DC อาจจะเป็นค่ายที่ ไม่รู้ว่าทำอะไรมา สร้างหนังแต่ละเรื่อง มีทั้งปัญหาจากนักแสดงบ้าง บทบ้าง ผกก บ้าง หรือ แม้แต่ บริษัทแม่เองบ้าง รีจักรวาลบ้างนั้นแหละครับ จนมันมาถึงวันที่ ต้องล้างไผ่ใหม่ทั้งหมด โละของเก่าไปทั้งหมด และ จักรวาล DCEU ก็ 10 ปีถึงเวลาปิดครับ กับ AQUAMAN ภาคนี้ ที่เป็นการปิดท้ายจักรวาลเท่า นักแสดงเก่าทั้งหมดนั้นเอง เป็นการจากลาที่ไม่สวยงามเท่าไรนักและเงียบๆ ทั้งเมืองนอกเอง ดราม่านักแสดงเองก็ตามบอกเลยว่าเหนื่อยแน่ๆ แต่หลังจากทีดูก็ถือว่า ทำได้ดี เพลิน สนุกกว่าหนังฮีโร่หลายๆเรื่องของปีนี้ครับ แต่ ความกลมกล่อมภาคแรกทำได้ดีกว่าหน่อย อาจจะด้วยความว้าวภาคแรกมันทำได้อลังไปแล้ว ภาคนี้เลยอาจจะทำให้ดูเหมือนดรอปไปครับ แม้ว่าจริงๆ มันไม่ได้ดรอปไปแต่ความรู้สึกแบบภาคแรกที่เราเห็นใต้ทะเลครั้งแรกมันก็ชินตาไปแล้วด้วยส่วนนึงนั้นเอง
งานบท เนื้อหา พยายามนำเสนอยังไงให้แตกต่างกับภาคแรกอาจจะเป็นเรื่องท้าทายเหมือนกัน เพราะภาคแรก แนวผจญภัย ตามล่า เล่าแบบใหม่ในยุคนั้น แต่ครั้งนี้จะเล่นแบบเดิมก็ไม่ได้ แต่ก็ยังคงแนวทางคล้ายๆเดิม แต่เสริมด้วย ตัวละคร พี่น้อง และ ครอบครัวนิดหน่อย เรียบๆง่ายครับ แต่ด้วยการแก้หนังหลายๆรอบมันเลยมีบางจุดที่อาจจะไม่ราบรื่นบ้าง หรือ จุดพีคของส่วนท้ายๆอาจจะดรอปไปพอสมควร แต่ช่วงแรกๆกลางเรื่องกำลังทำได้ดีเหมือนรีบตัดจบไปนิดนั้นแหละ ทำให้เหมือนเราไปทำภารกิจย่อยๆ แต่พอมาตอนจบภารกิจหลักมันก็เคลียร์แบบง่ายๆนั้นเอง ไม่ได้มีเนื้อหา ดราม่าอะไรซับซ้อนครับ เป็นหนังฮีโร่ ที่ดูเพลินๆ ชิลๆไม่ต้องคิดอะไร และ ไม่ปวดหัว แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อด้วย แถมมีความเฮฮา มุกตลกแบบโบ๊ะบะ เนียนๆไม่เยอะเกินไปทำให้เราสามารถสนุกไปกับมันได้โดยที่ไปตามจังหวะหนัง
ยังไงก็ตามจุดนึงที่ผมว่าทำได้ดี คือ เคมีทั้ง 2 ตัวละครที่ครั้งนี้พอมาอยู่ด้วยกัน การทำภารกิจ เคมีการโต้ตอบ มุกตลกต่างๆมากมายมันทำให้เราไม่เบื่อต้องยกความดีให้กับนักแสดงหลัก 2 คนนี้เลยแหละ ไม่ว่าจะเป็น Jason Momoa ที่รับบท AQUAMAN และ Patrick Wilson ที่รับบท KING ORM นั้นเองครับ ส่วนตัวอื่นๆ หรือ ตัวร้ายเองก็มีมิติมากกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้เน้นอะไรมากจนน่ากลัวหรือรู้สึกเท่าไร เรียกได้ว่าตัวแบก 2 ตัวทำให้หนังมันไหลลื่น แม้จะมีการปรับแก้อะไรเยอะแยะ แต่ตัวหลัก 2 ตัวละครก็สามารถทำให้มันเนียนขึ้น ไปได้ไหลลื่นเหมือนเดิมครับ
แต่ที่ชอบอย่างนึงเลยคืองาน ภาพ เสียง ไม่ผิดหวัง ดีเหมือนเดิมครับ ความเนียนของงานภาพต่างๆ CGI สวยใต้ทะเลเนียน ไม่ลอย และ มิติภาพดี อีกทั้งใช้ IMAX ถ่ายทั้งเรื่อง ภาพแบบเต็มจอทั้งหมด และ ถ้าดูโรงธรรมดาจะโดนตัดภาพออกไปด้วยนะบนล่างครับ อย่างน้อยไปดูงานภาพผมว่าคุ้มมากๆแล้วและการเล่นแสงสี มุมมองกล้องเวลาต่อสู้มันไว สนุก และ อารมณ์คล้ายกับเราดู STARWAR ใต้น้ำในแง่ของความแปลกใหม่ ของเมือง แสงสี เรือต่างๆให้ความรู้สึกแบบนั้นได้ดี และ งานเสียงเพลงประกอบประจำตัวก็ยังคงใส่มาได้ดี และ สร้างอารมณ์ร่วมได้เหมือนเดิม
โดยรวมก็ยังคุ้มค่าในการดูครับ ไม่เสียดายเงิน ไม่เสียเวลา และถ้ามองความอลังการ แอคชั่นงานภาพ ความสนุก มันสามารถทำได้ดีกว่าทั้ง Blue Beetle / The Flash / The Marvels / THOR 4 พวกนั้นได้แน่นอนครับ งานภาพสวยเนียน แอคชั่นทั้งเรื่อง สู้กันสนุก และ ความแปลกใหม่ของแต่ละซีนก็ยังคงทำได้ดี แม้เนื้อหาจะไม่ได้ดราม่าลึก หรือ อะไรมาก เป็นหนังฮีโร่สูตรสำเร็จ เหมือนเล่นเกมผ่านด่านต่างๆนั้นแหละครับ เลยดูง่ายไปหน่อย และ เรียบๆ แต่ถ้าคนที่ชอบ แอคชั่น ฉากต่อสู้เยอะๆ เรื่องนี้ให้ได้แบบเต็มที่แน่นอน และ IMAX ทั้งเรื่อง ไม่ควรพลาดโรงนี้ครับ