Netflix เตรียมปรับใช้แผนป้องกันการแชร์รหัสผ่านภายในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยหลังจากที่แผนดังกล่าวถูกปรับใช้ ทางบริษัทจะเพิ่มแพ็คเกจที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อแชร์รหัสผ่านได้
ทาง Netflix คาดว่าหลังปรับใช้แผนป้องกันการแชร์รหัสผ่าน บริษัทอาจมีรายได้ลดลงในช่วงแรกเนื่องจากได้รับเสียงต่อต้านจากผู้ใช้งาน แต่ว่าในระยะยาวแผนดังกล่าวจะทำให้รายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางบริษัทไม่ได้ระบุรรายละเอียดแน่ชัด แต่คาดว่าแพ็คเกจสำหรับแชร์รหัสผ่านอาจถูกนำมาใช้ในช่วงเดือนเมษายน
ปัจจุบัน Netflix ได้เริ่มทดสอบวิธีการป้องกันการแชร์รหัสผ่านในผู้ใช้งานในอเมริกาใต้แล้ว โดยหากระบบตรวจเจอ จะบังคับให้ผู้ใช้ที่แชร์รหัสผ่านกันแต่อาศัยอยู่คนละที่ให้จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่ก็มีรายงานว่าวิธีการดังกล่าวไม่ได้ถูกบังคับใช้จริงอย่างมีประสิทธิภาพเท่าไรนัก
วิธีการห้ามไม่ให้ผู้ใช้งานแชร์รหัสผ่านเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ Netflix ใช้เอาใจนักลงทุน หลังจากที่มีการประกาศจำนวนผู้ใช้บริการว่ามีจำนวนลดลงเหลือ 7.6 ล้านคนในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ลดลงจาก 8.2 ล้านคนในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ส่วนกลยุทธ์อื่นๆ ในการสร้างรายได้ของ Netflix ก็ได้แก่การทำคอนเทนต์ Netflix original เช่น Wednesday ฯลฯ รวมทั้งการเพิ่มแพ็คเกจราคาถูกแบบมีโฆษณาเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานเพิ่มเติม แม้ว่าอย่างหลังจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนักในช่วงแรก แต่ทางบริษัทเชื่อว่ามันจะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดปี 2023
นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวที่สำหรับของ Netflix คือ Reed Hastings CEO ที่บริหารมา 25 ปีประกาศลงจากตำแหน่งผู้บริหาร และส่งไม้ต่อให้ Ted Sarandos และ Greg Peters แทน
อย่างไรก็ตามปี 2023 อาจไม่ใช่ปีที่สดใสสำหรับ Netflix มากนักเพราะทางบริษัทได้ปรับลดงบสำหรับผลิตคอนเทนต์ลดลงเหลือ 1.7 หมื่นล้าน$ (ราว5.5แสนล้านบาท) ทำให้มีจำนวนหนังใหม่ถูกฉายน้อยลงในปีนี้อ้างอิงจากแผนที่ทาง Netflix วางไว้
