เรือธง ตัวจริงของ Nokia มาแล้วตัวแรก นั้นก็คือ Nokia 8  ซึ่งเป็นตัวแรกหลังจากภายใต้ HMD เลยก็ว่าได้ ซึ่งมาครั้งนี้ Nokia นั้นจัดเต็มในหลายๆด้านทั้งสเปค ฟีเจอร์ กล้อง เสียง แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ กล้องหลังคู่ 13 ล้านพิกเซล  Carl Zeiss ที่คุ้นเคยกันจากรุ่นก่อนๆ และ ยังมาพร้อม ระบบเสียง และ วัสดุตัวเครื่อง นั้นใช้วัสดุเป็นโลหะแบบ unibody โดยรองรับ IP54 ที่สามารถกันน้ำสาดได้ แต่ว่าเอาลงไปเล่นในน้ำไม่ได้ และพพร้อม กระจก Corning Gorilla Glass 5 แบบโค้ง 2.5D

Spec Nokia 8

OS: Android 7.1.1 Nougat

หน้าจอ: 5.3 นิ้ว LCD ความละเอียด Quad-HD (2560×1440) Corning Gorilla Glass 5

CPU: Qualcomm Snapdragon 835 + Adreno 540

RAM: 4GB / 6GB (Polished Blue)

หน่วยความจำภายใน: 64GB  / 128GB (Polished Blue) รองรับ microSD การ์ดสูงสุด 256GB

กล้องหลังคู่: Dual 13MP RGB OIS + 13MP Monochrome ZEISS optics, f/2.0, PDAF, IR range finder, dual tone flash

กล้องหน้า: 13MP, f/2.0, PDAF, display flash

มีสแกนลายนิ้วมือ

รองรับ IP54 กันน้ำกระเซ็นใส่อ่อนๆ

แบตเตอรี่: 3,090 mAh รองรับ Quick Charge 3.0 /

Nokia 8 มาพร้อมกับระบบเสียง OZO เป็นการเล่นเสียงแบบ 360 องศา เนื่องจาก Nokia 8 นั้นมีไมโครโฟนมาให้ถึง 3 ตัว

 Nokia 8  กลับมาใช้งานการพัฒนาร่วมกับ ZEISS อีกครั้ง โดยกล้องหลังนั้นใช้เป็นกล้องหลังคู่ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล  แบบแยกเซนเซอร์ขาวดำ ซึ่งจะไม่มีฟีเจอร์หน้าชัดหลังเบลอ หรือ เลนส์มุมกว้างนะครับ และ เซนเซอร์ที่ใช้คือ RGB + Monochrome ทำการจับภาพมารวมกันด้วยเทคโนโลยีของ Nokia ที่เรียกว่า Image Fusion Technology

Nokia 8 ชวนทุกคนถ่าย 'bothie' นอกจาก selfie

นอกจากนี้ยังสามารถถ่าย ภาพ หน้าหลังพร้อมกันได้อีกด้วย และสามารถ Live จากตั้วเครื่องได้เลยครับ ซึ่งโฆมดนี้นั้นเรียกว่า Dual-Sight mode

Nokia 8 เริ่มต้นที่ 600 ยูโร หรือประมาณ 23,500 บาทซึ่งก็ไม่ได้ถูกกว่าเรือธงฝั่ง Android ทั่วไปเท่าไหร่นัก ทั้งนี้ต้องรอดูว่ากล้องคู่ ระบบเสียง นั้นจะช่วยให้ Nokia กลับมาได้อีกครั้งหรือไม่ และในบ้านเราคงเข้ามา แต่เมื่อไรและ เท่าไร นั้นต้องติดตามกันต่อไปครับ