The Current War เป็นเรื่องที่อยากดูและได้ติดตามมาซักพักครับด้วยการที่ค่อนข้างชอบเรื่องราวในอดีตและหนังีท่เราอิงจากเรื่องจริงแนวๆนี้มาพอสมควรเลยค่อนข้างชอบและติดตามแต่ด้วยเวลาที่ไม่ค่อยสะดวกนักเลยทำให้ไปดูค่อนข้างช้าและเมื่อไปดูมาเมื่อวานนี้ก็เจอว่าแต่ละโรงนั้นเหลือเพียงวันละรอบเท่านั้นแอบน่าเสียดายมากๆด้วยกระแส และ คนดูค่อนข้างน้อยมากในเรื่องนี้ก็แอบเสียดายนะ และก็ได้แต่สงสัยว่ามันไม่ดีหรือยังไงก็เลยต้องขอไปดูกันหน่อย
สำหรับเรื่องนี้นั้นหลักๆที่ไปดูเลยคือเรื่องของเนื้อหา และ นักแสดงที่จัดหนักจัดเต็มทุกคน และ จริงๆก็ประทับใจการแสดงของ Benedict มาในหนังแนวๆนี้เช่นแต่ก่อนคือเรื่อง the imitation game นั้นแหละครับ แต่มาครั้งนี้ในหนัง The Currrent War นั้นมันไม่ได้เจาะไปที่คนๆคนเดียวแต่จะเป็นการเล่าเรื่องเหตุการณ์ในช่วงนั้นซะมากกว่า ในการแข่งขันของ Edison – Tesla – Westinghouse ในช่วงนั้นและเป็นการหยิบเหตุการณ์สำคัญๆมาเล่ากันครับ หนังเรื่องนี้ได้ ผกก ALFONSO GOMEZ-REJON เป็น ผกก ทีวีซีรีย์ซะมากกว่าครับ แต่ด้วย ดารา ระดับแนวหน้าทั้งหมดที่เป็นตัวละครหลัก เสริมนั้นเลยทำให้ค่อนข้างหวังกับเรื่องนี้ไว้พอสมควรเลยแหละ แต่พอไปดูแอบผิดหวัง
มาดูกันถึงจุดเด่นๆของมันกันก่อนสำหรับหนังเรื่องนี้ที่ค่อนข้างชอบและขอชื่นชมนั้นคงจะไม่พ้นในเรื่องของมุมมองการถ่ายภาพ มุมกล้องรวมถึงการถ่ายที่สวยและเล่นกับแสงสีได้ดีและแต่งโทนภาพค่อนข้างสวยอาจจะเป็นจุดเด่นหลักๆของเรื่องนี้ครับรวมถึงตัวหนังนั้นในแง่ของเนื้อหามันดูเบาย่อยง่าย คือคนทั่วไปดูรู้เรื่องแน่ๆครับไม่ได้ลงลึกขนาดนั้น และทำให้ดูง่ายไม่ต้องคิดตามอะไรมาก แต่มันก็เป็นจุดที่เบาเกินไปของหนังเรื่องนี้อีกด้วยซึ่งตัวหนังเอง เล่าเรื่องค่อนข้างบางเบาและไม่ได้ลงลึกอะไรเลย และพาคนดูเข้าไปไม่ถึงอารมณ์ของแต่ละเรื่องราวหรือตัวละครนั้นได้เลยครับ ในจุดนี้คงต้องบ่นเรื่องของ บทของแต่ละคนที่นัดแสดงจะระดับแนวหน้าก็ไม่สามารถพาอารมณ์คนดูเข้าไปร่วมลุ้นอะไรกับตัวหนังหรือเข้าถึงมิติของแต่ละตัวละครได้เลย อันนี้อยู่ที่ตัวบทมันไม่ส่งให้กับนักแสดงเลยครับ แน่นอนว่านักแสดงก็ทำได้ดีอยู่แล้วในเรื่องของ การแสดงอารมณ์และมีความเข้าถึงตัวละครได้อยู่ในบท แต่มันกลับทำให้เราไม่ได้มีส่วนร่วมเท่าไรนัก ถือว่าเป็นจุดอ่อนหลักๆของตัวหนังเรื่องนี้ในเรื่องของ บท เนื้อหา การเล่าเรื่องที่ไม่ค่อนดีเท่าไรนัก
การตัดต่อเล่าเรื่องก็อาจจะเป็นจุดที่แอบแปลกๆคือมีการเล่าเรื่อง เหตุการณ์รอง เหตุการณ์หลักที่ค่อนข้างแปลก คือตัดสลับไปมา เลยทำให้คนนั้นไม่สามารถเข้าถึงแต่ละช่วงเหตการณ์ได้เท่าไร จะเน้นจุดนี้ก็ไม่เชิง ครับเลยทำให้มันครึ่งๆกลางๆ ไม่สุดในด้านการพาคนดูเข้าไปในตัวหนัง แน่นอนว่าดนตรีในเรื่องนี้ก็ทำได้ดีนะ มีส่วนช่วยได้บ้างครับไม่ได้แย่เลย และทำงานร่วมกันกับมุมกล้องก็เป็นจุดที่ช่วยให้เราไม่เบื่อและดูแล้วเพลินๆได้อยู่ครับ และ นักแสดงรองหลายๆคนนั้นกลับถูกใช้งานน้อยมากๆทั้งตัว Tom Holland – Nicholas Hoult เองก็ออกมาน้อยมากๆครับ
ถ้าจะมองว่ามันเป็นหนังประวัติศาสตร์ก็อาจจะไม่ได้อิงความจริงเป๊ะๆหรือละเอียดขนาดนั้นครับตัวหนังไม่ได้เล่าเรื่องแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่จะเชิดชู Edison เลยคือเป็นเหมือนพาเราไปอยู่ในเหตุการณ์การแข่งขันของทั้ง 2 ฝ่ายมากกว่าครับ ที่จะมาเล่าเรื่องว่าการแข่งขันในช่วงนั้นเป็นยังไง ใช้เทคนิค การโกงอะไรต่างๆที่ทำให้ฝ่ายอีกฝ่ายชนะหรือแพ้เป็นไปตามเรื่องเล่าจากประวัติศาตร์ในหลายๆจุดครับ เป็นการสู้กันระหว่างไฟฟ้า กระแสสลับ กระแสตรงอะไรแบบนั้นแน่นอนว่ามันไม่สุดเลย ไม่สามารถพาเราไปลุ้นกับการแข่งขันของทั้งคู่ได้ ได้แค่มองแข่งขันกันแบบห่างๆ จริงๆมันเป็นเรื่องที่อยากดูมากๆ งานภาพสวยมากจริงๆ แต่เนื้อห้ามันช่างเบาบาง อ่อนเหลือเกินจนนักแสดงก็เอาไม่อยู่ จึงน่าเสียดายมากจริงๆครับ เป็นเรื่องที่ ดูง่าย ดูเพลินแบบ เบาๆ งานภาพสวย แต่เนื้อหาไม่ได้ลงลึก หรือแน่นอะไร และตัวบทค่อนข้างธรรมดามากครับ และ ในช่วงนี้ก็น่าจะเหลือรอบน้อยแล้ว ยังไงถ้าใครชอบประวัติศาสตร์ก็สมควรไปดูอยู่นะ แต่อย่าไปหวังว่ามันจะลงลึกอะไรขนาดนั้นครับดูเพลินๆได้