เป็นหนังภาคแยกที่แยกออกมาจากตระกูล Fast Furious ที่เป็นการเล่าเรื่องตัวละครแตกแยกออกมาเพิ่มเติม เล่าเจาะไปถึงตัวละคร พี่โล้น 2 คน คือ Hobbs ( The Rock ) และ Shaw ( Jason ) นั้นเองแน่นอนว่า ยังคงใช้ชื่อ Fast Furious อยู่แต่อาจจะไม่ได้อิงอะไรมากนักเป็นแค่เอาตัวละครมาเล่าเพิ่มเติม และอาจจะไม่ได้มีแข่งรถอะไรเท่าไรครับ ด้วยการที่ตัวหนังภาคหลังนั้น เล่าเรื่องได้เวอร์วัง หลุดโลกออกไปเรื่อยๆ ในภาคนี้ก็เช่นกัน เป็นภาคแยกที่เล่าเรื่องได้เวอร์กว่าเดิมขึ้นไปอีก ทั้งเรื่องแอคชั่น และ ตัวละคร ที่ต้องบอกว่าเป็น หนัง Superhero ก็ไม่เวอร์เกินไปจริงๆ และยิ่งภาคแยกแบบนี้คงไม่ต้องแข่งรถอะไรกันแล้วหละ ในตัวหนังเองก็ตอบโจทย์ความบ้า สนุก ได้ครบจัดเต็ม
ตัวหนังในเรื่องของตัวบทนั้นไม่มีอะไรอยู่แล้วเรียบๆ เดาง่าย และเล่าเรื่องแบบทั่วไป 1-2-3 ไม่ได้มีอะไร ให้คิดเยอะหรือ พลิกล็อคอะไรมากเลยแหละ ตัวหนังเล่าเรื่องแบบเรียบๆเดาได้ง่ายและไม่ได้มีดราม่า ประเด็นอะไรเยอะแยะครับ คือดูง่ายจนแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย เป็นหนังที่ดูแล้วคลายเครียด ฆ่าเวลาได้ดีครับ บทจะเน้นไปที่การเล่าเรื่องที่จะแก้ปัญหา กู้โลกแบบที่เราคุ้นเคยกันเป็นเรื่องปกติแต่แทรกเรื่องพี่น้อง ครอบครัวเข้ามาบ้างเล็กน้อยครับ เป็นปกติของตระกูล Fast ที่จะหยิบเรื่องครอบครัวเข้ามาบ้างเล็กน้อยให้มัน กลมกล่อมขึ้น ก็ถือว่าเป็นจุดปกติของหนังแอคชั่นนะในจุดนี้ จริงๆตอนเห็นตัวอย่างเราก็คงพอเดากันได้แล้วหละว่าอย่าไปหวังบทอะไรมันเยอะ เพราะจะเจอคำถามพอสมควรว่าทำไมแบบนั้น แล้วเรื่องนั้นจะเป็นยังไงอะไรแบบนี้จะขึ้นมาเรื่อยๆแน่นอน
ตัวนักแสดง เองนั้นเป็นจุดเด่นมากๆที่ช่วยหนังเอาไว้ทั้งนักแสดงหลัง นักแสดงรับเชิญที่ค่อนข้างว้าว และ ช่วยเติมสีสันของหนังได้เยอะเลยไม่งั้นคงไม่ลงตัวเท่านี้ครับ และทั้งตัวร้าย ก็แสดงออกมาได้ค่อนข้างดีคือแบกหนังได้สบายๆและตัวหลักทั้ง 2 คนนั้นต้องบอกว่าเคมีค่อนข้างเข้ากันเลยคือทั้งการตอบโต้ การจิกกัดต่างๆก็ทำได้ลงตัว และเป็นส่วนนึงของหนังที่พยายามแทรกเข้ามาตลอดนะ ทั้งมุก ทั้งการจิกกัดหนังต่างๆ แน่นอนว่ามีหลายๆมุกอาจจะไม่ได้ฮาอะไรขนาดนั้น แต่พวกฮาๆจะไปตกกับนักแสดงรับเชิญที่เข้ามาแบบแย่งซีนได้ดีนะ ส่วนนักแสดงสาวก็เป็นจุดที่ดีอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ VANESSA KIRBY นั้นมีความสวยและดึงดูดอย่างมากในทุกๆฉากที่ออกมา คือเป็นอีกจุดหลายๆคนน่าจะชอบกันครับ ด้านของการแสดงนั้นไม่มีอะไรต้องติดในหลายตัวละครครับถือว่าทำออกมาได้ดีเลย
