Miband เป็น Smartband หรือ Fitness tracker ที่มีความน่าสนใจและราคาคุ้มค่ามาโดยตลอดครับ ต้องบอกเลยว่าในแต่ละรุ่น มีการพัฒนามาเรื่อยๆตั้งแต่รุ่นแรกที่ไม่มีจอ มารุ่นสองมีจอแสดงผล และใช้สัมผัสปุ่มเอา กันน้ำได้ IP67 และ จุดเด่นคือราคาที่เกาะไม่เกิน 1000 บาทมาตลอดครับ หรือถ้าเข้าไทยก็อาจจะมีบวกนิดหน่อย และมาในรุ่นที่ 3 ตัวนี้มีการพัฒนาในด้านการใช้งานได้ดีขึ้นครับรวมถึงดีไซน์ยังคงดีไซน์ที่ใกล้เคียงเดิมแต่สวยมากขึ้น ระบบสัมผัสใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น และยังมาพร้อมการกันน้ำที่ดีขึ้นได้ลึก 50 เมตร ว่ายน้ำได้ สัมผัสเวลาโดนน้ำได้ และแน่นอนว่ายังคงวัดชีพจรได้เช่นเดิมครับ รองรับภาษาไทยได้ถ้าตัวที่ขายในไทย และ แจ้งเตือนกดวางสายอะไรได้
สำหรับ Miband 3 ตัวนี้เปิดตัวไปไม่นานครับและเข้าไทยแน่นอนแล้วสำหรับรุ่นนี้ที่จะเข้าไทยสามารถรองรับภาษาไทยในการแจ้งเตือนได้ปกติ และ เมนู Eng มาพร้อมครับในตัว Band จุดเด่นๆหลักๆ หน้าจอ OLED ขนาด 0.78 นิ้ว แบตเตอรี่ขนาด 110 มิลลิแอมป์ เยอะกว่าเดิมพอสมควร และ กันน้ำลึก 50 เมตรเลย อีกทั้งระบบสัมผัสเต็มที่มากขึ้น ปัดซ้าย ขวา ขึ้นลงได้ครับ อีกทั้งดีไซน์ยังสวยงามมากึ้น กระจกโค้งตามสมัย 2.5D และ เปลี่ยนสายได้
UNBOX MiBand 3
อุปกรณ์ในกล่องไม่มีอะไรมากเพียงพอต่อการใช้งานครับ มี Miband3 สายชาร์จ คู่มือ สายรัดสีดำ มาให้ครับผม
DESIGN Miband 3
สำหรับการออกแบบ Mibandตัวนี้ดูผ่านๆอาจจะไม่แตกต่างมากนักแต่เมื่อมองดีๆแล้วมันลงตัวขึ้นจอใหญ่ขึ้นครับตัวนี้มีการเปลี่ยนตัวเรือนมาใช้กระจกแบบ 2.5D ที่นิยมกันและแน่นอนมันทำให้ดูสวยทันสมัยขึ้นตัวปุ่มกดด้านหน้าไม่มีแล้วเป็นจอกระจกขึ้นรูปทั้งชิ้นและเว้าลงไปสามารถสัมผัสได้ทั้งหน้าจอ สั่งงานหลักๆปัดไปมาและแตะตรงที่เว้าครับ
น้ำหนักขนาดโดยรวมยังคงทำได้ดีไม่หนักไม่หน้าหรือใหญ่เกินไป ผญ ใส่ได้ ผชใส่สบายครับตัวเรือนมาพร้อมวัสดุพลาสติกเช่นเดียวกับรุ่นเก่ามาพร้อมกับทรงแบบเดิมเลยในส่วนของตัวเรือนและมีเซนเซอร์อะไรมาให้ครบเช่นเดิมครับ
