จากการสำรวจใหม่ของ Global EV Alliance พบว่า ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กว่า 90% มีแผนที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นคันต่อไป ในขณะเดียวกัน มีเพียง 1% เท่านั้นที่บอกว่าจะกลับไปใช้รถยนต์สันดาป
Global EV Alliance รวบรวมข้อมูลจากผู้ขับขี่รถ EV กว่า 23,000 คน ใน 18 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส อินเดีย บราซิล ฯลฯ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ขับขี่ EV มีแนวโน้มที่จะยึดติดกับตัวเลือกไฟฟ้ามากกว่าที่จะกลับไปใช้รถยนต์น้ำมันมากขึ้น ตามการสำรวจ โดย 92% วางแผนที่จะซื้อ EV อีกคัน ในขณะที่เพียง 1% เท่านั้นที่บอกว่าพวกเขาจะกลับไปใช้รถยนต์น้ำมัน อีก 4% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าจะเลือกรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)
ปัจจัยสำคัญที่สุดที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจไม่เปลี่ยนในจากรถ EV คือ ค่าใช้จ่ายรวมในการใช้งานต่ำกว่า (45%) ตามมาด้วยความมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (40%) ดีต่อสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น (32%) มีความสามารถในการขับขี่ที่ดี (21%) และมีต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ (18%)
เมื่อพิจารณาทั้งการขับขี่ที่เงียบและนุ่มนวลแทบจะเป็นไปไม่ได้ในรถยนต์น้ำมันที่ทันสมัยที่สุด ต้นทุนการขับขี่และการบำรุงรักษาที่แทบไม่มีเลย คุณก็จะเห็นว่าทำไมผู้ขับขี่ EV จึงไม่ค่อยกลับไปใช้รถยนต์น้ำมัน
นอกจากนี้ ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลงเรื่อย ๆ และสิทธิพิเศษทางภาษีในบางประเทศ รวมทั้งโปรโมชั่นพิเศษของแบรนด์ อย่าง Tesla ในบางประเทศ เช่น การชาร์จ Supercharging ฟรีสามเดือน ทำให้สามารถขับได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยดึงดูดให้คนติดใจรถยนต์ไฟฟ้าได้
