากทาง Meta ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อบังคับใหม่ของสหภาพยุโรป ทางบริษัทจะหยุดการให้บริการ Facebook และ Instagram ในภูมิภาคดังกล่าว นอกจากนั้นทางประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศของ Meta ระบุว่าสถานการณ์ดังกล่าวเป็นผลร้ายต่อการทำธุรกิจของบริษัทที่พึ่งพิงรายได้หลักจากการโฆษณาในสหภาพยุโรป
ดูเหมือนว่าช่วงนี้ทาง Meta กำลังอยู่ในขาลง เพราะว่าในสัปดาห์ที่แล้วราคาหุ้นของ Meta ร่วงลงกว่า 25% หลังจากที่ประกาศผลประกอบการที่ไม่แสดงถึงความเติบโตของแพลตฟอร์ม ซึ่งมีผู้ใช้งานลดลงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และการขาดทุนในการพัฒนา metaverse ด้วยเหตุนี้ในอนาคตทางบริษัทจึงมีความจำเป็นต้องประนีประนอมต่อข้อบังคับที่จะเกิดขึ้นมากกว่าที่จะขัดแย้งกับข้อบังคับเหล่านั้น