Mi Band 3 เมื่อมองด้านข้างเวลาใส่เข้าไปแล้วนั้นก็เหมือนจะทำให้ตัวสายนั้นบางขึ้นครับเพราะว่าตัวเรือนกระจกขอบโค้งลงมานิดหน่อยทำให้หลอกตาได้ว่ามันดูบางมากขึ้นอันนี้ก็เป็นอีกจุดที่ฉลาดในการออกแบบอันนี้ไม่ดูเป็นยางทั้งหมดทำให้หนาและดูไม่สวยนั้นเองครับความโค้งรับกับข้อมือยังคงทำได้ดีและแน่นดีครับเวลาสวมใส่ใช้งาน
ตัวสายยางตัวนี้ยังคงทำได้ดีครับใช้วัสดุพิเศษลดการระคายเคืองและนุ่มกับข้อมือมากๆใส่สบายจริงๆคุณภาพตัวสายทำได้ดีและแข็งแรงครับ การล็อคยังคงใช้แบบเก่าแต่มีการเปลี่ยนตัวหมุดล็อคไม่มีการเล่นลวดลายแบบเดิมแล้วครับตัวล็อคมีช่องให้เยอะและเหมาะกันทุกขนาดข้อมือล็อคแน่นหนาและไม่เลื่อนครับ สำหรับตัว ยึดกับ MiBand นั้นต้องบอกว่าพัฒนามาเยอะมากครับ ทำได้แน่นแบบแน่นมากตัวเรือนไม่หลุดออกง่ายๆแบบตัว MiBand2 เลยนะแกะออกมาจะมาชาร์จนี้ยากพอสมควรเลยแหละมันแน่นดีจริงๆครับจุดนี้ต้องบอกว่าทำได้ดีจริงๆ
ตัวเรือนกันชัดๆครับหน้าตาสวยงามโค้งเว้าหน้าจอใหญ่ขึ้น สัมผัสได้ดีขึ้นและลงตัวขึ้นมีหน้าตาเลือกได้หลายแบบในหน้าแรกครับเราสามารถปรับได้ว่าจะนาฬิกาแบบไหนปุ่มเว้าทำหน้าที่แตะค้างเพื่อเข้าโหมด หรือ ยืนยันแตะเพื่อย้อน
ด้านข้างของรุ่นนี้จะเห็นเขียนว่าน่าจะเป็นเรื่องของการกันน้ำ 50 เมตรต่างๆครับไว้ใจได้สบายเรื่องนี้ และจะเห็นการออกแบบร่องไว้เยอะมากให้มันยึดติดกับตัวสาย Band ได้ดีขึ้นมากๆจุดนี้ทำให้มันใช้งานได้ดีไม่หลุดง่ายและยึดแน่นกว่าเดิมมากๆครับ ถือว่าพัฒนาได้ถูกจุดน่าจะลดปัญหาหลวมหรือหลุดกันได้ดีกว่าเดิมไปอีกครับ ถ้าไปใช้สายอื่นๆ
Miband 2 VS Miband 3
เทียบกันนิดหน่อยกับรุ่นเดิมครับหลักๆเลยคือมีความโค้งมนสวยขึ้นเยอะ ดูทันสมัยมากขึ้นและหน้าจอใหญ่ขึ้นสว่างขึ้นครับรวมถึงปุ่มก็หายไปแทนที่ด้วยการสัมผัสแบบเต็มรูปแบบมากขึ้นไม่จำเป็นต้องแตะปุ่มอย่างเดียวแล้วครับผม เมื่อเทียบกันแบบนี้จะรู้สึกเลยว่ารุ่นเก่าดูเหลี่ยมและเรียบไปเลยครับจากที่ตอนแรกมองอาจจะไม่รู้สึกต่างกันมากขนาดนี้
ด้านหลังนั้นยังคงดีไซน์แบบเดิมทั้งเซนเซอร์ที่เป็นตัวเดิมในส่วนของวัดชีพจรครับขนาดเท่ากับของเดิมและมีเขียนโลโก้ MI ในส่วนของด้านล่างตัวเรือนวัสดุแบบเดียวกันทั้งคู่ครับน้ำหนักไม่ต่างกันมากเวลาสวมใส่
SPEC Miband 3
- จอ OLED 0.78 นิ้ว ความละเอียด 128 x 80 พิกเซล
- หน้าจอ Touch Screen / Touch Button
