เป็นหนังที่ต้องบอกว่าตอนแรกที่ได้ดูนั้นมันยังไม่เข้าไปได้ดูที่เมืองนอกและหลังจากกระแสได้รางวัลเยอะก็ได้มีโอกาสเข้าไทยครับแต่น่าเสียดายหลายๆคนยังไม่ค่อยรู้จักเรื่องนี้ดีเท่าไรนัก เป็นหนังที่ค่อนข้างนอกกระแสแต่บอกเลยว่าหลังจากที่ได้ดูแล้วเนื้อหา บทมันดีมากๆเลยแหละ เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับยุค Hitler ได้ดีแต่เป็นการเล่าเรื่องผ่าน มุมมองของเด็กที่ไร้เดียงสามากๆ แต่เนื้อหาบอกเลยว่ามันดาร์กมากจริงๆถ้าดูแล้วจะรู้เลยว่าทำไมมันดาร์กและเล่าเรื่องออกมาได้สดใสและไร้เดียงสาขนาดนั้นต้องชื่นชมบทและผกก เรื่องนี้ที่ตีความออกมาในอีกมุมมองที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นเรื่องไหนเล่าแบบนี้และ กลับกลายเป็นว่ามันทำออกมาได้น่าสนใจอย่างมากครับ ตัวหนังเล่าเรื่องราวของเด็กชื่อ โจโจ้ เด็กชายวัย 10 ขวบผู้คลั่งไคล้นาซีและมีฮิ
เนื้อเรื่อง และตัวบทถือว่าเป็นตัวชูโรงของเรื่องนี้ การเล่าเรื่องการดัดแปลงทำได้ลงตัวกลมกล่อมแม้จะเนื้อหาดาร์กแต่ก็เอามาเล่าได้เข้าใจง่าย ไปเชิงตลกร้ายของสังคมนั้นรวมถึงแทรกด้วยมุมมองไร้เดียงสาของเด็กที่ไม่ได้เข้าใจอะไรมากนัก มีแต่ข้อมูลความเชื่อฝ่ายเดียวแต่พอดำเนินเรื่องไปนั้นมีการพัฒนาของแต่ละตัวละคร ความเชื่อที่ต้องใช้อะไรหลายๆอย่างเพื่อที่จะเข้าไปสู่ความถูกต้องและความจริง และความโหดร้ายในหนังก็มีมาบ้าง ดาร์กพอสมควรครับ คือหนังมันเล่าเรื่องแบบสดใสๆชิลๆ แต่พอบางช่วงก็ดาร์กแบบสะใจจนปรับอารมณ์ไม่ทัน แต่เป็นจุดพีคที่หนังหยิบมาเล่นได้ดีครับ ที่ต้องชมเพราะมันเล่นจังหวะหนังได้ดีทั้งการเล่าเรื่อง การตัดต่อที่ดูแล้วแบบลงตัวแทรกอารมณ์ได้ ไม่ดาร์กหดหู่ดเกินไป มีดึงมาผ่อนคลายแล้วมีแทรกมุกอะไรเข้ามาแบบลงตัว ต้องชื่นชม ผกก + มือเขียนบท คือ Taika Watiti จริงๆครับ รับหน้าที่ทั้ง 2 อย่างจัดเต็มได้อย่างพอดีและลงตัว
นักแสดงในเรื่องนี้ ทาง ผกก.เองก็ได้มาเล่นเป็น Hitler ด้วยตัวเองครับแน่นอนว่าในการเลือกนักแสดงนั้นก็ได้เอา สกาเล็ต โจแฮนสัน ถือว่าเป็นนักแสดงที่ทำได้ดีมากๆเคมีเข้ากันในหลายๆบทตัวละครที่ได้เล่นด้วยกัน และสาวชาวยิว โธมาซิน แม็คเคนซี่ ที่เล่นกับน้อง โรมัน กริฟฟิน เดวิส ก็สวยและเป็นอีกตัวละครที่เข้ากันมากๆครับ ทางด้านตัวละครหลัก โรมัน กริฟฟิน เดวิส ที่รับบท โจโจ้ เองก็เล่นได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อครับทั้งท่าทาง ความกระตือรือร้น ความไร้เดียงสาที่แสดงได้ดีมากๆ และความรัก Hitler ที่สื่อออกมาได้ดี รวมถึงเพื่อนสนิท อาร์ชี เยตส์ ที่ก็เข้ากันราวกับว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆแบบสนิทกันมานานครับ และ ตัวละครเหล่านี้ได้ถูกบทที่มีความดาร์กในตัวแทรกเข้าไปผ่านการเล่าเรื่อง ที่ดูธรรมดาในยุคนั้นเข้าไปครับ
งานภาพของเรื่องนี้ ถือว่าสวยมีการย้อมโทนสีในแต่ละช่วงแตกต่างกันไปครับ แต่เรื่องของมุมมองมุมกล้องอะไรอาจจะไม่ได้เด่นมากนักแต่ชอบที่การเล่าเรื่องในการตัดต่อพวกนี้จะเด่นกว่า ในแง่ของดนตรีประกอบนั้นมีความลุ้นระทึกไปในบางฉาก มีให้ความหวังเข้ามาบ้างและรวมถึงเพลงคอนกระตุ้นอารมณ์ในแต่ละซีนครับ โดยรวมนั้นมันเด่นๆในเรื่องของบทจนไม่แปลกใจว่าทำไมได้รางวัลในเวทีใหญ่ๆหลายๆเรื่องครับ รวมถึงนักแสดงก็ทำออกมาได้ดีแม้หนังจะมีความอินดี้จัดๆอยุ่บ้างแต่ก็ดูได้ไม่ยากและแฝงความตลกร้ายไว้เยอะ มีดราม่าน้ำตาไหลแทรกเข้ามาได้แบบลงตัวในทุกๆอย่าง เป็นข้อดีของการ กำกับและเขียนบทแบบที่ใจต้องการของ ไทก้าเองเลยทำให้หนังมันออกมาดีแบบนี้