ในเรื่องของเนื้อหานั้นต้องบอกว่า ผกก ได้เต็มที่ใส่ความบ้าหลุดโลกเข้าไปแบบไม่ยั้ง ผกก ก็คุ้นเคยกันดีจาก Deadpool 2 แน่นอนว่าถนัดอยู่แล้วหนังอะไรแนวนี้และยิ่งเข้ามากำกับตระกูล Fast ที่อาจจะออกนอกโลกไปทางหนัง Superhero แล้วก็ว่าได้ทำให้ใส่ได้จัดเต็มทั้งเรื่องของ ความบู้ล้างผลาญของตัวหนัง ฉากแอคชั่นต่างๆที่ใส่เข้ามาทั้งเรื่องและ ความบ้า ความโม้ ที่ล้มหลามทุกอย่างจากโลกความจริงออกไป แต่อันนี้แหละคือจุดที่เราจะสนุกไปกับตัวหนังและค่อนข้างลงตัวนะ คือเรื่องของการเล่านั้นก็ค่อนข้างหลุดแล้วก็ไปให้สุดให้มันจัดเต็มใส่คนดูแบบนี้ค่อนข้างโอเคครับ และ ยิ่งฉากจบนั้นแอคชั่น โม้ อลังการจัดเต็มไปอีก แต่บางทีแอบรู้สึกว่ายืดยาวไปครับในจุดนี้
ในเรื่องของภาพมุมกล้องเรื่องนี้ค่อนข้างธรรมดา ทั้งเรื่องของ CG และ ฉากต่างๆยังมีลอยๆให้เห็นบ้างครับแต่ตัดไปมาได้ค่อนข้างไวและอาจจะดูไม่ค่อยออกกัน ส่วนเรื่องของโลเคชั่นก็หาได้สวยในหลายๆที่ แต่งานภาพโดยรวมนั้นไม่ได้เด่นอะไรครับเป็นเหมือนหนังทั่วๆไปที่ไม่ได้เน้นอะไรมากในจุดนี้ และที่ไม่ค่อยชอบคือ การเร่งเสียงของเพลง และ Effect บางอย่างตอนแรกคิดว่าเป็นที่โรงแต่เหมือนจะเจอกันทุกที่คือเสียง เพลงดนตรีมันดังเกินปกติ และ แอคชั่นอะไรบางช่วงเสียงนั้นทำดังไปหน่อยครับ จริงๆดังเกินความจำเป็นไปจริงๆนะจริงๆตัวหนังเองถือว่ารู้อยู่แล้วว่ามันแนวไหนก็เน้นได้ถูกจุดดีนะ แม้ว่าบทจะมีตัวละครที่ทำอะไรบ้าๆ โง่ๆออกมาเยอะก็แล้วแต่รวมถึงฉากหลายๆฉากที่ดูแล้วแบบ ทำแบบนี้ก็ได้หรอ เอาจริงดิแบบนี้มาได้เรื่อยๆตลอดการดูก็ตาม แต่อย่างที่บอกกันไปอย่าคิดอะไรมากกับเรื่องนี้ครับ
HobbsAndShaw เป็นหนังที่ บ้าหลุดโลก แอคชั่นจัดเต็ม แทรกมุก ความจิกกัดกันเข้ามาแบบเต็มที่ ให้คนดูสนุกไปกับมันและมันก็ทำได้ดี ความเวอร์ มันไปได้สุดเกินหน้าเกินตาหนังตระกูลหลักของมันไปแล้ว ก่อนเข้าไปดูไม่ต้องคิดอะไรเยอะแยะ แค่หาหนังคลายเครียดดูสนุกไปกับมันแค่นี้พอครับ และมันทำได้ดีจนเป็นหนังแอคชั่นที่ สนุกและมีส่วนร่วมกับตัวหนังได้ดีอีกเรื่องเลยนะ แม้จะมีปัญหาในเรื่องของการเชื่อมโยงแต่ละส่วนของตัวละคร และ บทของมันไปบ้าง รวมถึง ฉาก เพลงที่แอบขัดใจครับ แต่ถ้าดูเอาพลินๆเรื่องนี้ตอบโจทย์อย่างแน่นอน ไปดูกันได้เลย
มี End Credit 3 ตัวนะครับ รอจนหนังจบยาวๆเลย ก็ไม่ได้มีผลตัวหนังหลักอะไรมากนักครับ แต่ก็ดูไว้ดีฮาๆดีครับ