- กดปุ่มบนและสัมผัสหน้าจอเพื่อดู เวลา, จำนวนก้าวเดิน, ระยะทาง, แคลอรี่, อัตราการเต้นของหัวใจ, แบตคงเหลือ, การแจ้งเตือน, ดูสภาพอากาศ
- มี sensor วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart rate) แบบ Real-time
- แบตเตอรี่ขนาด 110 มิลลิแอมป์ อายุแบต 20 วัน
- กันน้ำได้ที่ความลึกระดับ 50 เมตร สามารถใส่ว่ายน้ำ และใส่อาบน้ำได้
- รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.2 BLE
- รองรับกับระบบโทรศัพท์ Android 4.4 , iOS 9 และ Bluetooth 4.0 ขึ้นไป
- ขนาด 17.9 x 46.9 x 12mm
- น้ำหนัก 7.0 กรัม
- สายรัดสามารถปรับความยาวได้ตั้งแต่ง 155 mm ถึง 216 mm
Software UI
ซึ่งจะใช้งานนั้นเราต้องมี แอป Mi Fit บนสมาร์ทโฟน Android และ iOS ก่อนนะครับสามารถสมัครใหม่ได้ง่ายๆ Facebook / google กดให้มันเชื่อมได้เลยไม่ต้องกรอกอะไรมาก นั้นจะต้องทำการชาร์จเจ้าตัว Mi Band 3 ให้เต็มเสียก่อนการเชื่อมต่อและอย่าลืมเปิด Bluetooth ด้วยนะครับส่วนการใช้งานแรกๆมันจะให้เราตั้งส่วนสูง น้ำหนักต่างๆครับ เราก็ตั้ง่คาตามปกติได้เลย หลักๆการใช้งานนั้นไม่ยุ่งยากครับ
สำหรับช่วงแรกมันจะมีบอกการใช้งานคร่าวๆครับว่า แตกค้างเพื่อเลือกโหมด ปัดซ้ายขวาเปลี่ยนโหมด และ แตะเพื่อย้อนกลับครับซึ่ง เราสามารถปัดซ้ายขวาขึ้นลงได้ที่หน้าจอตัวนาฬิกาเลยครับ แตะ แตะค้าง แตะย้อนกลับต้องปุ่มเว้า
หน้าตาหลักๆของตัวแอพ มี 3 หน้าหลักๆครับ เป็นหน้าที่บอกข้อมูลทั้งหมด ชีพจร การนับก้าว เวลานอนและน้ำหนักต่างๆทั้งหมด /// ส่วนหน้าที่ 2 นั้นเป็นการจับเวลาวิ่ง กีฬาทั้งหมดครับ ซึ่งรายละเอยีดจะดูกันข้างล่างต่อไป / ส่วนด้านขวาเป็น Profile ตั้งค่าทั้งหมด และ ข้อมูลตัว Band ครับว่าจะตั่งค่าอะไรยังไงบ้าง
FEATURE APP MI FIT
สำหรับฟีเจอร์ต่างๆก็มีมาให้ครบเพียงพอต่อการใช้งานครับ แต่เรามาดูส่วนของการตั้งค่ากันก่อน จะสามารถใช้งานพวกค้นหา Band ได้ ตั้ง่คาตำแหน่งสวมใส่ข้างไหน และ โหมดกลางคืนอะไรเป็นต้น การล็อคหน้าจอ Band ครับ หรือตั้งค่า หน้าจอว่าเอาหน้าอะไรขึ้นลำดับที่เท่าไร และ ตั้งสภาพอากาศเป็นต้น / หน้าต่อไปก็เป็นพวกการแจ้งเตือนว่าเราจะให้แจ้งเตือนอะไรบ้างครับ ตามภาพที่ 3 เลย ส่วนอันสุดท้าย เป็นฟีเจอร์พวกเพื่อนของเรา แจ้งการนั่งนาน วิเคราห์ะต่างๆครับผม ซึ่งภาษา จะเปลี่ยนตามเมนูเครื่องนะครับ ถ้าเมนูไทย ตัว Band จะไม่รองรับ ต้องใช้เมนู ENG นะครับถึงจะทำให้ Band โชว์เป็น ENG นั้นเอง
หน้านี้จะเป็นส่วนของการทำกิจกรรมให้เราสามารถ TRACK ได้ แต่ต้องพกมือถือไว้กับตัวนะครับ สามารถเลือกได้มากมาย วิ่ง ขี่จักรยานต่างๆ เมื่อกดเริ่มก็จะบอก ชีพจรตลอดเวลา และ เวลาระยะทาง ซึ่งตัว Band ก็จะโชว์วัดชีพจรแบบ REALTIME ให้เลยนะครับ และบอกระยะทางเวลาด้วย ส่วนตั้งค่าสามารถตั้งค่า Heartrate ได้ว่าไม่เกินเท่าไรและ แสดงผลอะไรบ้างครับ สามารถกดหยุดผ่านตัว Band ได้เลยง่ายๆครับ และ ดู Maps ได้ในแอพ
หน้านี้เป็นส่วนของการแจ้งเวลานอนของเราครับ อย่างเช่นแอดมินใส่เวลานอน แต่ปิด Bluetoothไว้นะครับไม่ได้เชื่อมต่อ พอตอนเช้ามันก็ซิงค์ให้ครบทั้งคืนเราไม่ต้องเชื่อมตลอดก็ได้ครับส่วนนี้ มันจะบอกเลยว่าเรานอนกี่ชั่วโมง หลับลึกกี่ชั่วโมงและตื่นตอนไหนบ้าง อีกทั้งยังแนะนำว่าควรนอนไวกว่านี้ ตื่นไวกว่านี้ หลับปกติไหมเทียบคนอื่นให้ด้วย และบอกสรุปเป็นวันๆให้ได้ครับว่า วันไหนเป็นยังไงบ้างถือว่าเป็นประโยชน์และค่อนข้างตรงมากๆ
เรื่องของการวัดชีพจรตัวนี้ก็ยังคงมีมาให้และทำได้แม่นตามเรทราคาของมันครับ วัดชีพจรนั้นสามารถตั้งได้ว่าให้วัดทุก 1 นาที 5 นาที ทุกครึ่งชั่วโมงเป็นต้น หรือ ไม่ต้องวัดตลอดเวลาก็สามารถปิดได้ในตั้งค่าครับ มันก็จะบอกว่าชีพจรเราเป็นยังไงปกติไหม ช่วงพักเต้นแรงไปไหมหรือออกกำลังไม่ควรเกินเท่าไรเป็นต้นครับผม ถือว่ามีประโยชน์มากๆเลย
หน้านี้เป็นเรื่องของการนับก้าวครับว่าแต่ละวันเราเดินเร็วเดินช้ายังไงบ้างบอกโคตรละเอียดเลยจริงๆลองดูภาพซ้ายได้ครับว่ามันบอกเป็นเวลาพร้อมนาทีเลยว่าเราเดินเร็ว กี่ก้าว กี่แคลในช่วงเวลา นั้นๆระยะทางเท่าไรและมีสรุปได้ด้วยว่าเราเดินเฉลี่ยนต่อวันเท่าไร ประหยัดน้ำมันรถยนต์ไปกี่ลิตร และ ลดแคลไปเท่าไรครับ พร้อมสรุปแต่ละวันให้ได้ด้วย
Screen
หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกระจกแบบ 2.5D พร้อมจอใหญ่กว่าเดิมแบบ OLED ขาวดำ แน่นอนว่าแสดงผลชัดเจนเต็มตากว่ารุ่นก่อนแต่ถ้าอยู่ข้างนอกอาจจะไม่ได้สู้แสงเงาสะท้อนได้มากนักครับ แต่ก็คงสุดๆของมันแล้วเวลาดูอาจจะต้องเอามือป้องมันหน่อยครับถ้าเจอเงาสะท้อนแรงๆ แบบตัวอย่างด้านล่างครับ ส่วนเรื่องป้องกันรอยดีกว่ารุ่นก่อนแต่ก็ไม่ได้มากครับอันนี้ต้องระวังกว่าเดิมเพราะจอ 2.5D นั้นเจอเสี่ยงกระทบแตกได้ง่ายกว่าเดิมแน่นอนใช้ระวังกันนิดนึงครับ
Touchscreen
สำหรับการทัชหรือสัมผัสหน้าจอตัวนี้ทำได้ดีครับติดนิ้วและใช้ขณะเปียกได้แต่เวลาเปียกใต้น้ำอาจจะไม่ได้ลื่นเท่ากับตอนปกติครับต้องเน้นย้ำนิดหน่อยบางจังหวะ การสัมผัสปกติทำได้ดีครับทั้งปัดซ้ายขวาและบนล่าง รวมถึงตัวปุ่มสัมผัสกลมที่เว้าลงไปก็เข้ากับนิ้วได้ดีครับไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดดีกว่าแบบเดิมด้วยซ้ำถือว่าในเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีครับผมแต่ถ้าฝนตกน้ำแบบไม่ได้ว่ายน้ำนั้นถือว่าสัมผัสได้ครับแอดมินไปลุยฝนมาก็สัมผัสได้ปกติ จำเป็นต้องลุยกลับบ้าน 55
Feature – Notification
ฟีเจอร์สำหรับรุ่นนี้ต้องบอกว่ามีฟีเจอร์หลากหลายครับ ทั้งแบบเชื่อมต่อกับมือถือ หรือ ไม่เชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็น
- จำนวนก้าวเดิน, ระยะทาง, แคลอรี่, อัตราการเต้นของหัวใจ, แบตคงเหลือ, การแจ้งเตือน, ดูสภาพอากาศ
- สั่นเตือนเมื่อมีโทรศัพท์, ข้อความแจ้งเตือน ทั้ง Line Facebook และอื่นๆ
- แจ้งเตือนแอพที่หน้าจอ และอ่านข้อความภาษาอังกฤษ *รองรับไทยในอนาคตแน่นอน
- แสดงชื่อบนจอขณะสายเข้าและแตะค้างวางสายมีสายเข้าได้ *รองรับไทยในอนาคตแน่นอน
- ค้นหาโทรศัพท์หายได้ เมื่ออยู่ในระยะประมาณ 3 เมตร และ เอาโทรศัพท์หา Band ได้
- ตรวจจับการนับจำนวนก้าวในแต่ละวัน โดยสามารถกำหนดเป้าหมายการเดินในแต่ละวันได้
- ตรวจจับการนอน บอกเวลาหลับตื่น หลับลึก หรือ สะดุ้ง
- มีฟังก์ชั่น Lift Your Wrist เพียงยกแขนขึ้น หน้าจอก็จะแสดงผล
ถ้าไม่เชื่อมต่อ Bluetooth จะใช้ได้ แค่ วัดชีพจร – จับเวลา ครับ แต่ถ้าเราไม่เชื่อมและตื่นนอนมาค่อยเชื่อม มันก็ยังสามารถเก็บข้อมูลได้เหมือนกันเวลานอนไม่ต้องเชื่อมตลอดเวลาครับ
นับก้าว / ระยะทาง / แคล / แบต
Forecast ดูสภาพอากาศได้ / ดู Notification แตะค้างเพื่อเคลียร์/
ปรับเปลี่ยนหน้าตาหลักได้ 3 รูป แบบหลักๆ
Heartrate แตะค้างและปล่อย เพื่อจับชีพจร
Countdown แตะค้างเพื่อเริ่ม สัมผัสหน้าจอเพื่อหยุดชั่วคราว และ แตะค้างตรงวงกลมเพื่อเคลียร์
การตั้งค่าอื่นๆ หามือถือได้ และ เปิดโหมดเงียบ
Battery
สำหรับแบตเตอร์รี่นั้นอายุอึดจริงๆครับถ้าใช้งานทั่วไปไม่ได้ไปวิ่งหนักหรือวิ่งทุกวัน อยู่ได้ประมาณ 15 วันจากที่แอดมินใช้ แต่บอกไว้ก่อนว่าแอดมินใช้ให้มัน จับชีพจรทุก 5 นาที และ เมื่อพลิกข้อมือจอจะติดทำให้แบตอาจจะไม่ได้อึดเท่า 20 วันหรือบางคนอาจจะใช้งานได้นานกว่านั้นเองครับผม ต้องบอกว่าแบตต้องบอกว่าทำได้ดีเช่นกันสำหรับจุดนี้ การชาร์จแบตนั้นทำเหมือนรุ่นเดิมคือถอดออกมาและเสียบเข้ากับตัวชาร์จครับ หน้าจอจะแจ้งเตือนตามภาพเลย
MiBand 3 พัฒนาขึ้นปรับปรุงจากรุ่นก่อนลงตัวมากขึ้น !
สำหรับ Mi เป็นแบรนด์ที่ทำอะไรก็ถือว่าออกมาคุ้มราคาเสมอและเช่นกันในตัวนี้ Miband ขึ้นชื่อเรื่อง Fitnesstracker ที่มีราคาไม่แพงและฟังก์ชั่นจัดเต็มมาให้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ตัว Miband3 ทำได้ดีในหลายๆด้านทั้งวัสดุ ฟีเจอร์ คุณภาพรวมๆ วัดชีพจร หน้าจอสัมผัสได้และ กันน้ำที่สามารถไปดำน้ำได้ครับเป็นอีกรุ่นมากๆถ้าคนกำลังซื้อใหม่ หรือยากหาของไม่แพงมาใช้งานบอกเลยเป็นตัวเลื่อกที่น่าเล่นแต่ถ้าใครถือ Miband2 อาจจะไม่ค่อยเจอจุดต่างมากนักในเรื่องของฟีเจอร์ ซึ่งต้องมาดูกันว่าจะเปลี่ยนรุ่นใหม่นั้นเพื่ออะไรมากกว่าครับ ถ้าเรื่องของดีไซน์ ก็สวยขึ้น หรือใครใช้ว่ายน้ำบ่อยก็อาจจะเปลี่ยนมา 3 ก็อาจจะคุ้มพอสมควรครับในรุ่นนี้ เรื่องของสายสีสวยๆต่างๆก็หาเปลี่ยนได้
ข้อดี
- ดีไซน์สวยขึ้น ทันสมัยขึ้น จอใหญ๋ขึ้น
- หน้าจอพัฒนาขึ้นสว่างขึ้น สัมผัสได้
- แบตค่อนข้างอึดมาก 10 วันขึ้นไปแน่นอน
- การกันน้ำ ดำน้ำ 50ATM และสัมผัสขณะเปียกได้
- น้ำหนักเบาและขนาดไม่ใหญ่เกินไป
- ระบบ Software และ ตัว App ไว้ใจได้
- ราคาค่อนข้างคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้ฟีเจอร์และคุณภาพโดยรวม ในงบ 1200
ข้อสังเกต
- ยังไม่รองรับภาษาไทย แต่ รออัพเดทครับได้แน่นอน
- Bluetooth 4.2 และ ไม่มี NFC
- หน้าจอไม่สู้แสงมากนัก ถ้ากลางแจ้ง
- ชีพจรไม่แม่นมากดีกว่าเดิมนิดหน่อยครับ
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะงับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
Review By Nineztr